WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)

 

Technical highlights

SET Index : ขายที่แนวต้าน 1480-1485 

  ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1477.54 จุด เพิ่มขึ้น 0.20 จุด มูลค่าการซื้อขาย 57,714 ล้านบาท ตลาดเมื่อวานปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1480 จุด แต่ยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมาต่อเนื่อง แต่มูลค่าการซื้อขายไม่สูงมาก โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1485 และ 1510 จุด

  Daily: ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่บริเวณ 1480 จุดอีกครั้ง แต่ยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมาต่อเนื่อง ซึ่งเราคาดว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1480-1485 จุด ควรใช้เป็นจังหวะขายหุ้นออก เนื่องจากความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงค่อนข้างสูง โดยมีแนวรับที่ 1425-1430 จุด และมีแนวรับถัดไปที่ 1410 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันเป็นจังหวะในการเข้าซื้อหุ้น และมีแนวรับสำคัญที่ 1380 จุด

  กลยุทธ์ : SET Index ถูกขายที่บริเวณแนวต้านสำคัญที่ 1480-1485 จุดต่อเนื่อง แต่มูลค่าการซื้อขายไม่สูงมาก ทำให้การเคลื่อนไหวในระยะสั้นน่าจะอยู่ในกรอบจำกัด แต่เรายังคงแนะนำให้ขายหุ้นออกต่อเนื่อง เนื่องจากความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงค่อนข้างสูง โดยมีแนวรับที่ 1430 และ 1410 จุด

Most Active Value:         แนวรับ   แนวต้าน

KBANK แนวรับสำคัญ 174-175 ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 165-166 แนวต้าน 180  175 / 174** 178 / 180

BCPG ขายที่แนวต้าน 14.20-14.40 แนวรับ 13.40 และ 12.80 13.40 / 13.00 14.20 / 14.40

PTT ขายที่แนวต้าน 355 และ 360 แนวรับ 340 และ 330 348 / 344 355 / 360

AOT ขายที่แนวต้าน 386 และ 388 แนวรับ 380 380 / 378 386 / 388

PTTGC สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 62.00 และ 63.00 แนวรับ 60.00 60.75 / 60.50 61.50 / 62.00

SELIC ขายที่แนวต้าน 4.18-4.20 แนวโน้มลงทดสอบ 3.90 และ 3.80 4.00 / 3.90 4.14 / 4.18

IRPC แนวรับสำคัญ 4.74 ถ้าหลุดจะมีแนวรับถัดไปที่ 4.60 แนวต้าน 4.90 4.80 / 4.74** 4.88 / 4.90

CPALL เคลื่อนไหวในกรอบ 60.00-62.00 60.50 / 60.00 61.50 / 62.00

BBL แนวรับสำคัญ 152.50 แนวต้าน 155-156 154 / 152.50 155 / 156

SCC ขายที่แนวต้าน 510 แนวรับ 500 และ 490 504 / 500 510 / 514

Carabao Group (CBG TB; THB 64.75) – ซื้อ

  แนวต้าน : 68.00 และ 70.00  /  แนวต้านสำคัญ 74.00

  แนวรับ   : 64.50 และ 64.00

  ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น ในขณะที่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมาก หลังจากเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบระดับ 50

  แนะนำซื้อ CBG โดยมีแนวรับที่ 64.50 และ 64.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 68.00 และ 70.00 เป็นจุดขายทำกำไร 

  ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 62.50 ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 60.00

T.A.C. Consumer (TACC TB; THB 8.95) – ซื้อ

  แนวต้าน : 9.50 และ 9.70  /  แนวต้านสำคัญ 10.00

  แนวรับ   : 8.90 และ 8.80

  ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณแนวต้าน 9.00 หลังจากฟื้นตัวเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น

  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงปรับตัวลดลงเข้าใกล้แนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50

  แนะนำซื้อ TACC โดยมีแนวรับที่ 8.90 และ 8.80 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 9.50 และ 9.70 เป็นจุดขายทำกำไร 

  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 8.40  ลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 8.00

Trading Pick Follow up:  แนวรับ แนวต้าน

TPBI ขายทำกำไรที่แนวต้าน 16.50 แนวรับสำคัญ 15.50 16.20 / 16.00 16.50 / 16.70

YUASA ขายที่แนวต้าน 19.50 และ 20.00 ซื้อคืนที่แนวรับ 19.00 และ 18.60 19.00 / 18.60 19.50 / 20.00

SMPC ระยะสั้นขายที่แนวต้าน 17.50 ระยะยาวลุ้นทดสอบ 20.00 แนวรับสำคัญ 16.00 17.00 / 16.60 17.50 / 18.00

ECF แนวโน้มขึ้นทดสอบ 3.20 และ 3.32 แนวรับสำคัญ 3.04 3.14 / 3.10 3.20 / 3.32

PIMO แนวโน้มขึ้นทดสอบ 2.60 และ 2.70 แนวรับสำคัญ 2.36 16.00 / 15.80 16.20 / 16.50

PSTC ซื้อที่แนวรับ 0.57 และ 0.56 แนวโน้มขึ้นทดสอบ 0.60 และ 0.62 แนวรับสำคัญ 0.55 0.57 / 0.56 0.60 / 0.62

BH แนวโน้มขึ้นทดสอบ 175 และ 180 แนวรับสำคัญ 165 171 / 170 174 / 175

SRICHA สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 14.50 และ 15.40 แนวรับสำคัญ 13.00 13.80 / 13.60 14.20 / 14.50

Analysts :

Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]

บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

 

SET… ประคับประคองตัว

  หลังต่างชาติเริ่มเทขายหุ้นไทย ในสัดส่วนที่สูงขึ้น ตลาดหุ้นก็เริ่มผันผวน คือพยายามจะขึ้นแต่ไม่ไหว เนื่องจากต้องเผชิญกับแรงขายหุ้นใหญ่ในกลุ่มที่โตจากภายในประเทศ อย่าง กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ค้าปลีก โยงท่อเที่ยว และอสังหาริมทรัพย์ แต่อย่างไรก็ตามหุ้นที่กลับขึ้นมาเล่นจะเป็นหุ้นขนาดเล็กและหุ้นที่คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากแนวโน้มกำลังซื้อที่จะชะลอตัว โดยหุ้นเหล่านี้เรามองว่าเป็นแค่การเล่นในช่วงสั้นๆ ดังนั้นหุ้นที่คาดว่าจะสามารถยืนต้านแรงขายในรอบนี้จะต้องเป็นหุ้นที่ผลดำเนินงานออกมาแข็งแกร่งจริงๆ หรือหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงๆ หรือหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่จะลดลงอย่าง พลังงาน ปิโตรเคมีหรือที่โยงกับสินค้าโภคภัณฑ์

  ช่วงที่ตลาดยังเผชิญกับแรงขายออกมาอย่างมาก หุ้นที่จะยืนได้ยังคงลำบาก จนกว่าจะเห็นแรงขายค่อยๆแผ่วลงซึ่งเรามองว่ายังต้องใช้เวลาอีกสักพัก หรือรอให้ดัชนี SET ลงไปต่ำกว่าที่เป็นอยู่ หุ้นที่เราคาดว่าจะยังสามารถยืนค้ำตลาดได้ ยังคงเป็นหุ้นที่อิงกับวัฏจักรเศรษฐกิจ อย่าง พลังงาน ปิโตรเคมี ถ่านหิน สินค้าเกษตร และอาหาร ส่วนหุ้นที่โตจากกำลังซื้อภายใน คาดจะยังมีแรงกดไปอีกสักพัก หรือจนกว่าราคาหุ้นจะเริ่มนิ่งๆ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคาร

  ประเด็นที่คาดว่าจะเห็นภาพแนวโน้มกำไรของตลาดว่าจะยังดีหรือเริ่มชะลอตัวลง คือ Earning revision ratio (จำนวนนักวิเคราะห์ที่ปรับค่า EPS ขึ้น ลบด้วยจำนวนหุ้นที่ถูกปรับลดลง หารด้วยทั้งหมด)  ซึ่งน่าจะสะท้อนแนวโน้มกำไรของตลาดในอนาคตได้ระดับหนึ่ง  พบว่าค่า Earning revision ยังยืนในแดนบวก แต่กำลังทำหัวลง ตรงนี้ยังตัดสินไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไร คือยังต้องรอให้งบทยอยออกมาเรื่อยๆ หรือดูไปอีกสักพัก แต่หากค่าดังกล่าวเกิดเอาหัวลงไปในแดนลบรอบใหม่ ก็แสดงว่าแนวโน้มการทำกำไรของตลาด อาจชะลอตัวชั่วคราว

  น่าจะเป็นเครื่องยืนยันได้ระดับหนึ่งว่า หุ้นที่กลับมาเล่นกัน เริ่มเป็นหุ้นขนาดกลางที่ underperform ก่อนหน้านี้หรือเป็นหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง อย่าง หุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์สร้างบ้าน และประกัน ส่วนหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แทบจะไม่มีตัวไหนขึ้นมาได้ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ดังนั้นหุ้นที่คาดว่าจะยังเล่นได้ในช่วงที่ตลาดซึมๆ ยังคงเป็น พลังงาน ปิโตรเคมีและที่โยงกับสินค้าโภคภัณฑ์

  วันนี้มองทิศทางดัชนี SET จะยังทรงและซึม จากการขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ขณะที่แรงขายของนักลงทุนต่างประเทศคาดยังมีต่อเนื่อง อันจะส่งผลให้ตลาดยังแกว่งในกรอบแคบๆ เพื่อรองบ Q3 ประเด็นที่ต้องจับตาในวันนี้คือ การประกาศตัวเลข GDP Q3/16 ของจีนที่คาดว่าจะออกมาเท่ากับ Q2/16 ที่ 6.7% ส่วนตัวเลข CPI ของสหรัฐเพิ่มขึ้นเล็กน้อย วันนี้มองแนวต้านที่ 1482-1486 จุด แนวรับที่ 1462-1457  จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร IRPC ESSO SVI

Analysts :  

Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]

บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)

 

Investment Strategy

  กลยุทธ์: ในช่วงที่ตลาดยังเผชิญกับแรงขายออกมาอย่างมาก หุ้นที่จะยืนได้ยังคงลำบาก จนกว่าจะเห็นแรงขายค่อยๆแผ่วลงซึ่งเรามองว่ายังต้องใช้เวลาอีกสักพัก หรือรอให้ดัชนี SET ลงไปต่ำกว่าที่เป็นอยู่ หุ้นที่เราคาดว่าจะยังสามารถยืนค้ำตลาดได้ ยังคงเป็นหุ้นที่อิงกับวัฏจักรเศรษฐกิจอย่าง พลังงาน ปิโตรเคมี ถ่านหิน สินค้าเกษตร และอาหาร ส่วนหุ้นที่โตจากกำลังซื้อภายใน คาดจะยังมีแรงกดไปอีกสักพัก หรือจนกว่าราคาหุ้นจะเริ่มนิ่งๆ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคาร วันนี้มองทิศทางดัชนี SET จะยังทรงและซึม จากการขาดปัจจัยหนุนใหม่ๆ ขณะที่แรงขายของนักลงทุนต่างประเทศคาดยังมีต่อเนื่อง อันจะส่งผลให้ตลาดยังแกว่งในกรอบแคบๆ เพื่อรองบ Q3 ประเด็นที่ต้องจับตาในวันนี้คือ การประกาศตัวเลข GDP Q3/16 ของจีนที่คาดว่าจะออกมาเท่ากับ Q2/16 ที่ 6.7% ส่วนตัวเลข CPI ของสหรัฐเพิ่มขึ้นเล็กน้อย วันนี้มองแนวต้านที่ 1482-1486 จุด แนวรับที่ 1462-1457  จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร IRPC ESSO SVI

Themes play : 

  IVL : เราแนะนำ ซื้อ IVL โดยมีราคาเป้าหมาย 50 บาท โดยเราคาดว่า IVL จะมีกำไรปกติแข็งแกร่งถึง 2.3 พันล้านบาทและกำไรสุทธิ 2.7 พันล้านบาทใน 3Q16 เนื่องจาก 1) ปริมาณการผลิตและมาร์จินเพิ่มขึ้นตามการผลิตผลิตภัณฑ์ชนิดพิเศษ (HVA) และ 2) ปริมาณการผลิตโภคภัณฑ์จากฝั่งตะวันตกเพิ่มขึ้นหลังบริษัทเข้าซื้อกิจการ Cepsa Spain  (IPA, PTA, PET, 0.7mtpa) และ BP Amoco ในสหรัฐ (PX, PTA, NDC, 1mtpa) ขณะที่กำไรสุทธิคาดจะอยู่ที่ 2.7 พันล้านบาทจากการกลับรายการสำรองสำหรับการยกเลิกโครงการรวม 400 ล้านบาทในปี 2015   เราคาดว่า IVL จะมีกำไรเติบโตสูงขึ้นในปี 2017 จาก 1) ปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น 10% yoy เป็น 11mtpa ในปี 2017 หลังการขยายกำลังการผลิตที่ Rotterdam บวกกับแครกเกอร์ใหม่ 0.4mtpa ที่ใช้วัตถุดิบ shale gas ในสหรัฐจะเปิดดำเนินงานใน 4Q17 และ 2) มาร์จิน PTA, PET และ MEG ในตลาดตะวันตกเพิ่มสูงขึ้น

ประเด็นในสัปดาห์

  19 ต.ค. : จีนประกาศตัวเลข Industrial Production YoY เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 6.4% จากเดือนก่อนหน้าที่ 6.3% 

  19 ต.ค. : จีนประกาศตัวเลข GDP YoY ไตรมาส 3/16 โดยตลาดคาด 6.7% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 6.7%

  19 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Housing Starts เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 1.17 ล้านยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 1.142 ล้านยูนิต 

  19 ต.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Building Permits เดือนก.ย. โดยตลาดคาด 1.165 ล้านยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 1.152 ล้านยูนิต

  20 ต.ค. : การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) โดยตลาดคาดว่า ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.00% และวงเงิน QE ที่ 85,000 ล้านยูโร/เดือน ไปจนเดือนมี.ค. 60

 

Fundamental Stock :

  KKP  : Company Note (คำแนะนำ : ขาย ราคาเป้าหมาย 50.50 บาท)       

  TCAP : Company Note (คำแนะนำ : ถือ  ราคาเป้าหมาย 39 บาท)

Technical Pick:

  SET Index มีแนวรับ 1360 จุด แนวต้าน 1480-1485 จุด

  Carabao Group (CBG TB; THB 64.75) - ซื้อ 

  T.A.C. Consumer (TACC TB; THB 8.95) - ซื้อ

SET Index : ขายที่แนวต้าน 1480-1485        

Retail Research Team  

 

BSP

 

adsoptimal100

paidtoclick copy

 

  

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!