- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 19 October 2016 21:37
- Hits: 5739
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)
Technical highlights
SET Index : ขายที่แนวต้าน 1480-1485
ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1477.54 จุด เพิ่มขึ้น 0.20 จุด มูลค่าการซื้อขาย 57,714 ล้านบาท ตลาดเมื่อวานปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1480 จุด แต่ยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมาต่อเนื่อง แต่มูลค่าการซื้อขายไม่สูงมาก โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1485 และ 1510 จุด
Daily: ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่บริเวณ 1480 จุดอีกครั้ง แต่ยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมาต่อเนื่อง ซึ่งเราคาดว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1480-1485 จุด ควรใช้เป็นจังหวะขายหุ้นออก เนื่องจากความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงค่อนข้างสูง โดยมีแนวรับที่ 1425-1430 จุด และมีแนวรับถัดไปที่ 1410 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันเป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้น และมีแนวรับสำคัญที่ 1380 จุด
กลยุทธ์ : SET Index ถูกขายที่บริเวณแนวต้านสำคัญที่ 1480-1485 จุดต่อเนื่อง แต่มูลค่าการซื้อขายไม่สูงมาก ทำให้การเคลื่อนไหวในระยะสั้นน่าจะอยู่ในกรอบจำกัด แต่เรายังคงแนะนำให้ขายหุ้นออกต่อเนื่อง เนื่องจากความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงค่อนข้างสูง โดยมีแนวรับที่ 1430 และ 1410 จุด
Most Active Value: แนวรับ แนวต้าน
KBANK แนวรับสำคัญ 174-175 ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 165-166 แนวต้าน 180 175 / 174** 178 / 180
BCPG ขายที่แนวต้าน 14.20-14.40 แนวรับ 13.40 และ 12.80 13.40 / 13.00 14.20 / 14.40
PTT ขายที่แนวต้าน 355 และ 360 แนวรับ 340 และ 330 348 / 344 355 / 360
AOT ขายที่แนวต้าน 386 และ 388 แนวรับ 380 380 / 378 386 / 388
PTTGC สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 62.00 และ 63.00 แนวรับ 60.00 60.75 / 60.50 61.50 / 62.00
SELIC ขายที่แนวต้าน 4.18-4.20 แนวโน้มลงทดสอบ 3.90 และ 3.80 4.00 / 3.90 4.14 / 4.18
IRPC แนวรับสำคัญ 4.74 ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 4.60 แนวต้าน 4.90 4.80 / 4.74** 4.88 / 4.90
CPALL เคลื่อนไหวในกรอบ 60.00-62.00 60.50 / 60.00 61.50 / 62.00
BBL แนวรับสำคัญ 152.50 แนวต้าน 155-156 154 / 152.50 155 / 156
SCC ขายที่แนวต้าน 510 แนวรับ 500 และ 490 504 / 500 510 / 514
Carabao Group (CBG TB; THB 64.75) – ซื้อ
แนวต้าน : 68.00 และ 70.00 / แนวต้านสำคัญ 74.00
แนวรับ : 64.50 และ 64.00
ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมาก หลังจากเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบระดับ 50
แนะนำซื้อ CBG โดยมีแนวรับที่ 64.50 และ 64.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 68.00 และ 70.00 เป็นจุดขายทำกำไร
ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 62.50 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 60.00
T.A.C. Consumer (TACC TB; THB 8.95) – ซื้อ
แนวต้าน : 9.50 และ 9.70 / แนวต้านสำคัญ 10.00
แนวรับ : 8.90 และ 8.80
ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณแนวต้าน 9.00 หลังจากฟื้นตัวเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงปรับตัวลดลงเข้าใกล้แนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ TACC โดยมีแนวรับที่ 8.90 และ 8.80 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 9.50 และ 9.70 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 8.40 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 8.00
Trading Pick Follow up: แนวรับ แนวต้าน
TPBI ขายทำกำไรที่แนวต้าน 16.50 แนวรับสำคัญ 15.50 16.20 / 16.00 16.50 / 16.70
YUASA ขายที่แนวต้าน 19.50 และ 20.00 ซื้อคืนที่แนวรับ 19.00 และ 18.60 19.00 / 18.60 19.50 / 20.00
SMPC ระยะสั้นขายที่แนวต้าน 17.50 ระยะยาวลุ้นทดสอบ 20.00 แนวรับสำคัญ 16.00 17.00 / 16.60 17.50 / 18.00
ECF แนวโน้มขึ้นทดสอบ 3.20 และ 3.32 แนวรับสำคัญ 3.04 3.14 / 3.10 3.20 / 3.32
PIMO แนวโน้มขึ้นทดสอบ 2.60 และ 2.70 แนวรับสำคัญ 2.36 16.00 / 15.80 16.20 / 16.50
PSTC ซื้อที่แนวรับ 0.57 และ 0.56 แนวโน้มขึ้นทดสอบ 0.60 และ 0.62 แนวรับสำคัญ 0.55 0.57 / 0.56 0.60 / 0.62
BH แนวโน้มขึ้นทดสอบ 175 และ 180 แนวรับสำคัญ 165 171 / 170 174 / 175
SRICHA สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 14.50 และ 15.40 แนวรับสำคัญ 13.00 13.80 / 13.60 14.20 / 14.50
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET… ประคับประคองตัว
หลังต่างชาติเริ่มเทขายหุ้นไทย ในสัดส่วนที่สูงขึ้น ตลาดหุ้นก็เริ่มผันผวน คือพยายามจะขึ้นแต่ไม่ไหว เนื่องจากต้องเผชิญกับแรงขายหุ้นใหญ่ในกลุ่มที่โตจากภายในประเทศ อย่าง กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ค้าปลีก โยงท่อเที่ยว และอสังหาริมทรัพย์ แต่อย่างไรก็ตามหุ้นที่กลับขึ้นมาเล่นจะเป็นหุ้นขนาดเล็กและหุ้นที่คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากแนวโน้มกำลังซื้อที่จะชะลอตัว โดยหุ้นเหล่านี้เรามองว่าเป็นแค่การเล่นในช่วงสั้นๆ ดังนั้นหุ้นที่คาดว่าจะสามารถยืนต้านแรงขายในรอบนี้จะต้องเป็นหุ้นที่ผลดำเนินงานออกมาแข็งแกร่งจริงๆ หรือหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงๆ หรือหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่จะลดลงอย่าง พลังงาน ปิโตรเคมีหรือที่โยงกับสินค้าโภคภัณฑ์
ช่วงที่ตลาดยังเผชิญกับแรงขายออกมาอย่างมาก หุ้นที่จะยืนได้ยังคงลำบาก จนกว่าจะเห็นแรงขายค่อยๆแผ่วลงซึ่งเรามองว่ายังต้องใช้เวลาอีกสักพัก หรือรอให้ดัชนี SET ลงไปต่ำกว่าที่เป็นอยู่ หุ้นที่เราคาดว่าจะยังสามารถยืนค้ำตลาดได้ ยังคงเป็นหุ้นที่อิงกับวัฏจักรเศรษฐกิจ อย่าง พลังงาน ปิโตรเคมี ถ่านหิน สินค้าเกษตร และอาหาร ส่วนหุ้นที่โตจากกำลังซื้อภายใน คาดจะยังมีแรงกดไปอีกสักพัก หรือจนกว่าราคาหุ้นจะเริ่มนิ่งๆ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคาร
ประเด็นที่คาดว่าจะเห็นภาพแนวโน้มกำไรของตลาดว่าจะยังดีหรือเริ่มชะลอตัวลง คือ Earning revision ratio (จำนวนนักวิเคราะห์ที่ปรับค่า EPS ขึ้น ลบด้วยจำนวนหุ้นที่ถูกปรับลดลง หารด้วยทั้งหมด) ซึ่งน่าจะสะท้อนแนวโน้มกำไรของตลาดในอนาคตได้ระดับหนึ่ง พบว่าค่า Earning revision ยังยืนในแดนบวก แต่กำลังทำหัวลง ตรงนี้ยังตัดสินไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไร คือยังต้องรอให้งบทยอยออกมาเรื่อยๆ หรือดูไปอีกสักพัก แต่หากค่าดังกล่าวเกิดเอาหัวลงไปในแดนลบรอบใหม่ ก็แสดงว่าแนวโน้มการทำกำไรของตลาด อาจชะลอตัวชั่วคราว
น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ระดับหนึ่งว่า หุ้นที่กลับมาเล่นกัน เริ่มเป็นหุ้นขนาดกลางที่ underperform ก่อนหน้านี้หรือเป็นหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง อย่าง หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์สร้างบ้าน และประกัน ส่วนหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แทบจะไม่มีตัวไหนขึ้นมาได้ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ดังนั้นหุ้นที่คาดว่าจะยังเล่นได้ในช่วงที่ตลาดซึมๆ ยังคงเป็น พลังงาน ปิโตรเคมีและที่โยงกับสินค้าโภคภัณฑ์
วันนี้มองทิศทางดัชนี SET จะยังทรงและซึม จากการขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ขณะที่แรงขายของนักลงทุนต่างประเทศคาดยังมีต่อเนื่อง อันจะส่งผลให้ตลาดยังแกว่งในกรอบแคบๆ เพื่อรองบ Q3 ประเด็นที่ต้องจับตาในวันนี้คือ การประกาศตัวเลข GDP Q3/16 ของจีนที่คาดว่าจะออกมาเท่ากับ Q2/16 ที่ 6.7% ส่วนตัวเลข CPI ของสหรัฐเพิ่มขึ้นเล็กน้อย วันนี้มองแนวต้านที่ 1482-1486 จุด แนวรับที่ 1462-1457 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร IRPC ESSO SVI
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
Investment Strategy
กลยุทธ์: ในช่วงที่ตลาดยังเผชิญกับแรงขายออกมาอย่างมาก หุ้นที่จะยืนได้ยังคงลำบาก จนกว่าจะเห็นแรงขายค่อยๆแผ่วลงซึ่งเรามองว่ายังต้องใช้เวลาอีกสักพัก หรือรอให้ดัชนี SET ลงไปต่ำกว่าที่เป็นอยู่ หุ้นที่เราคาดว่าจะยังสามารถยืนค้ำตลาดได้ ยังคงเป็นหุ้นที่อิงกับวัฏจักรเศรษฐกิจอย่าง พลังงาน ปิโตรเคมี ถ่านหิน สินค้าเกษตร และอาหาร ส่วนหุ้นที่โตจากกำลังซื้อภายใน คาดจะยังมีแรงกดไปอีกสักพัก หรือจนกว่าราคาหุ้นจะเริ่มนิ่งๆ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคาร วันนี้มองทิศทางดัชนี SET จะยังทรงและซึม จากการขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ขณะที่แรงขายของนักลงทุนต่างประเทศคาดยังมีต่อเนื่อง อันจะส่งผลให้ตลาดยังแกว่งในกรอบแคบๆ เพื่อรองบ Q3 ประเด็นที่ต้องจับตาในวันนี้คือ การประกาศตัวเลข GDP Q3/16 ของจีนที่คาดว่าจะออกมาเท่ากับ Q2/16 ที่ 6.7% ส่วนตัวเลข CPI ของสหรัฐเพิ่มขึ้นเล็กน้อย วันนี้มองแนวต้านที่ 1482-1486 จุด แนวรับที่ 1462-1457 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร IRPC ESSO SVI
Themes play :
IVL : เราแนะนำ ซื้อ IVL โดยมีราคาเป้าหมาย 50 บาท โดยเราคาดว่า IVL จะมีกำไรปกติแข็งแกร่งถึง 2.3 พันล้านบาทและกำไรสุทธิ 2.7 พันล้านบาทใน 3Q16 เนื่องจาก 1) ปริมาณการผลิตและมาร์จินเพิ่มขึ้นตามการผลิตผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษ (HVA) และ 2) ปริมาณการผลิตโภคภัณฑ์จากฝั่งตะวันตกเพิ่มขึ้นหลังบริษัทเข้าซื้อกิจการ Cepsa Spain (IPA, PTA, PET, 0.7mtpa) และ BP Amoco ในสหรัฐ (PX, PTA, NDC, 1mtpa) ขณะที่กำไรสุทธิคาดจะอยู่ที่ 2.7 พันล้านบาทจากการกลับรายการสำรองสำหรับการยกเลิกโครงการรวม 400 ล้านบาทในปี 2015 เราคาดว่า IVL จะมีกำไรเติบโตสูงขึ้นในปี 2017 จาก 1) ปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น 10% yoy เป็น 11mtpa ในปี 2017 หลังการขยายกำลังการผลิตที่ Rotterdam บวกกับแครกเกอร์ใหม่ 0.4mtpa ที่ใช้วัตถุดิบ shale gas ในสหรัฐจะเปิดดำเนินงานใน 4Q17 และ 2) มาร์จิน PTA, PET และ MEG ในตลาดตะวันตกเพิ่มสูงขึ้น
ประเด็นในสัปดาห์
19 ต.ค. : จีนประกาศตัวเลข Industrial Production YoY เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 6.4% จากเดือนก่อนหน้าที่ 6.3%
19 ต.ค. : จีนประกาศตัวเลข GDP YoY ไตรมาส 3/16 โดยตลาดคาด 6.7% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 6.7%
19 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Housing Starts เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 1.17 ล้านยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 1.142 ล้านยูนิต
19 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Building Permits เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 1.165 ล้านยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 1.152 ล้านยูนิต
20 ต.ค. : การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) โดยตลาดคาดว่า ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.00% และวงเงิน QE ที่ 85,000 ล้านยูโร/เดือน ไปจนเดือนมี.ค. 60
Fundamental Stock :
KKP : Company Note (คำแนะนำ : ขาย ราคาเป้าหมาย 50.50 บาท)
TCAP : Company Note (คำแนะนำ : ถือ ราคาเป้าหมาย 39 บาท)
Technical Pick:
SET Index มีแนวรับ 1360 จุด แนวต้าน 1480-1485 จุด
Carabao Group (CBG TB; THB 64.75) - ซื้อ
T.A.C. Consumer (TACC TB; THB 8.95) - ซื้อ
SET Index : ขายที่แนวต้าน 1480-1485
Retail Research Team