- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 19 October 2016 21:27
- Hits: 1900
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แม้ SET ยังทรงตัวได้ดี แต่ก็ต้องระวังปรับพัก ดังนั้นยังน่ารอซื้อช่วงลบตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวลงก่อนในช่วงชั่วโมงแรกของการซื้อขายถึงแม้ว่าตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่จะขยับบวกได้ดีก็ตาม คาดว่าส่วนหนึ่งมาจากการขายทำกำไรหลัง SET บวกแรงขึ้นมาในช่วงท้ายสัปดาห์ก่อน แต่หลังจากดัชนีปรับตัวลงเกือบ 10 จุด ก็เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนให้ตลาดค่อยๆ ไต่ระดับกลับขึ้นมาเคลื่อนไหวเป็นบวกอีกครั้งในช่วงท้าย ก่อนปิดเป็นบวกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปส่วนใหญ่พลิกกลับมาฟื้นตัวขึ้นได้ดี ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสหรัฐ และยังได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ขยับขึ้นมายืนสูงกว่า 50 ดอลลาร์/บาร์เรลได้อีกครั้ง รวมทั้งนักลงทุนมีมุมมองเป็นบวกมากขึ้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งพอที่จะรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเร็วๆ นี้ได้ อย่างไรก็ตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาดีต่อเนื่อง อาจทำให้นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ ทำให้ SET ยังมีโอกาสที่จะแกว่งตัวผันผวนและอ่อนตัวลงต่อได้อีก แต่ FSS คาดว่า SET น่าจะพักตัวลงในกรอบจำกัดและใช้เวลาเพียงระยะสั้น ก่อนที่จะลุ้นพลิกกลับไปแกว่งบวกได้ใหม่อีกครั้งในช่วงถัดไปตามคาดเดิม
กลยุทธ์ : ส่วนลงทุนยังแนะนำถือต่อเนื่องได้ แต่ถ้าซื้อใหม่น่ารอช่วงตลาด
ปรับพัก ขณะที่เทรดดิ้งตามรอบยังใช้วิธีขึ้นแบ่งส่วนขาย เพื่อรอซื้อช่วงลบ
แนวรับ 1470-1467 , 1463-1460 , 1455-1448 จุด
แนวต้าน 1480-1487 , 1493-1498 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SMT , SYNTEC , CPN(short)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$153ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$134ล้าน และไต้หวัน US$83ล้าน ขณะที่ไหลออกไทย US$67 ล้านแนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกภูมิภาค นักลงทุนรอรายงาน BeigeBook ของ Fed เพื่อพิจารณามุมมองของ Fed ต่อภาวะเศรษฐกิจ และการดีเบตประธานาธิบดีสหรัฐ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
• (+) FN เป็นหุ้น IPO ตัวใหม่ เป็นผู้ประกอบการ Outlet จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค
จุดเด่นคือมี House brand สูงถึง 65.9% ของรายได้ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มค้าปลีกที่
12.5% ทำให้ความสามารถในการทำกำไรโดดเด่นกว่ากลุ่มมาก โดยมี Gross margin
46.7% และ Net profit margin 13.1% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่มี Gross margin
19.7% และ Net profit margin 5.7% เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนจะนำไปขยายสาขาและ
ปรับปรุงสาขาเดิม เราคาดกำไรปี 2017 โต 47% Y-Y และคาดการเติบโตของกำไรเฉลี่ย
ในปี 2016-20 ที่ 28.7% สูงกว่ากลุ่มที่ 16.3% เรามอง FN เป็น Growth stock ที่
น่าสนใจที่สุดในกลุ่ม ประเมินราคาเป้าหมายปีหน้า 6 บาท (DCF) (FSS เป็นแกนนำในการ
จัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ FN)
• (0) SCB กำไรสุทธิ 3Q16 น้อยกว่าที่เราและตลาดคาด -10% Q-Q, +28% Y-Y จากการตั้งสำรองฯที่สูงกว่าคาด ส่วน PPOP แม้ว่าทำได้ดีกว่าที่คาด แต่มีประเด็นที่น่าห่วงคือNPL ที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ราว 4 พันล้านบาทจากการด้อยคุณภาพซึ่งลุกลามไปสู่กลุ่มลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ 2-3 ราย ขณะที่ NPL จากกลุ่มสินเชื่อที่อยู่อาศัยยังมีทิศทางเพิ่มต่อเราปรับลดกำไรปีนี้ลง 5% ปีหน้าลง 8% ปรับลดราคาเหมาะสมปีหน้าเป็น 174 บาท (เดิม190 บาท) ยังแนะนำซื้อ และมองว่ายังได้เปรียบ KBANK ด้าน ROE ที่สูงกว่า
• (+) TMB กำไรสุทธิ 3Q16 -14% Q-Q, -35% Y-Y น้อยกว่าที่เราและตลาดคาดไว้จากการตั้งสำรอฯที่สูงกว่าคาดเพื่อรองรับการ Write-off หนี้ NPL แต่ PPOP ยังแข็งแกร่งจากการบริหารต้นทุนเงินฝาก ทำให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คุณภาพหนี้ดีขึ้นหลังมีการกำจัดออกตั้งแต่ 2Q16 ต่อเนื่องในไตรมาสนี้ทำให้ NPL Ratio ลดเหลือ 2.5%ขณะ Coverage ratio ยังแกร่งที่ 142% คงประมาณการกำไรปีนี้และปีหน้า คงราคาเหมาะสมที่ 2.70 บาท “ซื้อ”
• (+) BEM แนวโน้มกำไร 3Q16 สดใส เราคาด +30% Q-Q เป็น 656 ล้านบาทจากการเริ่มให้บริการทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกและได้รับค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงตั้งแต่เดือน ส.ค. และการประหยัดดอกเบี้ยจ่ายหลังรีไฟแนนซ์หนี้กลางปีที่ผ่านมา ปี 2017 จะเป็นอีกปีที่สดใสเพราะรับรู้รายได้เต็มปีจากทางด่วนเส้นใหม่และค่าจ้างเดินรถสายสีม่วงและประหยัดดอกเบี้ยจ่ายอีกปีละกว่า 300 ล้านบาท เรายังมีมุมมองเป็นบวกต่อเนื่องในระยะยาว ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายหน้าที่ 12 บาท (DCF) ยังแนะนำซื้อ
• (-) BEC เราคาดกำไรปกติ 3Q16 ฟื้น +10% Q-Q จาก Gross margin ที่ดีขึ้นเพราะไม่มี
รายการบอลยูโรซึ่งมีมาร์จิ้นต่ำมาฉุด แต่ยังลดต่อเนื่อง -35% Y-Y จากตลาดโฆษณาที่อ่อนแอ การสูญเสียพิธีกรข่าวหลัก การแข่งขันในธุรกิจทีวีที่เข้มข้น และความนิยมสื่อออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น แนวโน้มกำไร 4Q16 น่าจะลดลงมาก เราปรับลดกำไรปกติปี 2016-17 ลง 20% และ 13% เป็น -44.2% Y-Y ในปีนี้และ +10% Y-Y ในปีหน้า ปรับราคาเป้าหมายปีหน้าลงเหลือ 20 บาท จาก 21.50 บาท (DCF) คงคำแนะนำขาย(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนบวกได้ขานรับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่แข็งแกร่ง ซึ่งทำให้มีมุมมองเป็นบวก มากขึ้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯแข็งแกร่งพอสำหรับการขึ้นดอกเบี้ย
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวกได้แรงพอสมควรนำ โดยหุ้นในกลุ่มเหมือง นอกจากนี้นักลงทุนยังตอบรับเชิงบวกกับผล ประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศออกมา
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวค่อนมาในแดนบวกได้ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามคือตัวเลข GDP 3Q16 ของจีนเช้านี้
(+) ค่าเงินบาทยังแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดหลุดลงต่ำกว่าระดับ 35 บาท/ดอลลาร์