- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 17 October 2016 16:30
- Hits: 994
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'กองซื้อต่อเนื่อง'
ตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ยังคงมีแรงซื้อเข้ามาจากช่วงท้ายของวันก่อนหน้า สาเหตุที่ทำให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจากแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศ ยอดซื้อสุทธิ ถึง13,661 ล้านบาท (ยอดซื้อสุทธิสูงสุดในรอบ 1 ปีครึ่งหลงจากเคยทำไว้ที่ 15,703 ล้านบาทในเดือน เม.ย. 58) ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศขายต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันหลังจากมีข่าวการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐว่าอาจจะเกิดขึ้นในการประชุมครั้งถัดไป กลุ่มที่มีแรงซื้อเข้ามาหนานแน่นได้แก่กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่ม ICT ที่บวกไปกว่า 5% กลุ่มพลังงานที่บวกไป 4% ทำให้ปิดตลาดดัชนีสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้น 64.79 จุด (+4.6%) มาปิดที่ 1,477.61 จุด ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ 105,761.63 ล้านบาท แต่รวมทั้งสัปดาห์ (10-14 ต.ค.) ดัชนีปรับตัวลดลง 26.73 จุด (-1.8%)
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(-) ถ้อยแถลงของประธาน FED ล่าสุดที่กล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐเข้มแข็ง ดังนั้นการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะช่วยทำให้เศรษฐกิจไม่ร้อนแรงเกินไป อีกทั้งยังจะช่วยกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อขึ้น ทำให้คาดการณ์โอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในเดือน ธ.ค. สูงถึง 65.9%
(-) วันศุกร์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยไปกว่า 2.6 พันลบ. ทำให้ตลอดสัปดาห์ขายสุทธิรวม 3.1 พันลบ.
(-) ยังคงอยู่ในช่วงของการไว้อาลัยต่อการสวรรคตของรัชกาลที่ 9 ทำให้บรรยากาศไม่เอื้อต่อความบันเทิงในทุกรูปแบบ (ลบต่อกลุ่ม Media)
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงเล็กน้อย 0.2%Day หลังค่าเงิน US แข็งค่า, จำนวนแท่นขุดเจาะสหรัฐเพิ่มขึ้น หากแต่ยังคงยืนเหนือระดับ 50 US/barrel จากความคาดหวังว่า OPEC จะลดกำลังการผลิตน้ำมันลง
(-) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือน ต.ค. 87.9 จุด ต่ำสุดรอบ 13 เดือน
(+) ยอดค้าปลีกสหรัฐ เดือน ก.ย. +0.6%MoM ใกล้เคียงกับที่ นวค.คาด จากผลบวกของราคาพลังงานและ ยอดซื้อรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ก.ย. เพิ่มขึ้น 0.3%MoM
(+) ราคาถ่านหิน (Newcastle Coal) พุ่งขึ้นอีก 1.7%Day มาอยู่ที่ 89.45 US/Ton และบวกขึ้นถึง 77%YTD (เป็นบวกต่อ BANPU, LANNA)
(+) เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลประกาศงบ 3Q59 กลุ่ม Bank ซึ่งในสัปดาห์ก่อนรายงานกำไรของ KBANK (กำไร 3Q59 +7%YoY) และ LHBANK (กำไร 3Q59 +58%YoY)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
ประชุม ECB วันที่ 20 ต.ค. 59 (ติดตามเรื่องดอกเบี้ยและวงเงิน QE)
การ Debate รอบสุดท้าย ของ Clinton Vs Trump ในวันที่ 19 ต.ค.
การประชุม OPEC ในช่วง 30 พ.ย. ณ.กรุงเวียนนา ออสเตรีย
การประชุม FED รอบต่อไปในช่วงวันที่ 3 พ.ย. (ทิศทางดอกเยี้สหรัฐ)
ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ สหรัฐฯรายงงานอัตราเงินเฟ้อเดือน ก.ย. (18 ต.ค.) และยอดขายบ้านที่สร้างเสร็จ เดือนก.ย. (20 ต.ค.), จีนรายงาน GDP 3Q59 (18 ต.ค.)
กลยุทธ์การลงทุน “เล่นกลุ่ม Laggard”
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มปรับตัวบวก เรามองบวกต่อเม็ดเงินจากกองทุนในประเทศ ประกอบกับความเสถียรภาพของค่าเงิน จะช่วยหนุนเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติ แนะนำเก็งกำไรรายตัว โดยเน้นกลุ่มที่ Laggard จากดัชนีที่ปรับตัวบวกแรงในวันศุกร์ โดยปัจจุบันดัชนีปรับสูงกว่าระดับในช่วงต้นสัปดาห์ก่อน แต่มีหุ้นหลายตัวที่ราคายังปรับตัวบวกน้อยกว่าตลาด ซึ่งเรามองว่ามีความน่าสนใจในการลงทุนเก็งกำไรการฟื้นตัวของ SET
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
ROJNA เก็งกำไร
เก็งกำไรประเด็น Laggard การปรับตัวของดัชนี
เฟเซอร์ พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้ง เข้าถือหุ้น TICON 40% โดยไม่เทนเดอร์
บริษัทเผยยอด Backlog ณ เดือน ต.ค อยู่ที่ 300-400 ไร่ โดยหากส่ามารถโอนทันในช่วง 2H59 จะหนุนให้ผลประกอบการพลิกมามีกำไร
THCOM เก็งกำไร
บจ. อินโฟแซท (ผู้ให้บริการโทรทัศดาวเทียมในลาว) มีการเข้าทำสัญญาเพื่อใช้งานดาวเทียม TC8 กับ THCOM คาดจะทำให้ UT Rate ของ TC8 เพิ่มสูงกว่าปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 17%
ราคาหุ้นของ THCOM นับตั้งแต่ต้นปี 59 ลดลงไปถึง 38%YTD จากความไม่แน่นอนในเรื่องกฎระเบียบภาครัฐ
ซื้อขายที่ EV/EBITDA ปี 59-60 ต่ำเพียง 5 เท่า, PER ปี 59 ต่ำกว่า 10 เท่า
ทีมวิเคราะห์