- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 26 October 2016 15:02
- Hits: 1082
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้แกว่งในกรอบแคบ ด่าน 1,510 จุด ยังไม่สามารถผ่านได้ เกิดแรงขายทำกำไรในกลุ่มธนาคาร และหุ้นหลักที่ขึ้นมาเด่นในสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะที่กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มขนส่งยังคงเด่น เช่น BEM, CPALL, BJC เป็นต้น ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX บวกเป็นวันที่ 2 อีก 6.10 จุด มาอยู่ที่ 1,506.47 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพียง 47,447 จุด
ทั้งนี้ต่างชาติคงขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีกเล็กน้อย 573 ล้านบาท แต่ Long สุทธิใน SET50 Index Futures 1,199 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 5 อก 8,238 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ต่างชาติซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้ไทยหนาแน่น
ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดต่ำกว่า US$50/barrel วันแรกในรอบ 15 วันทำการ
เช้านี้เงินบาทแข็งค่าหลุด 35.00 บาท/US$ แล้ว (8.02 น.)
บ่ายวันนี้ติดตามตัวเลขการส่งออกเดือนก.ย.ของไทย Bloomberg consensus คาด -1.3% yoy จากเดือนก่อนหน้า +6.5% yoy
ติดตามการประกาศงบ 3Q59 ของ SCC หลังปิดตลาดเช้าวันนี้
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 22)
SET INDEX มีโอกาสปิดบวกเป็นวันที่ 3 ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับ ตัวเลขการส่งออกเดือนก.ย. ว่าจะออกมาเป็นบวกสวนทางกับที่ Bloomberg consensus คาด -1.5% yoy เป็นเดือนที่ 2 ได้หรือไม่ รวมถึงผลการดำเนินงาน 3Q59 ของ SCC ที่จะประกาศหลังปิดตลาดรอบเช้าวันนี้ เราประเมินกำไรสุทธิ 1.38 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.4% yoy หากออกมาดีกว่าคาด เชื่อว่าบรรยากาศการลงทุนในรอบบ่ายจะกลับมาเป็นกลางถึงบวก และผลักดันให้ SET INDEX ทดสอบด่าน 1,515-1,520 จุดได้ไม่ยาก
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมเชิงกลยุทธ์การลงทุน เรายังคงแนะนำให้นักลงทุน “ทยอยขายทำกำไรบางส่วน” ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 เพราะประเมิน Upside ในช่วงสั้นค่อนข้างจำกัด SET INDEX ดีดตัวกลับมาอย่างแข็งแกร่งและรวดเร็วภายในช่วง 8 วันทำการเท่านั้น ประเมินกรอบแกว่งวันนี้ระหว่าง 1,500-1,520 จุด
เราประเมิน SET INDEX จะเริ่มลดช่วงบวกลง และเกิด Sector Rotation กลุ่มที่ขยับขึ้นเด่นในรอบนี้กลับเป็น กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง / กลุ่มขนส่ง / กลุ่มค้าปลีก จะเผชิญกับแรงขายทำกำไรมากขึ้น และหมุนเข้าสู่กลุ่มหลักถัดไปอย่าง กลุ่มวัสดุก่อสร้าง / กลุ่มท่องเที่ยว / กลุ่มโรงพยาบาล ผลการดำเนินงานเด่นในช่วง 2H59 รวมถึงหุ้นขนาดกลางและเล็กที่จะทยอยฟื้นตัว
Strategy of the Day
1. เก็งกำไร BA: ราคาปิด 24.00 บาท ราคาเหมาะสม 28.00 บาท
a) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ปรับฐานลงหลุดแนว US$50/barrel น่าจะเป็นปัจจัยจิตวิทยาเชิงบวกต่อกลุ่มสายการบิน ต้นทุนหลักมาจากราคาน้ำมัน
b) แนวโน้มผลการดำเนินงานของ BA ใน 3Q59 และต่อเนื่องไปอีก 2 ไตรมาสข้างหน้าจะเป็น High Season เร็วกว่าสายการบินอื่น เพราะเส้นทางเกาะสมุย ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางหลักของ BA เริ่ม High Season ใน 3Q59 อีกทั้งการเปิดเส้นทางบินใหม่ กทม.-ดานัง เวียดนาม ได้รับการตอบรับเชิงบวก
c) เราประเมินว่า BA เป็นสายการบินที่ได้รับผลกระทบจำกัด จากกรณีทัวร์ศูนย์บาทและจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง เพราะฐานลูกค้าหลักจะเป็นชาติตะวันตก และคนไทย
d) ปัจจัยทางเทคนิก ราคาหุ้นมีโอกาสขยับขึ้นปิด Gap บริเวณ 25 บาท
2. สะสม PS : ราคาปิด 23.20 บาท ราคาเหมาะสม 34.50 บาท
a) PS ราคาหุ้น YTD ปรับตัวลงไปแล้วทั้งสิ้น 12.45% เทียบกับกลุ่มอสังหาฯ +6.08% สะท้อนภาพผลการดำเนินงาน 3Q59 ที่แนวโน้มอ่อนแอ ประเมินกำไรสุทธิ 1.13 พันล้านบาท ลดลง 31% yoy และ 41% qoq ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดของปีนี้ไปมากแล้ว
b) รวมถึงขั้นตอนการแปลงหุ้น PS เป็น PSH ในช่วงนี้จนถึงปลายเดือนพ.ย. และจะหยุดการซื้อขายระหว่างวันที่ 24-30 พ.ย. ก่อนจะกลับมาซื้อขายอีกครั้งในวันที่ 1 ธ.ค. ฐานะ Holding Company
c) ราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน ซื้อขายที่ PER17 ต่ำเพียง 6.54x ต่ำกว่า LH – QH ที่ 13.96x และ 7.58x เทียบกับการเติบโตของกำไรสุทธิปี 2560 ของ PS ที่สูงถึง 17% และผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย 7.5% ต่อปี สูงสุดในกลุ่มอสังหาฯ ที่ MBKET วิเคราะห์อยู่ในปัจจุบัน
Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA
Strategist / Analyst
662-6586300 x 1440
Padon Vannarat
Equity Analyst
662-6586300 x 1450
Krittapol Itthithumsakul
Assistant Analyst
Twitter Channel
http://twitter.com/YipNgenYipTong