- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 31 July 2014 15:58
- Hits: 2261
บล.ทิสโก้ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -1.76 จุด พลิกร่วงแค่เล็กน้อย ไล่ซื้อบ่ายหวังรีบาวด์
SET ผันผวนมาก และแกว่งอิงแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยร่วงแตะระดับต่ำสุดที่ 1500 (สูงสุดที่ 1529) หลังกระแสเงินทุนตปท.ไหลเข้าแผ่วจากปัญหาการเมืองเชิงภูมิภาคศาสตร์ ก่อนที่จะมีแรงซื้อคืนเข้ามาเก็งกำไรหวังการดีดกลับทางเทคนิคในภาคบ่าย ต่างชาติขายสุทธิ 1.67 พันลบ. และ Short SET50 Index Futures 4.66 พันสัญญา
ทิศทางตลาดวันนี้ : แกว่งในทิศทางอ่อนลง
หุ้นโลกเมื่อคืน (30 ก.ค.) ปิดไร้ทิศทาง โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลง แม้ GDP ไตรมาส 2/57 ของสหรัฐฯ แข็งแกร่งมาก +4.0% vs คาด +3.2% (แต่สอดคล้องกับที่ DB คาดไว้ที่ +4.2%) ขณะที่ FED คงอัตราดบ.ระดับต่ำ 0.25% ต่อไป พร้อมลดการทำ QE ลงอีก 1 หมื่นล้าน$ เป็น 2.5 หมื่นล้าน$/เดือน ซึ่งเป็นการลด QE ครั้งที่ 6 ติดต่อกัน (ทีละ 1 หมื่นล้าน$) และการยุติ QE ยังคงเป็นไปตามกำหนดเดิม คือ ในเดือน ต.ค. นี้ อย่างไรก็ดี FED ยังไม่สร้างความชัดเจนมากนักเกี่ยวกับช่วงเวลาที่จะเริ่มขึ้นดบ. เพราะยังมองตลาดแรงงานยังฟื้นตัวไม่เต็มศักยภาพที่ควรจะเป็น ส่วนหุ้นยุโรปปิดลบ หลังผลประกอบการบจ.ออกมาแย่กว่าคาด นอกจากความเสี่ยงทางการเมืองเชิงภูมิศาสตร์ (Geopolitical Risk) เพิ่มขึ้นเรามองศก.สหรัฐฯ ที่ออกมาแข็งแกร่งกว่าคาด ประกอบกับการเข้าใกล้เวลาจะสิ้นสุด QE จะกดดันเงินบาทอ่อน หลังดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้กระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้ามีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง และอาจพลิกเป็นไหลออกได้ มอง SET เข้าสู่โหมดการปรับฐานแล้ว มีโอกาสอ่อนตัวได้อีก มีแนวรับ 1500 แนวต้าน 1530+/- อนึ่ง ตลาดหุ้นอินโดนิเซียปิดทำการต่อเนื่องถึงวันที่ 1 ส.ค. เนื่องในวันหยุดประจำชาติ
กลยุทธ์การลงทุน : Wait & See, หากดีดกลับ เป็นจังหวะขายลดพอร์ตต่อ
SET ไม่สามารถยืนปิดเหนือระดับ 1520 ได้ จึงเป็นจุดขายลดพอร์ต (Stop Loss) ของเราแล้ว แนะนำให้ Wait & See เรามอง SET เข้าสู่แนวโน้มซิกแซกลง (ปรับฐาน) หลุด 1500 โดยเราแนะนำให้รอทยอยสะสมรอบใหม่ที่ระดับต่ำกว่า 1480 ลงมา หุ้นแนะนำใน Weekly Stock Guru สัปดาห์นี้ (28 ก.ค. – 1 ส.ค.) ตอนนี้เหลือเพียง BEAUTY, BGH, TMB, SAMART ส่วน SF, WHA ขายตัดขาดทุนไปแล้วที่ -4% และเราขอปิดธีมหุ้นแนะนำทั้งหมดด้วย คือ 1.หุ้น SET100 ที่ราคายังขยับขึ้นไม่มาก (Laggards) และมีสัญญาณการสะสมหุ้นของต่างชาติ (IVL -4.5%, LH -7.5%, LOXLEY -7.0%, MEGA -5.4%, TOP -3.3%, WHA +12.6%) 2.เก็งงบ Q2 ดี (HMPRO +2.0%, KTB -2.2%) และ 3. หุ้นปันผล (BCP -1.7%, TTW +10.0%) โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ย -2.5%, -0.1%, +4.2% ตามลำดับ (เฉลี่ยทั้ง 3 ธีม = -0.7% เท่ากับ SET -0.7%)
หุ้นเด่นรายวัน : ไม่มี
ปัจจัยติดตาม
วันที่ ปท. เหตุการณ์
31-ก.ค. TH ตัวเลขเศรษฐกิจไทยในเดือน มิ.ย.
JP ตัวเลขเริ่มสร้างบ้านของญี่ปุ่นในเดือน มิ.ย.
EU ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของสหภาพยุโรปใน ก.ค., อัตราการว่างงานของสหภาพยุโรปใน มิ.ย.
US ตัวเลขดัชนีชี้ภาวะธุรกิจเขตชิคาโก (Chicago Purchasing Manager) ของสหรัฐฯ ในเดือน ก.ค.
US ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 26 ก.ค.
1-ส.ค. TH ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของไทยในเดือน ก.ค.
JP ตัวเลขยอดขายรถยนต์ และPMI ภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือน ก.ค.
CH-EU ตัวเลข PMI ภาคอุตสาหกรรมของจีน และของสหภาพยุโรปในเดือน ก.ค.
US ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ในเดือน ก.ค.
US ตัวเลขรายได้และการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐฯ, การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐฯ ใน มิ.ย.
US ตัวเลข ISM Manuf. ของสหรัฐฯ, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐฯ ใน ก.ค. (สุดท้าย)