- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 25 October 2016 16:27
- Hits: 3338
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
UOBKH แนวโน้มตลาดวันนี้ : เลือกเก็งกำไรรายตัว หลังการปรับขึ้นอาจเริ่มจำกัด
คาดบรรยากาศการลงทุนโดยรวม ยังเป็นบวกผลักดันโดยผลประกอบการไตรมาส 3/59 ที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มหลักอย่าง ธนาคาร และพลังงาน อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นของ SET Index อาจเริ่มจำกัด เนื่องจาก 1) หุ้นใน SET100 ราวครึ่งหนึ่งฟื้นตัวขึ้นจนมีผลตอบแทนเป็นบวกเมื่อเทียบกับก่อนที่หุ้นจะปรับลดลงแรง (6 ต.ค.) 2) การฟื้นตัวระลอกนี้ผลักดันโดยหุ้นหลักไม่กี่ตัว ได้แก่ BJC (17.67 จุด), PTT (15.82 จุด), PTTEP (14.30 จุด), BANPU (12.40 จุด), SUPER (8.79 จุด), THAI (8.46 จุด), ESSO (8.44 จุด) ขณะที่หุ้นที่ถ่วงดัชนีมากที่สุด 5 ลำดับ (6-21 ต.ค.59) ได้แก่ KBANK, SCC, ADVANC, SCB, AOT, BDMS และ CPF ดังนั้น จะเห็นว่าการปรับขึ้นต่อของดัชนีพึ่งพิงการปรับขึ้นของราคาพลังงานและการฟื้นตัวของหุ้นขนาดกลาง-เล็ก เป็นหลัก และ 3) ความกังวลเรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ที่จะประชุมวันที่ 3 พ.ย. และ 15 ธ.ค.นี้ ซึ่งเราเชื่อว่าจะทำให้เกิดทั้งแรงซื้อและขายปรับพอร์ต รับปัจจัยดังกล่าว
ปัจจัยภายนอก ในระยะสั้นคาดไม่กระทบต่อบรรยากาศการซื้อขาย หุ้นยุโรปโดยรวมปิดบวกผลักดันด้วยหุ้นในกลุ่มธนาคาร ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก หลังตัวเลข PMI ต.ค.แตะ 53.2 ซึ่งสูงกว่าคาดที่ 51.2 และเพิ่มขึ้นจากก.ย.ที่ 51.5 และจากปัจจัยเฉพาะตัว (M&A) สำหรับปัจจัยภายในที่สำคัญ เราคาดการประกาศยอดขายรถยนต์เดือน ก.ย.ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ มีโอกาสเป็นบวกทางจิตวิทยาต่อหุ้นเช่าซื้อจักรยานยนต์ อาทิ TK*, S11* และ GL*
แนวรับ/แนวต้าน : 1490-1495, 1480/1505-1510 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 70% : พอร์ตหุ้น 30%
คำแนะนำทางกลยุทธ์ : เลือกเก็งกำไรรายตัวในหุ้นที่ยังฟื้นตัวตามหลังดัชนี (laggard) หุ้นสาธารณูปโภคขนาดเล็ก หุ้นกลุ่มเช่าซื้อจักรยานยนต์ หุ้นพลังงาน และทยอยสะสมหุ้นที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น กลุ่มที่อิงกับการลงทุนและการบริโภคในประเทศ หลีกเลี่ยงการลงทุนหุ้นกลุ่มบันเทิง
ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์
หุ้น SET100 ที่ laggard (เทียบ 6 ต.ค.): IFEC* (-11.62%), KBANK (-8.55%), TU (-4.11%), CPF (-3.82%)
หุ้นสาธารณูปโภคขนาดเล็ก: PSTC*, TSE*
หุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น (เงินเฟ้อ): BLA*, TIP*, EASTW*
(* หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณากำหนดจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%)