- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 17 October 2016 17:02
- Hits: 1995
บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Market View : Foreign Net Sell ต่อเนื่อง
Stock of the town : YUASA CWT
หุ้นแนะนำพิเศษ : BJC
หุ้นมีข่าว : KBANK LHBANK
SET วันก่อนปรับตัวขึ้นแรงจากแรงซื้อการทำ Cover Short รวมถึงการรีบาวด์ตามสัญญาณเทคนิค และราคาน้ำมันที่ทรงตัวเหนือ 50 US/Barrel หนุนให้ SET ปิดที่ 1,477.61 จุด (+64.79 จุด) Vol. 1.05 แสนลบ.โดย Foreign Net -2,573 ลบ.,TFEX Net -24,390 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
+ ตลาดหุ้น DJ ปรับตัวขึ้นหลังตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย. + 0.3% MoM , ยอดค้าปลีกเดือนก.ย. +0.6%
+/- FED กังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวและอาจใช้นโยบายเชิงรุกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
+/- ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวลงเล็กน้อยล่าสุด 50.1 US/Barrel หลังค่าเงินดอลล่าแข็งค่าขึ้น และจำนวนแท่งขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐฯเพิ่มขึ้น
+ คลังยื่นไฟลิ่งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตของไทย 1 หมื่นล้านบาทแรก ภายในเดือนตุลาคม และยื่นขอขายหน่วยลงทุนให้นักลงทุนในเดือน พ.ย. วงเงินไม่เกิน 9 หมื่นล้านบาท เปิดจำหน่ายต้นปีหน้า การันตีผลตอบแทนขั้นต่ำ 2-3% ต่อปี
- รัฐบาลเยอรมันปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือดอยซ์แบงก์ เนื่องจากความเสี่ยงทางด้านการเมืองที่จะสร้างความไม่พอใจต่อชาวเยอรมัน หากมีการเอาเงินภาษีไปอุ้มธนาคาร
- Foreign เป็น Net Sell 4 วันต่อเนื่องราว 3 พันลบ. รวมถึงแนวโน้มเงินบาทอ่อนค่าลงล่าสุด 35.4 Bath/USD
** 19 ต.ค. ติดตามการ Debate ชิงปธน.สหรัฐฯรอบสุดท้าย ทั้งนี้โพลล่าสุดคะแนนนิยม "ฮิลลารี" ยังเหนือ "ทรัมป์" ที่ 48% ต่อ 37%
** 20 ต.ค. การประชุม ECB (คาดไม่มีมาตรการใหม่เพิ่มเติม)
** ติดตามการประกาศงบ Q3/59 ของกลุ่มธนาคาร ซึ่งประกาศแล้ว 3 แห่ง
TISCO กำไร Q3/59 ที่ 1,250 ลบ. (+4%QoQ +54%YoY)
KBANK กำไร Q3/59 ที่ 10,856 ลบ. (+7.3% YoY ,+15.2%YoY)
LHBANK กำไร Q3/59 ที่ 698 ลบ. (+58%YoY แต่ -13% QoQ)
ภาวะตลาดหุ้นไทยมีแรงกดดันจากกระแส Fund Flow Foreign เป็นฝั่ง Net Sell 4 วันต่อเนื่องราว 3 พันลบ. ,ความกังวล FED ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงดัชนีรีบาวด์ขึ้นมามากราว 10% จากระดับต่ำสุดในรอบนี้ ดังนั้นคาดว่า SET จะแกว่งตัว 1,465 – 1,490 จุด
กลยุทธ์การลงทุน ซื้อเล่นรีบาวด์ช่วงอ่อนตัวแบบ Selective Buy
- หุ้นที่คาดว่างบ Q3/59 จะเติบโตขึ้น KCE CPALL SPALI ANAN BEAUTY GFPT FSMART TPCH
- SUPER TPCH 17-21 ต.ค. ยื่นคำร้องและข้อเสนอขอขายไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชน จำนวน 100 MW
- กลุ่มพลังงาน ราคาน้ำมันทรงตัวเหนือ 50 US/Barrel รวมทั้งคาดว่ากำไร Q3/59 จะเติบโตขึ้น YoY
- กลุ่มส่งออก (อาหารและอิเล็กทรอนิกส์) ได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่า
- BANPU ราคาถ่านหินขึ้นทำ High ในรอบ 2 ปี ล่าสุด 89.4 US/Ton
หุ้นแนะนำพิเศษ
BJC ราคาปิด 44.50 Consensus 51.86 บาท
Consensus คาดกำไรปี 2016 ที่ 3.7 พันลบ. (+36%YoY) โดยคาดกำไร Q3/16 จะโตก้าวกระโดดเป็น 2.2 พันลบ. จาก FX Gain ราว 1.3 พันลบ. หลังบริษัทคืนเงินกู้กว่า 3.1 พันล้านยูโร ประกอบกับธุรกิจ Packaging ขยายตัวหลังได้ order ขวดแก้วเขียวแบบใหม่ตั้งแต่ต้นปี
คาดกำไรปี 2017 ขยายตัวขึ้นเป็น 6.7 พันลบ. (+79%YoY) จากการรับรู้รายได้และกำไรจากการเข้าซื้อ BIGC เต็มปี , ภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงจากการเพิ่มทุนกว่า 8 หมื่นลบ. รวมถึงออกหุ้นกู้ 5.4 หมื่นลบ.ซึ่งมีดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงธุรกิจกระป๋องและขายสินค้าในเวียดนามของ BJC มีการขยายตัวต่อเนื่อง
หุ้นมีข่าว
KBANK รายงานกำไรสุทธิ Q3/59 ที่ 10,856 ล้านบาท EPS 4.54 บาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.01 หมื่นล้านบาท EPS 4.23 บาท ตั้งเป้าหมายปี 60 สินเชื่อโต 4-6% NIM 3.3-3.5% NPL 3.3-3.4% ตั้งเป้าปี 60 รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยโตมากกว่า 5%
ความเห็น : กำไร 3Q59 +7%YoY +15%QoQ ดีกว่าที่คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ราว 10,081 ล้านบาทหรือคิดเป็น 8% กำไร 9M59 คิดเป็น 80% ของประมาณการทั้งปีที่ 3.75 หมื่นลบ.โดยมีคชจ.สำรองหนี้สูญต่ำกว่าสมมติฐาน 11% ฝ่ายวิจัยมีแนวโน้มปรับประมาณการปี 59 เพิ่มขึ้น ขณะที่ประมาณการกำไรปี 60 ใกล้เคียงตามเดิม (มีบทวิเคราะห์ฉบับเต็ม)
LHBANK รายงานว่าในช่วงไตรมาส 3/59 มีกำไรสุทธิ 698.44 ลบ. กำไรต่อหุ้น 0.0512 เพิ่มขึ้น 58%YoY กำไร 9M 59 ที่ 2,073 ลบ. +74%YoY
ความเห็น : กำไร 9M59 คิดเป็น 90% ของประมาณการณ์กำไรปี 59 ที่ราว 2,303 ลบ. ทำให้ฝ่ายวิจัยมีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรปี 59 เพิ่มขึ้น
CPF ซื้อหุ้น 60% ใน Foodfellas ซึ่งทำธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสในอังกฤษ มูลค่ารวม 12.275 ล้านปอนด์ หรือราว 538 ล้านบาท หวังช่วยขยายธุรกิจในอังกฤษและใช้เป็นฐานขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่นในยุโรป
STA แจงเหตุเพลิงไหม้ รง.ในเมืองพอนเทียนัก อินโดฯ กระทบปริมาณผลิต 5% ของกำลังผลิต
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : +39.44 จุด
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 39.44 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 18,138.38 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.43 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 2,132.98 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 0.83 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 5,214.16 จุด หลังจากนักลงทุนได้ซึมซับคำพูดของนายเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ท่ามกลางการรายงานผลประกอบการของภาคเอกชนที่สดใส
ตลาดน้ำมัน NYMEX : -0.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 9 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 50.35 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของจำนวนแท่นขุดเจาะที่เปิดดำเนินงาน
ส่องหุ้น
FER แนวรับ 0.51-0.50 บาท แนวต้าน 0.58-0.60 , 0.65 บาท
ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดในกรอบ BollingerBottom ได้เป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์ โดยสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดได้ในระดับสูงของวันและเกือบปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแนวรับแถวๆ 0.51-0.50 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 10 วันที่ 0.58-0.60 บาทและเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันที่ 0.65 บาทต่อไป
CWT แนวรับ 3.96 บาท แนวต้าน 4.18-4.26 , 4.50 บาท
ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาต่อเนื่องและปิดในกรอบ BollingerBottom ได้ และปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 75 วันได้ในระดับสูงของวัน โดยมีวอลุ่มพอสมควร หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันที่ 3.96-3.90 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อแถวๆ เส้นค่าเฉลี่ย 10 และ 25 วันที่ 4.18-4.26 บาท ก่อนผ่านขึ้นปิด GAP ต่อแถวๆ 4.50 บาทต่อไป
GL แนวรับ 37.25-36.75 บาท แนวต้าน 39.25-39.75 , 42.00 บาท
ระดับราคาสามารถดีดกลับขึ้นมาปิดได้ในระดับสูงของวัน และปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ยได้หลายเส้น โดยมีการเปิด GAP เอาไว้และมีวอลุ่มซื้อขายสูงมาก หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 37.25-36.75 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นผ่าน 39.25-39.75 บาท ขึ้นทำ New high แถวๆ 42.00 บาทต่อไป
Analyst : วิลาสินี บุญมาสูงทรง
ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ชัยยศ จิวางกูร