- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 20 October 2016 15:40
- Hits: 2674
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
บวกต่อ แต่ต่างชาติยังขายสุทธิ อาจจำกัดทางขึ้น
KGI คาด SET วันพฤหัสฯ ขึ้นต่อแต่ไม่แรง หนุนโดยหุ้นพลังงาน และหุ้นงบเด่น (วานนี้ดัชนีฯ บวก ตามคาด) ปัจจัยภายนอกเป็นบวก i) ราคาน้ำมัน WTi ทำนิวไฮรอบ 15 เดือน หลัง EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบลดลง 5.2 ล้านบาร์เรล ยังหนุนหุ้นเชื่อมโยงราคาน้ำมัน ii) ธ. มอร์แกน สแตนเลย์ รายงานกำไรไตรมาส 3 แข็งแกร่งกว่าคาด และ iii) นสพ. อินดีเพนเดนท์ของอังกฤษ รายงานว่ารัฐสภาอังกฤษกำลังหาข้อกฎหมายเพื่อยุติการโหวต Brexit เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ด้านปัจจัยภายใน เรามองว่าการที่ภาครัฐฯ เตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 3 อย่างภายในสิ้นไตรมาส 1/2560 ผนวกกับการอนุมัติขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ (อ่านเพิ่มในข่าววันนี้) น่าจะช่วยจำกัดความเสี่ยงของการใช้จ่ายบริโภคในช่วงสั้น อย่างไรก็ดีนักลงทุนต่างชาติยังปรับพอร์ตขายสุทธิต่อเนื่อง (คาดเน้นขายหุ้นกลุ่มธนาคารเป็นหลัก) น่าจะส่งผลให้อัพไซด์ของดัชนีฯ มีจำกัดในระยะสั้น และเรายังคงเป้าหมายดัชนีฯ สิ้นปี 2559 ที่ 1,510 จุด
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร TPBI / สะสม SCC*
TPBI (เป้า Consensus 16.2 บาท) 1) จากการ Company visit วานนี้ เบื้องต้นเราประเมินแนวโน้มกำไรไตรมาส 3/59 เติบโต YoY และ QoQ จาก i) คาดยอดขายถุงพลาสติกเติบโต 8 - 10% YoY ii) ต้นทุนเม็ดพลาสติกทรงตัวต่ำต่อ คาดอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจาก 14.8% ในไตรมาส 2/59 (U-rate ดีขึ้น) iii) แม้ค่าเงินบาทแข็งค่า และ TPBI มีสัดส่วนรายได้จากการส่งออกราว 60% แต่จากการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนได้ดี คาดไม่มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนในไตรมาสนี้ 2) แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/59 โต YoY และ QoQ ต่อเนื่อง 3) เริ่มรุกธุรกิจอุปกรณ์พลาสติกทางการแพทย์ คือ บรรจุภัณฑ์สำหรับถุงรับบริจาคโลหิตของศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ซึ่งคาดว่ามีโอกาสที่จะได้รับงานอื่นๆเพิ่มเติมในอนาคต (เป็นงานมาร์จิ้นสูง) 4) ประเมิน Valuation ไม่แพงด้วย PE ปีนี้ 16.3 เท่า และ Dividend yield 2.9% รอ Catalyst การซื้อกิจการปลายปีนี้ (ตอนนี้ เงินสดในมือ ณ สิ้นไตรมาส 2/59 = 558 ล้านบาท คิดเป็น 1.38 บาท/หุ้น) ... เทียบ PE หุ้น EPG* ตอนนี้ 21.7 เท่า 5) ประเมินแนวรับ 16 บาท แนวต้านแรก 16.8 บาท หากทะลุผ่านได้มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป ?18 บาท
SCC* (เป้าพื้นฐาน 635 บาท) 1) ฝ่ายวิจัยฯ คาดกำไรไตรมาส 3/59 = 1.25 หมื่นล้านบาท +39% YoY เป็นผลจาก Spread ปิโตรเคมี ที่ยังแข็งแกร่งหนุนอัตรากำไร (แต่คาดกำไรจะลดลง -22% QoQ จากปัจจัยฤดูกาล) ... คาดรายงานงบฯในสัปดาห์หน้า 2) คาดการประมูลงานภาครัฐฯที่จะทยอยออกมาในเดือน พ.ย. - ธ.ค. นี้ (ทั้งรถไฟฟ้า และ รถไฟทางคู่) จะเป็นปัจจัยหนุนความต้องการวัสดุก่อสร้างฯ ให้กลับมาเติบโต 3) ประเมิน PE ปีนี้ 11.4 เท่า และปันผลที่เหลือของ 2H59 ราว 8 - 10 บาท (Dividend yield 1.6 - 2.0%) 4) ประเมินแนวรับแรก 508 บาท และถัดไปที่ 502 บาท แนะนำ "สะสมแนวรับ" แนวต้านแรกประเมินไว้ที่ ?520 บาท
หุ้นในกระแส
ยอดส่งออกรถยนต์เดือน ก.ย.ทำนิวไฮรอบ 12 เดือน (+ NYT): สอท รายงานตัวเลข ส่งออกรถยนต์เดือน ก.ย.59 อยู่ที่ 112,565 คันสูงสุดในรอบ 12 เดือนนับจากเดือน ต.ค.58 คาดเป็น Sentiment บวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานของ NYT (ธุรกิจท่าเรือส่งออกรถยนต์) ประเมินหากยืนเหนือแนวต้าน 13.5 บาท ได้มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแนวโน้มจากขาลง เป็นขาขึ้น แนะนำ "เก็งกำไร" ประเมินแนวรับ 12.9 บาท และ 12.5 บาท ขณะที่ในเชิงพื้นฐาน Consensus คาด PE 18 เท่า และ Dividend yield 5.3% ต่อปี ถือว่าเป็นหุ้นถูกเมื่อเทียบกับหุ้นที่ทำธุรกิจสัมปทานความเสี่ยงต่ำตัวอื่นๆ อาทิ AOT* (PE 28 เท่า) BEM* (PE 39.8 เท่า) BTS* (PE 48 เท่า)
กลุ่มรับเหมาฯ (ตัวใหญ่ CK*, STEC* / ตัวเล็ก SEAFCO, PYLON): ฝ่ายวิจัยฯประเมินการทยอยเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้า 2 สาย รถไฟฟ้าสีเหลือง+ชมพู) และรถไฟทางคู่ (มาบกะเบา-จิระ + ประจวบฯ-ชุมพร) ในเดือน พ.ย. - ธ.ค. นี้ จะเป็น Catalyst บวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาฯในช่วง 1 - 2 เดือนนี้ ฝ่ายวิจัยฯเลือก CK* เป็นหุ้นเด่นสำหรับหุ้นรับเหมาตัวใหญ่ ที่เข้าประมูลโดยตรง และในเชิงกลยุทธ์เลือก SEAFCO เป็นหุ้นเด่นสำหรับหุ้นรับเหมาตัวเล็ก ที่จะรับงานเสาเข็มต่อจากผู้ชนะการประมูล
หุ้นรับเศรษฐกิจดิจิตอล (ALT, ILINK): จากนโยบายการสนับสนุน E-commerce ของรัฐบาล คาดจะส่งผลบวกโดยตรงต่อผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะด้านการวางงานระบบโครงข่ายฯ อย่าง ALT และ ILINK ที่ต้องเร่งงานติดตั้งระบบรองรับนโยบายฯ (วางระบบเครือข่ายใยแก้วนำแสง ตามเส้นทางการรถไฟฯ ตามนโยบายภาครัฐฯ)
หุ้นรับอานิสงส์งานบุญ ออกพรรษา-ทอดกฐิน (SALEE) เราประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H59 ของ SALEE จะได้อานิสงส์จากการเข้าซื้อกิจการเพชรสยาม และ บงกชแก้ว (ฉีดพลาสติกสินค้าทั่วไป เช่น กล่องพลาสติก ถังขยะ ฯลฯ และจัดเครื่องสังฆทาน) ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 3/59 ประเมินแนวรับ 1.55 บาท แนวต้านแรก 1.60 บาท หากทะลุผ่านได้แนะนำ "เก็งกำไรตาม" ประเมิน แนวต้านถัดไปที่ 1.78 บาท
หุ้นมีข่าว
(+) บอร์ดค่าจ้างมีมติขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 305-310 บาท ใน 69 จังหวัด มีผล ม.ค. 60 คณะกรรมการค่าจ้างมีมติปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำปี 60 จำนวน 69 จังหวัด ในอัตรา 5 มี 49 จังหวัด อัตรา 8 บาท มี 13 จังหวัด ในอัตรา 10 บาท มี 7 จังหวัด และไม่ปรับขึ้น 8 จังหวัด มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค.60 เป็นต้นไป โดยขั้นตอนจากนี้ จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)เพื่อพิจารณาต่อไป สำหรับจังหวัดที่ไม่มีการปรับค่าจ้าง โดยคงอยู่ที่ 300 บาท/วัน จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ สิงห์บุรี ชุมพร นครศรีธรรมราช ตรัง ระนอง นราธิวาส ปัตตานี และยะลา (Bisnews) เป็นการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำครั้งแรกหลังจากก่อนหน้านี้ได้มีการทยอยปรับค่าแรงขั้นต่ำขึ้นเป็น 300 บาท ทั่วประเทศ ในวันที่ 1 เม.ย.55 และ 1 ม.ค.56 การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำครั้งนี้เพิ่มขึ้นเพียง 1.7-3.3% โดยรวมอาจจะส่งผลดีต่อภาวะเศรษฐกิจบ้าง เนื่องจากการบริโภคมีแนวโน้มดีขึ้นเล็กน้อย และไม่ได้เพิ่มต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการมากนัก แต่สิ่งที่เราเป็นห่วงในระยะยาวคือ ขณะที่ต้นทุนแรงงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแต่ถ้าโครงสร้างการผลิตของประเทศทั้งทางด้านการผลิตสินค้าและบริการยังคงเดิมๆอยู่จะทำให้ความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีการค้าโลกจะถดถอยลงต่อเนื่อง และต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจะกลายเป็นภาระของผู้ประกอบการอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันก็คือราคาสินค้าและบริการจะมีการทยอยถูกปรับราคาขึ้นก่อนที่แรงงานจะได้รับเงินเพิ่มขึ้น
(+) TFG รุกไก่ปรุงสุก (ข่าวสด) นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TFG) กล่าวว่า ไทยฟู้ดส์กรุ๊ป ก่อสร้างโรงงานไก่ปรุงสุก ภายใต้วงเงิน 1,900 ล้านบาท เพื่อแตกไลน์รับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ต่างๆ ตามแบบที่ลูกค้ากำหนด (โออีเอ็ม) ให้ผู้ซื้อญี่ปุ่นประมาณ 80% และสหภาพยุโรป(อียู) 20%
(+) TFD ซื้อหุ้น HOTPOT 10.22%'อภิชัย เตชะอุบล-ทีเอฟดี' ขึ้นแท่นหุ้นใหญ่อันดับ 3 (กรุงเทพธุรกิจ) เตรียมดันแบรนด์ธุรกิจอาหารเจาะตลาดต่างประเทศ 'ทีเอฟดี' และอภิชัย เตชะอุบล ซื้อหุ้นฮอทพอท 10.22% ผ่านกระดานบิ๊กล็อต ขึ้นแท่น ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ3 เตรียมสยายปีก ธุรกิจอาหารเจาะตลาดเออีซีปีหน้า หนุนรายได้โตก้าวกระโดด เผยหลังจับมือพันธมิตรใหม่ มีแบรนด์ร้านอาหารของบริษัท 3 แบรนด์ และของพันธมิตรอีก 3 แบรนด์
(+) SKR ลุยเทกโรงพยาบาล เจาะตลาดสุขภาพภาคใต้ (ทันหุ้น) SKR ไฟเขียวเข้าซื้อกิจการโรงพยาบาลศิครินทร์ หาดใหญ่ วางอนาคตเจาะตลาดสุขภาพในพื้นที่ภาคใต้ ขึ้นแท่นศูนย์กลางบริการสุขภาพนานาชาติรองรับกลุ่มลูกค้าจากมาเลเซีย-อินโดนีเซีย พร้อมอนุมัติเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม 6 ล้านหุ้น อัตราส่วน 20 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ในราคาหุ้นละ 25 บาท ได้เงินราว 150 ล้านบาท รองรับแผนขยายการลงทุน
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
COM7* (เป้าสูงสุด Consensus 12.5 บาท) ยืนเหนือ 11.3 บาทได้ ยืนยันการ Breakout แนวต้านเทรนไลน์ขาลง คาดมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านจุดสูงสุดเดิมบริเวณ 12.4 บาท แนวรับ 11.3 บาท และถัดไป 11 บาท ... คาดงบไตรมาส 3/59 โต YoY และทำนิวไฮในไตรมาส 4/59 + วันศุกร์นี้เริ่มจำหน่าย iPhone 7+ สัปดาห์หน้ามีโอกาสที่ Apple จะเปิดตัว MacBook ตัวใหม่
CPF* (เป้าพื้นฐาน 42 บาท) ประเมินแนวต้านแรก 32.5 บาท ตามคาด หากทะลุผ่านได้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 33.25 บาท แนวรับ 31.25 บาท และถัดไป 30.5 บาท ... ประเมินกำไรไตรมาส 3/59 = 5.2 พันล้านบาท +47% YoY และ ด้วยธีมการลงทุนเดียวกัน คืองบไตรมาส 3/59 โตแรง จากราคาเนื้อสัตว์ขึ้นสวนทางราคาวัตถุดิบฯ นักลงทุนอาจพิจารณา เก็งกำไรหุ้นในกลุ่มตัวเล็กอย่าง GFPT และ TFG เป็นต้น
CK* (เป้าพื้นฐาน 39.5 บาท) ประเมินแนวรับ 29 บาท แนวต้านแรก 30 บาท และถัดไปที่ 30.5 บาท ... ประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานอยู่ในขาขึ้น 3 - 5 ปีข้างหน้าจากงานประมูลภาครัฐฯที่จะทยอยออกมาต่อเนื่องในไตรมาส 4/59 (รถไฟฟ้าสีเหลือง+ชมพู / รถไฟรางคู่ มาบกะเบา-จิระ + ประจวบฯ-ชุมพร)
TCMC (เป้าพื้นฐานเบื้องต้น 5.4 - 5.6 บาท) ประเมินแนวรับ 4.7 บาท แนวต้านแรก 4.82 บาท หากยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้ คาดจะกลับสู่กรอบแนวโน้มขาขึ้น 4.82 - 5.40 บาท ... ประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 25 ต.ค. เพื่ออนุมัติซื้อกิจการผลิตโซฟาที่ประเทศอังกฤษ (ชื่อย่อ DMM) โดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระประเมิน IRR ได้สูงถึง 20.66% - 32.33% ประเมินหลังซื้อกิจการกำไรของ TCMC จะเติบโตเฉลี่ยปีละ ?30% CAGR 2558 - 2562
TACC (เป้า Consensus 10.6 บาท) ทะลุแนวต้าน 9.25 บาท แนะนำ "Let profit run" มีโอกาสทดสอบแนวต้านจุดสูงสุดเดิม 10 บาท
LIT (เป้า Consensus 15.3 บาท) ทดสอบแนวต้าน 11.3 บาท หากทะลุผ่านได้ แนะนำ "Let profit run" มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ? 12 บาท แต่ถ้าไม่ผ่าน 11.3 บาท แนะนำ "ซื้อแนวรับ" 10.8 บาท
TMT (เป้าพื้นฐาน 14.2 บาท) เป็นหุ้นปันผลสูง คาดปันผลปีนี้ 1.6 บาท/หุ้น (Dividend yield 12.2%)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
ANAN* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 5 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกำไรในไตรมาสที่ 3/59 = 188 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น +16.5% YoY แต่ลดลง -10.6% QoQ) ในเชิงพื้นฐานฝ่ายวิจัยฯแนะนำเพียง "ถือ" เพราะ Upside จำกัด อย่างไรก็ดีราคามีแนวโน้มที่อาจปรับตัวเพิ่มมากกว่าราคาเป้าหมายได้ในระยะสั้นเพื่อตอบสนองกับแนวโน้มกำไรและยอดจองคฮนโดที่แข็งแกร่ง
DELTA* แนะนำ "ขาย" (ปรับลงจาก "ถือ") เป้าพื้นฐาน 64 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกำไรในไตรมาสที่ 3/59 = 1.3 พันล้านบาท (ลดลง -15.2% YoY ทรงตัว +1.5% QoQ) และปรับลดประมาณการฯกำไรปี 2559 - 61 ลงสะท้อน การสร้างรายได้ของธุรกิจ ODM และ Regional ที่มีความกดดันสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้เดิม
SCB* แนะนำ "ซื้อ" เป้าพื้นฐาน 165 บาท คุณภาพสินทรัพย์ได้ส่งสัญญาณแย่ลง โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของหนี้เสียในกลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นภาพสะท้อนถึงความอ่อนแอของการบริโภคภายในประเทศ และเป็นความเสี่ยงว่าจุดสูงสุดของหนี้อาจจะล่าช้าไปถึงปีหน้า ฝ่ายวิจัยฯจึงปรับสมมติฐานการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น และ ปรับลดประมาณฯกำไรปี 2559 และ 2560 ลง 6% และ 13% ตามลำดับ
TOP* แนะนำ "ถือ" เป้าพื้นฐาน 72 บาท ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรไตรมาส 3/59 = 3.1 พันล้านบาท (ลดลง 60% QoQ แต่ดีขึ้นจากขาดทุนสุทธิในไตรมาส 3/58) โดยคาดมีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันราว 540 ล้านบาทในไตรมาสนี้
นักวิเคราะห์: อดิศักดิ์ คำมูล
66.2658.8888 ต่อ 8843