- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 31 July 2014 15:55
- Hits: 2315
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
SET ปรับลงยังแนะนำเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสม เพื่อถือรอรอบขึ้น!!
กลยุทธ์ : คาด SET จะเริ่มปรับพักฐานในกรอบจำกัด และลุ้นแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้น ก่อนกลับไปแกว่งบวกขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งในช่วงถัดไป ดังนั้นตลาดลบแนะนำให้เลือกหุ้นเข้าทยอยซื้อได้ จากนั้นเน้นถือเพื่อรอรอบขึ้นครั้งใหม่เร็วๆ นี้
หุ้นเด่นทางเทคนิค : AP, VGI, CENTEL(buy back)
แนวโน้ม : เมื่อวานนี้ SET ยังปรับตัวลงแรงต่อเนื่องในช่วงครึ่งเช้า คาดว่ามาจากแรงขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยงหลังยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาหนุน รวมทั้งนักลงทุนบางส่วนยังรอติดตามผลประชุมเฟดเมื่อคืนนี้ด้วยว่าจะมีการพูดถึงกำหนดการที่จะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ นอกจากนี้ความตึงเครียดในยูเครนและการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของ EU กับสหรัฐก็ยังกดดันความมั่นใจของนักลงทุนต่อสภาวะเศรษฐกิจโลกด้วย อย่างไรก็ตามในภาคบ่ายตลาดยังมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนให้ดัชนีขยับกลับมาปิดเป็นลบไปเพียงเล็กน้อยได้ ซึ่งแม้ว่ายอดซื้อขายของนักลงทุนต่างประเทศจะสรุปออกมาเป็นขายสุทธิกว่าพันล้านบาท แต่ถ้าหักยอด Deal ของ SIM ที่ Axiata ขายคืนให้กับ SAMART ถึงกว่า 2.8 พันล้านบาทแล้ว ก็ถือว่านักลงทุนต่างประเทศยังมียอดซื้อสุทธิในตลาดรวมอยู่ ขณะที่ผลประชุมเฟดเมื่อคืนนี้ก็ยังไม่มีอะไรน่าวิตก เพราะเฟดยังไม่ได้ส่งสัญญาณเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ FSS คาดว่า SET จะเริ่มแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้น แม้ว่าอาจจะยังลบลงอีกบ้างแต่ไม่น่าลึก และสุดท้ายแล้วเราคาดว่า SET จะกลับไปแกว่งบวกต่อเนื่องได้อีกครั้ง
แนวรับ 1516-1513 , 1510-1500 จุด แนวต้าน 1523-1525 , 1529-1533 จุด
Fund Flow วานนี้ยังไหลเข้าตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องในปริมาณที่หนาแน่นขึ้น นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$597.1 ล้าน ไต้หวัน US$279.2 ล้าน และฟิลิปปินส์ US$3.1 ล้าน แต่ขายตลาดหุ้นไทย US$52.5 ล้าน และเวียดนาม US$23 ล้าน ส่วนอินโดนีเซียยังปิดทำการ ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้ค่อนข้างนิ่ง Flow น่าจะยังไหลเข้าต่อหลังเฟดลดขนาด QE เหลือ US$2.5 หมื่นล้านตามคาด และยังไม่มีสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยก่อนฤดูร้อนนี้
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) เศรษฐกิจสหรัฐดีกว่าคาด การคาดการณ์ครั้งแรกของ GDP 2Q14 ขยายตัว 4% Q-Q annualized สูงกว่าที่ตลาดคาดที่ +3% และฟื้นเป็น V-shape จาก 1Q14 ที่หดตัว 2.1% Q-Q (เป็นตัวเลขที่ทบทวนใหม่ จากเดิม -2.9%) ส่วน Fed ลด QE US$1 หมื่นล้านเหลือ US$2.5 หมื่นล้าน/เดือน มุมมองเศรษฐกิจของ Fed ครั้งนี้เป็นบวกมากขึ้น ทำให้เริ่มมีการพูดถึงการขึ้นดอกเบี้ยในวงกว้างมากขึ้น ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ประกอบค่าเงินยูโรอ่อนจากการคว่ำบาตรรัสเซีย ทำให้ค่าเงินดอลลาร์ยิ่งแข็งค่า เป็นลบกับหุ้น ทองคำ และโภคภัณฑ์
(0) กระทรวงการคลังปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้ลงเหลือ 2% จากที่คาดเมื่อเดือน มี.ค.ที่ 2.6% และปี 2015 เติบโต 5% คาดการณ์ดังกล่าวไม่มีผลกระทบกับตลาดหุ้นแล้ว เพราะเป็นหน่วยงานท้ายๆที่ปรับประมาณการ ก่อนหน้านี้ธปท.ปรับลด GDP ปีนี้ลงเป็น 1.5% และปีหน้าโต 5.5% (สภาพัฒน์จากรายงาน GDP 2Q14 18 ส.ค.นี้)
(0) SCC กำไรดีกว่าคาดเพราะรายได้อื่น กำไรสุทธิใน 2Q14 เพิ่ม 2% Q-Q แต่ลด 14% Y-Y เพราะไตรมาสนี้มีเงินปันผลจากบ.ร่วม ขณะที่ 1Q14 ไม่มี และเงินปันผลที่ได้ก็ต่ำกว่า 2Q13 ส่วนผลการดำเนินงานหลัก แย่ลงทั้ง Q-Q และ Y-Y ในทุกธุรกิจ ตามที่เราและตลาดคาด แนวโน้มผลประกอบการ 2H14 น่าจะทรง เรายังคงคาดกำไรสุทธิปีนี้โต 5% ปีหน้าโต 8% โดยธุรกิจซีเมนต์เป็นตัวผลักดัน ส่วนธุรกิจปิโตรเคมีอาจชะลอเพราะอุปทานใหม่ที่เข้าตลาดกลางปี 2015 เราคงราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 495 บาท ราคาหุ้นหมดเสน่ห์หลังประกาศผลประกอบการแล้ว แนะนำรอซื้อเมื่ออ่อนตัว
(0) GLOW กำไรดีกว่าเราและตลาดคาด เพิ่มขึ้น 22% Q-Q และ 130% Y-Y เป็นผลจากมาตรฐานบัญชีเกี่ยวกับสัญญาเช่าการเงินที่เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งทำให้โรงไฟฟ้า IPP 713MW มีกำไรเพิ่มขึ้น และมีการปรับค่า Ft ขึ้น 10 สตางค์/หน่วย เราปรับกำไรปี 2014 เพิ่ม 21% จากค่า Ft ที่ปรับขึ้น และปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 95 บาท แต่ยังแนะนำเพียงถือเพรา upside จำกัด
(+) BH แม้ได้รับผลกระทบจากการเมืองในช่วง 2 เดือนแรกของ 2Q14 แต่คาดกำไรปกติเติบโต 10% Y-Y จากการคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพซึ่งเป็นจุดแข็งของ BH มาโดยตลอด เราคงประมาณการกำไรปกติปี 2014 เติบโต 11% และปี 2015 โตในอัตราเร่งมากขึ้น 19% และปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 140 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ จากเดิมถือ และคาดจ่ายปันผลงวด 1H14 ที่ 0.90 บาท/หุ้น (Yield 0.8%)
(+) คาดการณ์กำไรของกลุ่มที่อยู่อาศัย เราคาดกำไรปกติใน 2Q14 ลดลง 2% Y-Y เพราะถูกกระทบจากการเมือง แต่ฟื้นตัวได้เร็วจากไตรมาสก่อน +32% Q-Q จากการโอนบ้านและคอนโดได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็คุมค่าใช้จ่ายได้ดี โดย AP น่าจะมีกำไรโตโดดเด่นที่สุดในไตรมาสนี้ ในช่วงที่ผ่านมาเราปรับเพิ่มประมาณการกำไรของบริษัทในกลุ่มขึ้น พบว่ากำไรปกติปี 2014 เติบโต 11% จากเดิมคาดโต 7% และปี 2015 เติบโต 15% จากเดิมคาดโต 12% แนะนำ Top pick คือ AP (ราคาเป้าหมายปี 2015 ที่ 8.45 บาท) QH (เป้าหมายปี 2015 ที่ 4.90 บาท) และ RML (เป้าหมายปี 2015 ที่ 2.60 บาท) เพราะ PE ที่ยังต่ำกว่ารายอื่น เฉลี่ยอยู่ที่ 8-9 เท่า เทียบกับกลุ่มที่ 11 เท่า
ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดในแดนลบภายใต้การซื้อขายที่ค่อนข้างผันผวนหลังตัวเลข GDP 2Q14 เติบโตดีกว่าที่ตลาดคาดรวมถึงการที่ FED ลดขนาดวงเงิน QE ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม FED ยังไม่มีการส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ย
ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนลบเช่นกันหลังตลาดตอบรับในเชิงลบต่อการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย รวมถึงปัจจัยลบจากผลประกอบการบริษัทเอกชนที่อ่อนแอ
ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวในแดนบวกได้โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาสดใส
ค่าเงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงแรง โดยล่าสุดมาแกว่งตัวในกรอบ 31.87-32.00 บาท/ดอลลาร์
ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน ก.ย. ลดลง 0.70 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 100.97 ดอลลาร์/บาร์เรล และต่ำกว่าระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรลแล้วในเช้าวันนี้จากความกังวลเรื่องอุปสงค์ของพลังงานที่ชะลอตัว รวมถึงอุปทานส่วนเกินในฝั่งตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ
ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน ส.ค. ร่วงลงต่ออีก 3.60 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,296.90 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังมีการเปิดเผยตัวเลข GDP 2Q14 ออกมาแข็งแกร่ง รวมถึงการที่ FED ลดขนาด QE เพิ่มเติมเป็นปัจจัยลบต่อสินทรัพย์ปลอดภัย
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
28-31 ก.ค. - อินโดนีเซีย: ตลาดหุ้นปิดทำการ วัน Idul Fitri (การเฉลิมฉลองหลังเทศกาลถือศีลอด)
31 ก.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน มิ.ย., แต่งตั้งสนช. คาดว่าจะเปิดประชุมและเลือกนายกฯเดือนส.ค.
1 ส.ค. - ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ค.)
- จีน: Manufacturing PMI (ก.ค.)
- สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตร, อัตราว่างงาน (ก.ค.), ISM Manufacturing (ก.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Manufacturing PMI (ก.ค.)
3 ส.ค. - จีน: Non-manufacturing PMI (ก.ค.)
4 ส.ค. - ไทย: RICHY เริ่มซื้อขาย (ราคา IPO 3.30 บาท)
5 ส.ค. - จีน: HSBC China Composite PMI (ก.ค.)
- อินโดนีเซีย: 2Q14 GDP
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.ค.)
6 ส.ค. - ไทย: กนง.ประชุม (เราคาดคงดอกเบี้ยที่ 2%)
Contact person : Somchai Anektaweepon
Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852