- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 28 October 2016 16:16
- Hits: 1455
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ไซด์เวย์ ยังเน้นหุ้นงบเด่นเป็นสำคัญ
KGI คาด SET วันศุกร์ไซด์เวย์ หลังฟันด์โฟลว์ยังไม่มีเสถียรภาพ และแรงผลักขึ้นจากฝั่งสถาบันในประเทศอาจไม่มีความต่อเนื่องหลัง valuations ของตลาดหุ้นอยู่ในระดับปานกลาง (ไม่ถูกและไม่แพง) ทั้งนี้หลังฝ่ายวิจัยลดประมาณการหุ้นกลุ่มธนาคารครั้งล่าสุด ส่งผลให้ EPS ของตลาดหุ้นไทยปี 2559 และ 2560 ลดลงสู่ 94.0 และ 102.9 ตามลำดับ และดัชนีฯ เทรดที่ fwd PE59 และ fwd PE60 ที่ 15.7 เท่า และ 14.4 เท่า ตามลำดับ ด้านปัจจัยภายนอกเป็นกลาง ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ซื้อขายในกรอบแคบๆ หลังตัวเลขเศรษฐกิจดี/ไม่ดีปนๆ กันไป และตลาดรอดูตัวเลข advance GDP ไตรมาส 3/2559 ของสหรัฐฯ ในคืนวันนี้ โดย consensus คาดไว้ที่ +2.5% QoQ เทียบรายปี (ดีขึ้นจาก +1.4% ในไตรมาสที่ 2/2559) นอกจากนี้ดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปีของสหรัฐฯ ที่ขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบเกือบ 5 เดือน อาจกดดันจิตวิทยาของตลาดหุ้นในเอเชียได้ระดับหนึ่ง ด้านปัจจัยภายใน ธีมการลงทุนหลักยังเป็นหุ้นขนาดกลาง (mid caps) ที่แนวโน้มงบไตรมาส 3/2559 และ/หรือ ไตรมาส 4/2559 จะโดดเด่น
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร TPBI / ซื้อสะสม SEAFCO, TCMC
TPBI (เป้าสูงสุด Consensus 19.4 บาท) 1) วานนี้พักตัวบริเวณแนวรับ ±16.5 บาท ตามคาด แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” โดยประเมินแนวต้านแรก 17.7 บาท หากทะลุผ่านได้มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ±19 บาท (กรอบ Uptrend Line channel 16.6 – 19.0 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59 เติบโต YoY และ QoQ และจะโตเด่นในไตรมาส 4/59 (ลุ้นทำนิวไฮ) เนื่องจากเป็น High season และต้นทุนเม็ดพลาสติกยังต่ำต่อเนื่อง 3) PE ปีนี้ 16.4 เท่า (เทียบกับ EPG* ที่ PE สูงราว 20 เท่า) 4) เงินสดในมือ + เงินลงทุนระยะสั้น ณ สิ้นไตรมาส 2/59 สูงถึง 1 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 2.5 บาท/หุ้น (คาดมีโอกาสเตรียมซื้อกิจการ หรือขยายกำลังการผลิตโดยไม่จำเป็นต้องกู้สถาบันการเงิน)
SEAFCO (เป้า Consensus 13.7 บาท) 1) ประเมินแนวโน้มอุตสาหกรรมรับเหมาฯอยู่ในขาขึ้น จากงานประมูลภาครัฐฯที่จะทยอยออกมาต่อเนื่องในไตรมาส 4/59 (รถไฟฟ้าสีเหลือง+ชมพู / รถไฟรางคู่ มาบกะเบา-จิระ + ประจวบฯ–ชุมพร) … โดยคาดรถไฟรางคู่ ประจวบฯ-ชุมพร จะเริ่มขายซองฯในเดือน พ.ย.นี้เป็นโครงการแรก 2) เราประเมินอุปทานเครื่องจักรสำหรับการตอกเสาเข็มในไทยจะเริ่มตึงตัวตั้งแต่ไตรมาส 4/59 เป็นต้นไป (งานภาครัฐฯ + ภาคอสังหาฯฟื้น) ส่งผลบวกต่อแนวโน้มอัตรากำไรงานเสาเข็มของ SEAFCO 3) จาก Bloomberg consensus PE ปีนี้ ±16.5 เท่า ถูกกว่า PYLON ที่ทำธุรกิจรับเหมาเสาเข็มเหมือนที่สูงถึง 20 เท่า 4) พิจารณาที่แนวต้านแรก 10.9 บาท หากทะลุผ่านได้ ประเมินมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 11.5 บาท และ 12.5 บาท ตามลำดับ ประเมินแนวรับ 10.4 บาท
TCMC (เป้าพื้นฐานเบื้องต้น 5.4 – 5.6 บาท) 1) ประเมินกำไร TCMC ปี 2560 จะเติบโตเฉลี่ย 30% ต่อปี CAGR 2558 – 2561 (จากการซื้อกิจการเฟอร์นิเจอร์ที่อังกฤษ DMM) 2) Synergy ที่จะเกิดขึ้นคือการรุกตลาดเอเชีย (จีน ตะวันออกกลาง อาเซียน) โดยปัจจุบัน DMM มียอดขายนอกประเทศอังกฤษเพียง 2-3% 3) สำหรับในประเทศอังกฤษเอง ด้วยค่าเงินปอนด์ที่อ่อนค่า ส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอสังหาฯ (คาดจะมีการ Renovate โรงแรมและอาคาร) 4) จากสมมติฐานเบื้องต้นแบบอนุรักษ์นิยม ประเมินกำไรปีหน้า 260 ล้านบาท (EPS 0.46 บาท/หุ้น) ประเมิน PE ปีหน้าต่ำเพียง 10.5 เท่า เทียบกับอัตราการเติบโตของกำไรเฉลี่ย 30% ต่อปี CAGR 5) ประเมินราคาหุ้นยังไม่ตอบสนองเชิงบวกต่อดีลนี้มากนัก แนะนำ “สะสม” แนวรับ 4.8 บาท และ 4.7 บาท แนวต้านแรก 4.9 บาท หากยืนเหนือ 4.9 บาทได้ ประเมินปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 5.2 บาท และ 5.5 บาท ตามลำดับ
หุ้นในกระแส
กลุ่มโรงกลั่น (TOP*, BCP*) ค่าการกลั่นฟื้นตัวดี ล่าสุด 7.55 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล จากที่ลงต่ำสุดตอนต้นเดือน ต.ค. (4.69 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล) รวมกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นมาทำให้มีความคาดหวังกำไรจากสต๊อกน้ำมันในไตรมาส 4/59 (จากที่มีผลขาดทุนในไตรมาส 3/59) แนะนำ “เก็งกำไร”
i) TOP* แนวรับ 69.5 บาท แนวต้าน 72 บาท (Stop loss 69 บาท)
ii) BCP* แนวรับ 30.5 บาท แนวต้าน 32.75 บาท (Stop loss 30 บาท)
ร้าน 7-11 ยุติให้บริการเติมเงิน วัน-ทู-คอล ของ ADVANC* (เป็นกลางต่อ ADVANC*, CPALL* / เป็นบวก FSMART, AJD) ฝ่ายวิจัยฯประเมินประเด็นนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อ CPALL* และ ADVANC* อย่างมีนัยสำคัญ ในเชิงกลยุทธ์เราประเมินจะเป็น Sentiment บวกต่อหุ้น AJD และ FSMART ที่ทำธุรกิจตู้เติมเงิน แนะนำ “เก็งกำไร” ประเมิน
iii) AJD แนวรับ 2.20 บาท แนวต้าน 2.6 บาท (Stop loss 2.0 บาท)
iv) FSMART แนวรับ 16.9 บาท แนวต้าน 17.7 บาท (Stop loss 16 บาท)
หุ้นรับเศรษฐกิจดิจิตอล (ALT, ILINK, ITEL): จากนโยบายการสนับสนุน E-commerce ของรัฐบาล คาดจะส่งผลบวกโดยตรงต่อผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะด้านการวางงานระบบโครงข่ายฯ อย่าง ALT และ ILINK + ITEL ที่ต้องเร่งงานติดตั้งระบบรองรับนโยบายฯ (วางระบบเครือข่ายใยแก้วนำแสง ตามเส้นทางการรถไฟฯ ตามนโยบายภาครัฐฯ)
หุ้นมีข่าว
(0) DELTA* คาดกำไรปีนี้วูบรุกเทคโนฯรถยนต์ไฟฟ้า (กรุงเทพธุรกิจ) 'เดลต้า' มั่นใจมาร์จิ้นปีนี้ไม่ต่ำกว่า 10% แต่ยอมรับต่ำกว่าปี 2558 ที่ทำได้ 14% กดดันกำไรสุทธิปีนี้อาจจะต่ำกว่าปีก่อนที่ทำได้ 6,713.82 ล้านบาท เหตุบริษัททุ่มงบลงทุนวิจัยและพัฒนาในธุรกิจเกี่ยวเนื่องรถยนต์ไฟฟ้า ราว 1,000 ล้านบาท ในปีนี้ พร้อมเล็งซื้อกิจการเพิ่มเติมเพื่อเสริมเทคโนโลยีไฟฟ้า จากเงินสดที่มีอยู่ 2,000 ล้านบาท
(+) จับตาวันนี้เคาะไฟฟ้าขยะ 'BWG-GENCO'แบ่งเค้ก (ทันหุ้น) กกพ.ประกาศผลโรงไฟฟ้าขยะวันนี้ (28 ต.ค.59) หลังพบ 7 บริษัทเอกชน ตบเท้าเข้าชิง ด้านโบรกประเมิน BWG-GENCO ตัวเต็งหลังพกประสบการณ์มาเพียบ หวังคว้างานเสริมแกร่งผลประกอบการในอนาคต จับตาราคาหุ้นวิ่งรับข่าวดี
(+) LH*-CK*-NWR-MJDสนใจลงทุน ที่พักริมทางมอเตอร์เวย์ 2 สาย 2 พันล้าน (ข่าวหุ้น) “กรมทางหลวง” จัดสัมมนาประเมินความสนใจของภาคเอกชน (Market Sounding) ที่พักริมทางมอเตอร์เวย์ 2 สาย วงเงินรวมกว่า 2 พันล้านบาท คาดสรุปรายละเอียดส่ง “อาคม” ได้ธ.ค.นี้ ก่อนชงคณะกรรมการ PPP เดินหน้าประมูลให้จบภายในปี 2560 ขณะที่ 4 เอกชน “LH-CK-NWR-MJD” สนใจเข้าร่วมรับฟังข้อมูล
(+ STA, TRUBB) มาเลย์กว้านซื้อยางอีสาน 2 หมื่นตัน/เดือนแก้วิกฤต (โพสต์ทูเดย์) สยยท.เผยมาเลเซียขาดแคลนหนัก แห่สั่งซื้อยางเครฟภาคอีสานเดือนละ 2 หมื่นตัน นายวีระศักดิ์ สินธุวงศ์ ประชาสัมพันธ์สภาเครือข่ายยางและสถาบันเกษตรกรยางพาราแห่งประเทศไทย (สยยท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ยางพาราเกิดภาวะขาดแคลนอย่างหนัก เนื่องจากภาคใต้ของไทยอยู่ในช่วงปิดหน้ายางเพราะเข้าสู่ฤดูฝน ไม่เพียงแต่ไทยเท่านั้น ทางอุตสาหกรรมแปรรูปยางพาราในประเทศมาเลเซียประสบปัญหายางไม่เพียงพอเช่นเดียวกัน
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
PACE (เป้า Consensus 4.5 บาท) หากยืนเหนือแนวต้าน 3.38 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 3.56 บาท แนวรับ 3.30 บาท ... คาดผลการดำเนินงาน 2H59 กำไรเด่นจากการโอนโครงการมหานครราว 40% ของมูลค่าโครงการ 1.45 หมื่นล้านบาท
COM7* (เป้าสูงสุด Consensus 12.5 บาท) ยืนเหนือแนวต้าน 12.8 บาท แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนด Trailing stop 12.8 บาท … คาดงบไตรมาส 3/59 โต YoY และทำนิวไฮในไตรมาส 4/59 + เริ่มจำหน่าย iPhone 7+ ปลายสัปดาห์นี้มีโอกาสที่ Apple จะเปิดตัว MacBook ตัวใหม่ (ข้อมูลจากบทวิเคราะห์ Apple Insight ฝ่ายวิจัยฯ บล เคจีไอ ประเทศ ไต้หวัน)
CK* (เป้าพื้นฐาน 39.5 บาท) ประเมินแนวต้านแรก 30 บาทได้ หากทะลุผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ±32 บาท แนวรับ 29 บาท ... รอการเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้า และ รถไฟรางคู่ในเดือน พ.ย. – ธ.ค. นี้
CPF* (เป้าพื้นฐาน 42 บาท) ประเมินแนวรับ 31.5 บาท แนวต้าน 32.5 บาท และถัดไปที่ 33.5 บาท ... ประเมินกำไรไตรมาส 3/59 = 5.2 พันล้านบาท +47% YoY และ ด้วยธีมการลงทุนเดียวกัน คืองบไตรมาส 3/59 โตแรง จากราคาเนื้อสัตว์ขึ้นสวนทางราคาวัตถุดิบฯ นักลงทุนอาจพิจารณา เก็งกำไรหุ้นในกลุ่มตัวเล็กอย่าง TFG
TACC (เป้า Consensus 10.6 บาท) ยืนเหนือแนวต้าน 10 บาทได้ แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนด Trailing stop 10 บาท
THAI* (เป้าสูงสุดใน Consensus 32 บาท) ประเมินแนวรับ 26.5 บาท แนวต้านแรก 28.5 บาท หากทะลุผ่านได้ มีโอกาสขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ±32 บาท โดยกำหนดจุด Stop loss ที่ 24.5 บาท
TMT (เป้าพื้นฐาน 14.2 บาท) เป็นหุ้นปันผลสูง คาดปันผลปีนี้ 1.6 บาท/หุ้น (Dividend yield >12%)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
GFPT แนะนำ “ถือ” (ปรับคำแนะนำลง) เป้าพื้นฐาน 15.2 บาท ปรับลดคำแนะนำหุ้น GFPT จากซื้อเป็นถือ หลังจากที่ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาจนถึงราคาเป้าหมาย 1H17F ของเราที่ 15.20 บาทแล้ว ทั้งนี้ เราเห็นว่าปัจจัยที่จะช่วยกระตุ้นราคาหุ้นในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า นั้นค่อนข้างน้อย ตามราคาไก่ที่อ่อนแอ ในขณะที่แรงหนุนจากทางด้านต้นทุนก็ดูจะแผ่วลง ทั้งนี้คาดว่ากำไรสุทธิในไตรมาส 3/59 จะอยู่ที่ 442 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35.8% YoY และ 16.2% QoQ
LPN* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 11 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรไตรมาส 3/59 = 270 ล้านบาท (-73.3% YoY, -69.3% QoQ) คาดไตรมาส 4/59 จะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของกำไร อย่างไรก็ดีในปี 2560 ยังมีความเสี่ยงที่ผลการดำเนินงานจะอ่อนแอ จาก Backlog ที่มีน้อย ฝ่ายวิจัยฯจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2559 – 2560 ลง 8.7% และ 19.5% ตามลำดับ
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- กรอบราคา 1492 – 1505 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1505 จุดนั้น อาจผลักขึ้นทดสอบต้าน 1518 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1492 จุดนั้น อาจกดราคาลงทดสอบนัยแนวรับ 1472 จุด
แนวรับวันนี้: 1492/1472 แนวต้านวันนี้: 1505/1518
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]