WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

FSS copyบล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

      SET ยังบวกต่อได้ แต่ก็เสี่ยงที่จะปรับพักลง ดังนั้นยังน่ารอซื้อช่วงลบตลาดหุ้นวานนี้ : หลังจาก SET แกว่งตัวผันผวนขึ้น-ลงในกรอบจำกัดอยู่ในช่วงครึ่งวันเช้า แต่ก็ยังขยับด้านบวกได้ดีขึ้น เนื่องจากตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ยังขยับบวกต่อได้ดี ก่อนที่จะมีแรงซื้อหนุนมากขึ้นในภาคบ่าย จนทำให้SET ขยับขึ้นไปสูงกว่า 1490 จุดได้เล็กน้อย แต่ในช่วงท้ายตลาดยังมีแรงขายกดดันให้อ่อนตัวลงบ้างแต่ไม่มากนัก
      แนวโน้มตลาดวันนี้ : ตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้ยังค่อนข้างสดใส หลังจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปส่วนใหญ่ยังปิดบวก จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ทะยานขึ้นกว่า 2% ขานรับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐสัปดาห์ที่แล้วที่ปรับตัวลง พร้อมยังได้รับแรงหนุนจากความหวังที่ว่ากลุ่มโอเปกจะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิตได้ตามแผนในการประชุมปลายเดือน พ.ย. หลัง รมว.น้ำมันของซาอุดิอาระเบียกล่าวในที่ประชุมกรุงลอนดอนวานนี้ว่ากลุ่มประเทศผู้ผลิตที่ไม่ได้เป็นสมาชิกโอเปก จะร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิต เพื่อพยุงราคาน้ำมันให้ปรับขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้จึงยังเปิดบวกอีก แต่กรอบบวกก็ยังค่อนข้างแคบ ทำให้ FSS ยังคาดว่า SET จะมีกรอบบวกไม่กว้างมากนัก และมีความเสี่ยงกับการปรับพักตัวจากแรงขายทำกำไรระยะสั้นด้วยกลยุทธ์ : ส่วนลงทุนยังแนะนำถือต่อเนื่องได้ แต่ถ้าซื้อใหม่น่ารอช่วงตลาดปรับพัก ขณะที่เทรดดิ้งตามรอบยังใช้วิธีขึ้นแบ่งส่วนขาย เพื่อรอซื้อช่วงลบ

แนวรับ 1482-1480 , 1475-1470 จุด
แนวต้าน 1490-1493 , 1495-1498 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : EPG , TVO , TU(short)
      Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$323ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$195ล้าน และไต้หวัน US$182ล้าน ขณะที่ไหลออกไทย US$73 ล้านและอินโดนีเซีย US$5ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคหลังจากรายงาน Beige Book เมื่อคืนนี้ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวปานกลางและมีส่วนใหญ่มีแนวโน้มบวก และต้องติดตามการดีเบตประธานาธิบดีสหรัฐในช่วงเช้าวันนี้

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
• (0) ติดตามการประชุม ECB ในวันนี้ว่าจะขยายอายุโครงการ QE ที่จะหมดอายุ มี.ค.2017 หรือไม่ การประชุมครั้งนี้ไม่กดดันนักเพราะตลาดไม่คาดหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย แต่ให้ความสำคัญกับการประชุมครั้งสุดท้ายของปี 8 ธ.ค. 2016 มากกว่า
• (+) ต่างชาติแม้จะขายหุ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 7 แต่ Net long ใน Index Futures เป็นครั้งแรกในรอบ 4 วันและยังคงซื้อพันธบัตรติดต่อกันเป็นวันที่ 2 จากก่อนหน้านั้นที่ขายติดต่อกัน 6 วัน
• (+) รัฐบาลจะทยอยออก 3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง 4Q16-1Q17 คือมาตรการที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ มาตรการประชารัฐภาคสังคม และมาตรการด้านท่องเที่ยว และเร่งผลักดันโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายต่างๆให้เร็วขึ้น แม้การจับจ่ายของประชาชนจะชะลอลงบ้างใน 4Q16 แต่รัฐบาลยังมอง GDP ปีนี้โต 3.0-3.5% ใกล้เคียงconsensus และ FSS เราคาดน่าจะได้เห็นการประมูลรถไฟฟ้า 3 สายตั้งแต่ พ.ย. เป็นต้นไป แนะนำ CK (ราคาพื้นฐานปีนี้ 40 บาท) และ BEM (ราคาพื้นฐานปีหน้า 12 บาท)
• (+) THANI กำไรสุทธิ 3Q16 ทำจุดสูงสุดใหม่ตามคาด 218 ล้านบาท +0.7% Q-Q,+2.2% Y-Y จาก NIM ที่สูง 5% เพราะรายได้เติบโตตามการขยายตัวของสินเชื่อ และคุมต้นทุนทางการเงินได้อย่างดี แต่ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่ยังสูงใกล้เคียง 2Q16 เพราะการสำรองฯตามอายุหนี้และตั้งสำรองทั่วไปเพื่อรองรับมาตรฐานบัญชีใหม่ แนวโน้มกำไร4Q16 น่าจะสร้างจุดสูงสุดใหม่ต่อ เรายังคงราคาพื้นฐานปีหน้า 6.20 บาท แนะนำซื้อ
• (+) BIG เราคาดกำไร 3Q16 ชะลอชั่วคราวเพราะกล้องโซนี่ขาดตลาดและยี่ห้ออื่นเลื่อนการออกรุ่นใหม่ออกไป คาดกำไร -27% Q-Q แต่ +16% Y-Y แต่เชื่อว่าจะกลับมาทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งใน 4Q16 ต่อเนื่องถึงปีหน้า การได้สิทธิบริหารร้าน AIS shop 3 สาขาเปิดใน 4Q16 ในช่วงแรกยังไม่มีนัยสำคัญต่อผลประกอบการแต่ระยะยาวจะช่วยกระจายรายได้ไปยังสินค้าอื่น ปัจจุบันมี 2017PE 16 เท่าหรือ PEG เพียง 0.8 เท่า ยังแนะนำซื้อราคาพื้นฐานปีหน้า 5.55 บาท
• (0) TOP เราคาดกำไรสุทธิ 3Q16 -60% Q-Q เพราะไตรมาสก่อนมีกำไรสต็อคน้ำมันสูงมาก แต่ผลการดำเนินงานหลักคาดชะลอเล็กน้อย เพราะธุรกิจปิโตรเคมีที่แข็งแกร่งช่วยชดเชย Margin ของโรงกลั่นที่ลดลงได้ ยังคงราคาพื้นฐานปีหน้า 73 บาท upside ที่จำกัดทำให้แนะนำถือ
• (+) WORK เราคาดกำไรปกติ 3Q16 โตแรง +121.8% Y-Y และ +8.6% Q-Q จากค่าโฆษณาที่เพิ่มต่อเนื่องตามเรทติ้งและ Utilization rate ที่สูงใกล้เคียง 2Q16 แต่กำไร 4Q16 น่าจะชะลอต่อเนื่องถึงต้นปีหน้า เราปรับกำไรปกติปี 2016-17 ลงเป็น +59%

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
10-21 ต.ค. - ไทย: กลุ่มธนาคารพาณิชย์ประกาศผลประกอบการ 3Q16
20 ต.ค. - อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
- สหรัฐ: Fed beige Book, ยอดขายบ้านเก่า (ก.ย.), การดีเบตรอบสุด
ท้ายของฮิลลารีและทรัมป์ (8am เวลาไทย)
- ECB ประชุม
24 ต.ค. - ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ต.ค.)
25 ต.ค. - ไทย: ดุลการค้า (ก.ย.)
- เกาหลีใต้: 3Q16 GDP
26 ต.ค. - สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (ก.ย.)
27 ต.ค. - ไทย: ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมและอัตราใช้กำลังการผลิต (ก.ย.)
- สหรัฐ: คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ก.ย.), Pending home sales (ก.ย.)
28 ต.ค. - ไทย: กกพ.ประกาศผลผู้ได้รับอนุมัติทำโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม
1 พ.ย. - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกได้เล็กน้อยโดยนักลงทุนตอบรับเชิงบวกกับรายงาน Beige Book ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง และการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบ
 (+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวกได้เช่นกันหนุนโดยราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น อย่างไรก็ตามตลาดจับตาดูการประชุม ECB ในวันนี้
 (+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวในแดนบวกได้เช่นกันท่ามกลางการดีเบตรอบสุดท้ายของ 2 ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
 (0) ค่าเงินบาทเริ่มแกว่งทรงตัวได้หลังจากแข็งค่ามาต่อเนื่อง ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.82-35.00 บาท/ดอลลาร์

 

BSP

 

adsoptimal100

paidtoclick copy

 

  

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!