WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

AIRA copyบล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน



ทิศทางตลาด
คาดยังมีความผันผวน? ตามตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่เช้านี้ที่เคลื่อนไหว
  ไร้ทิศทาง มีทั้ง + / - คาดอยู่ระหว่างรอการประชุมเฟดในวันที่ 1 – 2/11/59 ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนว่าจะมีการพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งนี้หรือไม่? แต่อย่างไรก็ตามตลาดส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าเฟดจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ (13 – 14-12/59) 
  ทางด้านราคาน้ำมัน ยังมีความผันผวน อย่างไรก็ตามคาดยังถูกกดดันจากความไม่เชื่อมั่นว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่จะสามารถตกลงกันได้ ในการจำกัดการผลิต เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน โดยโอเปกจะประชุมอีกครั้งในวันที่ 30 พ.ย. ที่ประเทศ ออสเตรีย
ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศ คาดน้ำหนักต่อประเด็น Fund Flow กดดันเพิ่มขึ้น หลังต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง อย่างไรก็ตามคาดยังมีแรงเก็งกำไรตัวเลขผลประกอบการ Q3/59 ที่จะทยอยประกาศออกมา จนถึงกลางเดือนหน้า พร้อมยังแนะติดตามหุ้นในกลุ่มค้าปลีก รวมถึงหุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่เน้นลูกค้าระดับล่าง – กลาง เช่น DCC และ DRT เป็นต้น ที่คาดได้รับประโยชน์จากการที่มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่มีรายได้น้อย โดยลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร ที่คาดช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศ 

และยังแนะจับตา
  (1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
  (2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น EPG และ SCC  
  (3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI
  (4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK, SYNTEC
  (5) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น ส่วน BANPU ได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูง
  (6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO, KAMART และ ROBINS คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท 

SET SET50 SET100
1,498.36 +6.24 941.27 +2.85 2,120.14 +7.01

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
  (-/+) ตลาดต่างประเทศ DJIA -29.65, NASDAQ -34.29, S&P -6.39, FTSE +28.48, CAC -1.02 และ DAX +7.40
ภายใต้การซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน จากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ รวมถึงฟอร์ด มอเตอร์ ที่มีกำไรสุทธิ – 3Q/59 ลดลง 56% อยู่ที่ 957 ล้านUSD หรือ 24 เซนต์/หุ้น ปรับลงจาก 55 เซนต์/หุ้น เมื่อ 3Q/58 พร้อมประกาศปิดโรงงานในอเมริกาเหนือในเดือนนี้ เพื่อลดกำลังการผลิตรถยนต์ หลังยอดขายในสหรัฐฯ ชะลอตัว
  นอกจากนี้ยังถูกกดดันจากยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน – ก.ย. เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 0.1% สวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3%  ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ล่าสุด ลดลง 3,000 ราย อยู่ที่ 258,000 ราย และดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) – ก.ย.เพิ่มขึ้น 1.5% MoM อยู่ที่ระดับ 110
และอยู่ระหว่างรอการประชุมเฟด ในวันที่ 1 – 2/11/59 เพื่อดูว่าเฟดจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.หรือไม่?
ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยบวกจากตัวเลข GDP – 3Q/59 ของอังกฤษ ขยายตัว 0.5% ดีกว่าที่คาดว่าจะขยายตัว 0.3%
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$0.54 อยู่ที่ US$49.72 ต่อบาร์เรล ภายใต้ปัจจัยหนุนจาก (1) ซาอุดิอาระเบียและประเทศพันธมิตรในอ่าวเปอร์เซีย ระบุว่าจะปรับลดกำลังการผลิตลง 4% และ (2) ตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ ว่าลดลง 0.55 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล

P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
22.03 1.91 3.15

ที่มา: www.set.or.th

มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 52,398.88
สถาบัน 2,148.33
บัญชีหลักทรัพย์ -77.37
ต่างประเทศ -1,382.60
ในประเทศ -688.36

  ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$2.9 อยู่ที่ US$1,269.5 ต่อออนซ์ ภายใต้ปัจจัยหนุนจากความต้องการทองคำในอินเดียที่ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงการเฉลิมฉลองเทศกาลของชาวฮินดู แต่การปรับขึ้นเป็นไปอย่างจำกัดจากตัวเลขสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐฯ ข้างต้น และอยู่ระหว่างรอการประชุมเฟด ในวันที่ 1 -2 /11/59
  (-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -1,383 ล้านบาท สะสม YTD +117,837 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,173 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
  

ประเด็นที่ต้องติดตาม 28 ต.ค.  2559       
28/10/59 สหรัฐฯ เปิดเผย
   ประมาณการครั้งแรก GDP – 3Q/59 
   ดัชนีต้นทุนการจ้างงาน – 3Q/59
   ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนต.ค. 

  (7) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV และ BA

  ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.05 อยู่ที่ 1.84% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) 
  ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +1.12 อยู่ที่ 15.36
  หุ้นแนะนำ : VNG

 นักวิเคราะห์ : จิตรลดา  เลขาพันธ์ โทร .02-684-8788 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!