- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 26 October 2016 15:19
- Hits: 1375
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
Sideway? คาดการเคลื่อนไหวคล้ายกับวานนี้ โดยที่ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ เข้ามาในตลาด อย่างไรก็ตามคาดภาพรวมหลังจากนี้ไปยังมีความไม่แน่นอน และสร้างความผันผวน ภายใต้ปัจจัยต่างประเทศ (1) การพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยในรอบการประเดือน ธ.ค. ขณะที่เฟดเหลือการประชุม 2 ครั้งในปีนี้ 1 – 2/11/59 และ 13-14/12/59
(2) ราคาน้ำมัน ถึงแม้ว่าโอเปกจะมีมติปรับลดกำลังผลิตในรอบการประชุมอย่างไม่เป็นทางการที่แอลจีเรีย แต่ตลาดมองว่าเป็นเรื่องยากที่จะตกลงกันได้ โดยโอเปกจะประชุมอีกครั้งในวันที่ 30 พ.ย. ที่ประเทศ ออสเตรีย
เช่นเดียวกับปัจจัยในประเทศ ที่คาดยังคงได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากแรงเก็งกำไรตัวเลขผลประกอบการ Q3/59 ที่จะทยอยประกาศออกมาตลอดเดือนนี้จนถึงกลางเดือนหน้า พร้อมยังแนะติดตามหุ้นในกลุ่มค้าปลีก รวมถึงหุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่เน้นลูกค้าระดับล่าง – กลาง เช่น DCC และ DRT เป็นต้น ที่คาดได้รับประโยชน์จากการที่มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่มีรายได้น้อย โดยลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร ที่คาดช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศ
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น EPG และ SCC
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK, SYNTEC
(5) กลุ่มพลังงาน ในขณะที่หุ้นหลักอย่างเช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ในขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่ BANPU ยังได้รับประโยชน์จากราคาถ่านหินที่อยู่ในระดับสูง
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO, KAMART และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
(7) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV และ BA
SET SET50 SET100
1,506.47 +6.10 949.16 +2.15 2,136.91 +7.49
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดต่างประเทศ DJIA -53.76, NASDAQ -26.43, S&P -8.17,FTSE +31.24, CAC -11.74 และ DAX -3.86 หลังสหรัฐฯ เปิดเผยความเชื่อมั่นของผู้บริโภค – ต.ค. อยู่ที่ 98.6 ลดลงจาก 104.1 เมื่อเดือนก.ย. และต่ำกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 101.5 นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยกดดันจากผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ต่ำกว่าคาด และปรับลดแนวโน้มผลประกอบการในปี’59 เช่น เวิร์ลพูล คอร์ป และแคเทอร์พิลลาร์ อิงค์ เป็นต้น
ขณะที่ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ เมื่อพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มเคลื่อนตัวในทิศทางที่ดีขึ้น และการปรับขึ้นดอกเบี้ยควรเป็นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป
ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป (-) หุ้นธนาคารของอิตาลีที่ปรับลดลง หลังธนาคาร Banca Monte dei Paschi di Siena ของอิตาลี ประกาศลดพนักงานลง 2,600 ตำแหน่ง รวมทั้งปิดสาขาต่างๆ 500 สาขา พร้อมลดขนาดของธุรกิจลง ขณะที่ (+) ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ - ต.ค. ของเยอรมนีพุ่งขึ้นแตะระดับ110.5 สูงสุดในรอบกว่า 2 ปี
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$0.56 อยู่ที่ US$49.96 ต่อบาร์เรล โดยสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงสู่ระดับต่ำกว่า 50 USD เป็นครั้งแรกในรอบ 1 สัปดาห์ หลังอิรัก (ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโอเปก) ส่งสัญญาณว่าจะไม่มีส่วนร่วมในข้อตกลงการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปก
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
22.16 1.92 3.14
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 47,446.91
สถาบัน -138.13
บัญชีหลักทรัพย์ 1,041.14
ต่างประเทศ -572.58
ในประเทศ -330.44
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$9.9 อยู่ที่ US$1,273.6 ต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งจากเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำ
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -573 ล้านบาท สะสม YTD +120,288 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,173 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 26-28 ต.ค. 2559
26/10/59 สหรัฐฯ เปิดเผย
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนต.ค.
ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย.
สต็อกน้ำมัน
27/10/59 สหรัฐฯ เปิดเผย
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.
ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนก.ย.
28/10/59 สหรัฐฯ เปิดเผย
ประมาณการครั้งแรก GDP – 3Q/59
ดัชนีต้นทุนการจ้างงาน – 3Q/59
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนต.ค.
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัว อยู่ที่ 1.76% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.44 อยู่ที่ 13.46
หุ้นแนะนำ : CK
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร .02-684-8788