WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)

 

SET Index: แนวต้านสำคัญ 1500
  SET Index: 1496.43 ปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรที่บริเวณแนวต้านสำคัญของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 1500 จุด ซึ่งเรายังคงคาดว่า แนวโน้มของ SET Index ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแนวโน้มขาลง โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1500 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1505 และ 1510 จุด และมีแนวรับในระยะสั้นที่ 1480 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1430 จุด และมีแนวรับสำคัญของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1420 จุด
  แนวต้าน : 1497 และ 1500
  แนวรับ : 1490 และ 1486

JAS = 8.20 / 8.40, SQ = 4.14 / 4.30, SCC = 490 / 496, BJC = 51.00 / 52.00, PTT = 347 / 350

Thaicom (THCOM TB; THB 20.00) - ซื้อ
  แนวต้าน : 21.00 และ 21.30 / แนวต้านสำคัญ 23.00
  แนวรับ : 20.00 และ 19.80
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือเส้นแนวโน้มขาลง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้แนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
  แนะนำซื้อ THCOM โดยมีแนวรับที่ 20.00 และ 19.80 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 21.00 และ 21.30 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 19.40 ลงไป

Plan B Media (PLANB TB; THB 5.25) - ซื้อ
  แนวต้าน : 5.45 และ 5.60 / แนวต้านสำคัญ 5.80
  แนวรับ : 5.25 และ 5.20

  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น ในขณะที่โครงสร้างในระยะสั้นยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
  แนะนำซื้อ PLANB โดยมีแนวรับที่ 5.25 และ 5.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.45 และ 5.60 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.96 ลงไป

SET50 Index Futures
  S50Z16 เคลื่อนไหวในกรอบแคบต่ำกว่าระดับ 940 ต่อเนื่อง หลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคหลุดแนวรับที่ 947 ลงไป ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยมีแนวรับถัดไปที่ 930 ในขณะที่ความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงอยู่ที่บริเวณ 905-910 และมีแนวต้านสำคัญที่ 947


  แนวต้าน : 938 และ 940
  แนวรับ : 934 และ 930
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ใน S50Z16 ที่แนวต้าน 938-940 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 930
  STOP LOSS สถานะ Short ถ้า S50Z16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 947 ขึ้นไป

JASZ16
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 8.40 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่บริเวณ 8.80 ซึ่งเราคาดว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 8.30 น่าจะมีแรงขายทำกำไรออกมา จึงแนะนำให้ Open Short ใน JASZ16 ที่บริเวณ 8.20-8.30
  แนวต้าน : 8.25 และ 8.30
  แนวรับ : 8.00 และ 7.80
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ใน JASZ16 ที่แนวต้าน 8.20-8.30 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 7.40 และ 7.30
  STOP LOSS สถานะ Short ถ้า JASZ16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปปิดเหือ 8.35

BEMZ16
  เคลื่อนไหวในกรอบแคบหลังจากปรับตัวลดลงจากถูกขายทำกำไรที่บริเวณแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาลงที่ 7.80 ขึ้นมาได้แล้ว หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวโน้มขาลงที่ 7.00-7.10 กลับขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 7.20 และ 7.10
  แนวต้าน : 7.50 และ 7.60
  แนวรับ : 7.30 และ 7.20
  คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ใน BEMZ16 ที่แนวต้าน 7.50-7.60 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 7.10-7.20
  STOP LOSS สถานะ Short ถ้า BEMZ16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 7.70 ขึ้นไป

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

SET...กลับมาทดสอบ 1500 จุดอีกครั้ง
  เมื่อวานนี้มีการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 ของ PTTEP SCCC BIGC BJC ออกมา โดย PTTEP รายงานกำไรสุทธิออกมา 5,446 ล้านบาทหรือ 1.33 บาท/หุ้น (+105% qoq) และพลิกจากขาดทุน 46,212 ล้านบาทในไตรมาส 3/58 เนื่องจากในไตรมาสนั้นมีการตั้งสำรองด้อยค่าจำนวนมากจากการที่ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงไปมาก โดยหากพิจารณากำไรปกติจากการดำเนินงานที่ออกมาจะดีกว่าที่เราคาด 15% แต่ต่ากว่าที่ Bloomberg consensus คาด 2% เรายังแนะนำ ซื้อ โดยให้ราคาเป้าหมาย 98 บาท ส่วน SCCC ก็ประกาศกำไรไตรมาส 3/59 ออกมาที่ 455 ล้านบาท (-45% yoy, -63% qoq) ต่ำกว่าที่ตลาดคาด 61% ในขณะที่แนวโน้มผลกำไรในไตรมาส 4/59 น่าจะได้รับผลกระทบจากการที่ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องกว่า 90% นับจากต้นปีจนมายืนเหนือ 100 เหรียญ/ตันในปัจจุบัน ทั้งนี้เนื่องจากถ่านหินเป็นต้นทุนเชื้อเพลิงหลักในธุรกิจซีเมนต์ ดังนั้นเราคาดว่าราคาหุ้น SCCC มีโอกาสปรับลดลงต่อจากความผิดหวังงบและแนวโน้มกำไรที่อ่อนแอ


  ในขณะที่ BIGC ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 ออกมามีกำไร 1,538 ล้านบาท (+15% yoy, -31% qoq) ดีกว่าที่ตลาดคาด 7.4% ซึ่งยืนยันถึงการฟื้นตัวของกำลังซื้อในประเทศหลังจากที่รายได้ภาคการเกษตร (farm income) ฟื้นตัวขึ้นมา 12.4% yoy ในเดือนก.ย. บวกกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่ดีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไรอีกด้วย โดยคาดว่าราคาหุ้นจะตอบสนองในเชิงบวกวันนี้ โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย BIGC ไว้ที่ 215.45 บาท (Buy/Hold/Sell : 5/10/7) ในขณะที่ BJC ก็ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 ออกมามีกำไรสุทธิ 1,800 ล้านบาท (+118% yoy, +302% qoq) หรือ EPS 0.57 บาท ต่ำกว่าที่ตลาดคาด 6% แต่หากหักรายการกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 1,354 ล้านบาทออก จะมีกำไรปกติ 717 ล้านบาท ต่ำกว่าตลาดคาด 17% โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมายที่ 52.35 บาท (Buy/Hold/Sell : 12/2/1) ดังนั้นคาดว่าวันนี้จะมีแรงขายทำกำไรระยะสั้นออกมาสำหรับ BJC หลังประกาศงบออกมาต่ำกว่าตลาดคาด


  สำหรับบริษัทที่คาดว่าจะประกาศงบต่อไปในสัปดาห์หน้าประกอบด้วย DCC STANLY GLOW BH JASIF JAS PSL VGI LPN IRPC โดย Bloomberg consensus คาดว่า DCC จะมีกำไร 321 ล้านบาท (+17% yoy) ให้ราคาเป้าหมาย 4.52 บาท (Buy/Hold/sell : 4/5/2), GLOW คาดว่าจะมีกำไร 2,072 ล้านบาท (+4.5% yoy) ให้ราคาเป้าหมาย 89.28 บาท (Buy/Hold/sell : 6/5/5), BH คาดว่าจะมีกำไร 877 ล้านบาท (+4% yoy) ให้ราคาเป้าหมาย 185.27 บาท (Buy/Hold/sell : 8/14/6), JASIF คาดว่าจะมีกำไร 1,301 ล้านบาท (+12% yoy) ให้ราคาเป้าหมาย 12.50 บาท (Buy/Hold/sell : 5/2/0), LPN คาดว่าจะมีกำไร 476 ล้านบาท (-53% yoy) ให้ราคาเป้าหมาย 12.37 บาท (Buy/Hold/sell : 2/10/13) และIRPC คาดว่าจะมีกำไร 1,282 ล้านบาท (+44% yoy) ให้ราคาเป้าหมาย 5.77 บาท (Buy/Hold/sell : 17/3/1)
  เมื่อวานนี้มีการประกาศราคาถ่านหิน ออกมาเพิ่มขึ้น 7.78 เหรียญ/ตันหรือ +8.2% wow มาอยู่ที่ 102.69 เหรียญ/ตัน เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนที่ +10.44 เหรียญ/ตัน หรือ +12% wow จาก supply ในประเทศจีนที่ลดลงหลังรัฐบาลออกมาตรการควบคุมการผลิต, ความต้องการใช้ถ่านหินที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงและปริมาณถ่านหินคงคลังที่ลดลงอย่างต่อเนื่องก็ยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคาถ่านหินให้ปรับขึ้นต่อได้ ซึ่งจะเป็นผลบวกกับหุ้นกลุ่มถ่านหินที่เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไร อย่าง BANPU และ LANNA


  สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้าจะเป็นการประชุมธนาคารกลางสำคัญต่างๆ ทั่วโลก โดยเริ่มจากการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 1 พ.ย. โดยเรายังคาดว่า BOJ จะยังไม่มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มหลังจากที่ค่าเงินเยนเริ่มกลับมาอ่อนค่าลงจากระดับ 100 เยน/ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 105 เยน/ดอลลาร์ ก็ช่วยคลายความกังวลในภาคการส่งออกและท่องเที่ยวไปได้ในระดับหนึ่ง ส่วนวันที่ 1-2 พ.ย. ก็จะเป็นการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) โดยผลสำรวจของ Bloomberg consensus จากนักเศรษฐศาสตร์จำนวน 67 ราย ทั้งหมดคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.50% ในการประชุมครั้งนี้และคาดว่าจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 0.75% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค. นี้ ตามที่เฟดแถลงว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 1 ครั้งในปีนี้ ดังนั้นหากผลการประชุมออกมาตามคาดก็ไม่น่าจะมีผลกระทบกับตลาดหุ้น และสุดท้ายในวันที่ 3 พ.ย. จะมีการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ซึ่งแม้ว่าในการประชุมเดือนส.ค. BOE จะมีมติเป็นเอกฉันท์ 9-0 เสียง ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยกรรมการส่วนใหญ่ของ BoE คาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% ในช่วงปลายปีนี้ หากตัวเลขเศรษฐกิจสอดคล้องกับการคาดการณ์ของ BoE หลังผลการ vote Brexit ออกมาว่าประชาชนต้องการออกจากยูโรโซน แต่อังกฤษยังมีเวลา 2 ปีในการเตรียมตัว ทำให้เรายังไม่คาดว่า BOE จะมีการเคลื่อนไหวอะไรเพิ่มในตอนนี้


  กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ยังคงเป็นแบบ selective buy โดยเลือกหุ้นที่คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 ออกมาดีหรือมี story ระยะสั้นเป็น catalyst อย่าง BANPU CK CPALL CPF GFPT SG KCE LH ROBINS UNIQ วันนี้เราให้แนวรับที่ 1488-1495 จุดและแนวต้านที่ 1507-1510 จุด หุ้นแนะนำ ซื้อเก็งกำไร ได้แก่ LH PTTGC ROBINS TU

Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

Morning Market Summary...
  SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,496.43 จุด ลดลง 1.93 จุด (-0.13%) มูลค่าการซื้อขาย 30,111.67 ล้านบาท หุ้นไทยในช่วงเช้าผันผวนในกรอบแคบ ดัชนียังถูกขายทำกำไรบริเวณ 1500 จุด ตลาดรอปัจจัยใหม่มาหนุน ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ ติดตามการประกาศงบ Q3/59 ของบริษัทจดทะเบียน ตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ (คืนนี้) การประชุมกลุ่มโอเปก และประเทศนอกกลุ่มโอเปก (28-29 ต.ค.) การประชุมเฟด (1-2 พ.ย.)

Afternoon Perspective...
  แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งแคบ ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน โดยตลาดขาดปัจจัยใหม่ๆเข้ามาสนับสนุน ในขณะที่ปัจจัยลบที่ต้องจับตาดูคือการทยอยขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาติ โดยนักลงทุนต่างชาติมียอดขายขายสุทธิติดต่อกัน 2 สัปดาห์ติด และสัปดาห์หน้าตลาดน่าจะจับตาดูไปที่การแถลงการหลังการประชุมเฟดในวันที่ 2 พ.ย. เพื่อดูความน่าจะเป็นของการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. หากออกมาสนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ย SET น่าจะเกิดปรับฐานอีกครั้ง โดยมีโอกาสที SET จะลงกลับไปที่ระดับ1440 - 1455 จุด โดยมีแนวต้านเดิมที่ 1500 จุด ระยะสั้นเน้นขายทำกำไรในจังหวะที่ตลาดรีบาวน์ โดยเฉพาะบริเวณ1500 จุดขึ้นไป

Technical Pick (PM) ...
  Thaicom (THCOM TB; THB 20.00) - ซื้อ
  Plan B Media (PLANB TB; THB 5.25) - ซื้อ

Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!