WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BLS copyบล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

รอบด้านตลาดหุ้น
ชีวิตแค่โดนทำร้าย 1-2 วันนี้ (ดัชนีฯ) ต้องยืนให้ได้...
    เมื่อวานหุ้นไทยยังลงต่อ จ่อหลุดแนวรับรายเดือน 1,437 จุด ถ้าหลุดกลัวจะเกิด Panic sell รอบใหม่ แนะนำรอดูจังหวะภายในวันนี้ เมื่อสร้างฐานได้ ค่อยกลับมาเล่น (ถ้ารับไม่อยู่-หยุดรอ) วันนี้ แนวรับ 1,437/1,430 จุด (ให้น้ำหนักดัชนีฯปิดเหนือแนวรับ หรือ อย่างน้อย ไม่ลงไปสร้างจุดต่ำสุดใหม่ ในวันนี้)
      หุ้นแนะนำ...เมื่อตลาดยืนได้ สะสมหุ้นตาม Investment theme ที่มี Catalyst หนุนราคาหุ้น: หุ้นรับเหมาฯงานรัฐฯ (SEAFCO ILINK) ครึ่งหลังเดือนนี้จะมีข่าวงานประมูล (รถไฟฟ้าสายสีต่างๆ สายไฟใต้น้ำ) / หุ้นที่เชื่อมโยงกับธุรกิจแห่งโลกอนาคต-ฟินเทค (COM7) / หุ้น Events play เช่น งานเหมืองโปแตส (TRC) / ส่งออก หรือธุรกิจในต่างประเทศที่ได้ประโยชน์จากบาทอ่อน (MINT CENTEL TCMC)
       ระยะเดือน ตค. แนะย่อลงมาเป็นโอกาสในการซื้อเพิ่ม หลังจากเมื่อ กย.ลงไปบริเวณ 1,400 จุด เราแนะซื้อไปครึ่งหนึ่ง และเก็บกระสุนไว้รอซื้อ อีกรอบเดือนนี้ แนวรับกลับไปใช้จุดเดิม 1,440 จุด กรณีต่ำกว่า 1,437 จุด-Stop loss ส่วนแนวต้านเดือน ตค.คาด 1,530 จุด (ขยับลงเป็น 1,500 จุด) ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด คือ Earnings preview กำไร 3Q16 บจ.ไทย, ผลดีเบต ก่อนเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ, ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ-มีผลต่อคาดการณ์ดอกเบี้ยเฟด-ธค. ฯลฯ
หุ้นแนะนำวันนี้ RJH หุ้นปัจจัย 4 และ สะสมหุ้นตาม Investment theme ด้านบน

รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(+) RJH ร่วงมาแรงกว่า 11% จากราคาสูงสุด เนื่องจากความกังวลเรื่องสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดอยุธยา เราได้สอบถามทางบริษัทฯ พบว่าปัจจุบัน RJH ยังไม่มีปัญหาน้ำท่วม อย่างไรก็ตามเราได้ประเมินความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น โดยการทำ Scenario analysis ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 กรณี 1) น้ำไม่ท่วม RJH แต่ท่วมบริเวณใกล้เคียงติดต่อกันนาน 1 เดือน ส่งผลให้คนไข้เข้ามารักษาไม่ได้ และ RJH ไม่สามารถเบิกค่าเสียหายจากประกันได้ กรณีนี้ RJH จะสูญเสียกำไรสุทธิไปประมาณ 13 ล้านบาทต่อเดือน คิดเป็น 8 % ของกำไรสุทธิทั้งปี และ 2) น้ำท่วม RJH ติดต่อกันนาน 1 เดือน ซึ่งสามารถเรียกค่าชดเชยจากประกันได้ อย่างไรก็ตามกรณีที่ 2 เรามองว่าไม่น่าเป็นไปได้ เนื่องจากขนาดน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ก็ยังไม่ท่วมโรงพยาบาล ทั้งนี้ จากราคา RJH ที่ลดลงไป เรามองว่าราคาหุ้นได้สะท้อนปัจจัยลบดังกล่าวไปแล้ว กำไร Q3 เรายังมั่นใจว่ายังทำ New high และแม้ว่าเกิดน้ำท่วมขึ้นจริงเรามองว่าจะมี pent-up demand หลังน้ำท่วมมาชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ เรามองว่าเป็นจุดที่ควรเริ่มทยอยซื้อ Upside สูง 40 % ยังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 30 บาท
(-) LH คาดระยะสั้นราคาหุ้นน่าจะยังคงถูกกดดันจาก กำไรในช่วง 2H16 ที่ไม่น่าตื่นเต้นนัก คาด 3Q16 กำไรจะลดลง QoQ (หลังจากจบมาตรการกระตุ้นฯใน 2Q16) แต่คาดมีกำไรพิเศษจากการขายที่ดินวุฒากาศราว 100 ล้านบาท และใน 4Q16 คาดกำไรหลักจะดีขึ้น QoQ จากการโอน 333 Riverside แต่คาดจะน้อยกว่าในปีที่แล้วซึ่งกำไร all time high เราคงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 10 บาท
(+) TU ได้เข้าลงทุนใน เรด ล็อบสเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทผู้ดำเนินกิจการภัตตาคารอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก คิดเป็นมูลค่าการลงทุนทั้งสิ้น 575 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา หรือกว่า 20,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นการเข้าถือหุ้น 25% และหุ้นกู้แปลงสภาพระยะเวลา 10 ปี แม้ว่ามุมมองในระยะสั้นจะยังไม่ได้ส่งผลบวกต่องบการเงินมากมายอะไรจากเงินลงทุนที่สูงและอัตราการทำกำไรของเรด ล็อบสเตอร์ที่ไม่ได้สูงมาก แต่เรามองว่าการลงทุนครั้งนี้เป็นการเพิ่มช่องทางเข้าสู่ผู้บริโภคโดยตรงและขยายเข้าไปสู่ธุรกิจ Food service ซึ่งจะเกิดผลประโยชน์จากความร่วมมือในอนาคตได้ ซึ่งมูลค่าเพิ่มที่เกิดขึ้นคงจะเร็วไปที่จะประเมินในตอนนี้ เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 27 บาทจากมูลค่าเพิ่มในระยะยาวที่เกิดขึ้น อีกทั้งการเติบโตของกำไรปกติยังแข็งแกร่งที่ 8% ต่อปี รวมถึงคาดจะยังมีโอกาสปรับประมาณการขึ้นจากการควบรวมกิจการที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอีก

หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(-) ครม.เปิดทาง ขายหุ้นในบริษัทฯตลาดหลักทรัพย์ ที่คลังถือน้อยกว่า 50% สคร.เดินหน้าจ้างที่ปรึกษาเลือกหุ้น เผย 14 บจ. เข้าข่าย ปัจจุบันมีมูลค่ารวม 3.1 หมื่นล้านบาท (ที่มา ประชาชาติธุรกิจ ฉบับ 13-16 ตค.)
(-) จัดระเบียบขายประกันผ่านแบงก์ รองเลขาสำนักงาน คปภ.และสมาคมแบงก์ไทย ตั้งบัญญัติ12 ประการ เพื่อลดปัญหาร้องเรียน ขายประกันผ่านแบงก์ (ที่มา กรุงเทพฯธุรกิจ, มติชน)
(-) กลุ่มโรงแรม ท่องเที่ยว: ข่าว รอง ผบ.ตร. เผยหน่วยข่าวกรองเตือน ขู่วางระเบิด (ที่มา เดลินิวส์) / เราคาดว่าราคาหุ้นโรงแรมจะลงจำกัดจากข่าวนี้ เพราะ พฤติกรรมตลาดรับรู้ว่า ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ เป็นโอกาสในการช้อนซื้อ และทุกรอบที่เกิด อัตราการลงของราคาหุ้น น้อยลงไปเรื่อยๆ ขณะที่ผ่านไป 1-2 เดือน หลังเกิดเหตุการณ์ ราคาหุ้นมักทำนิวไฮท์
(*) รฟม. สั่งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ขั้นสูงสุด หลัง สตช. หน่วยงานความมั่นคง ประกาศเตือนเหตุวินาศกรรมใน กทม. ปริมณฑล
(+) กลุ่มอุปโภคบริโภค ที่มีการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ (TACC BJC CPF GLOBAL ฯลฯ) นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. LH Fund ไม่ตระหนกหุ้นตก ยังเดินหน้าเก็บหุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภคเข้าพอร์ต มั่นใจทำกำไรยาวถึงปีหน้า พร้อมตั้งเป้าหมายดันกองทุนส่วนบุคคลปี 60 โตแตะ 5,000 ล้านบาท ส่วน AUM ปีนี้โตสวย 6.8 หมื่นล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) ไมเนอร์ฟู้ด คว้าสิทธิ์ เย็นตาโฟร์ มัลลิการ์ บุกตลาดสิงคโปร์ พร้อมขนร้านอาหารจีน ริเวอร์ไซด์ สเก ริบส์ แอนด์ รัมส์ เสริมทัพยอดขายไทย (ที่มา ประชาชาติธุรกิจ)

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(*) ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ มองปัจจัยในและตปท.กระทบหุ้นไทย แต่พื้นฐานของ บจ.ยังมีทิศทางที่ดี ส่วนมาร์เก็ตแคปปีนี้ ยอมรับพลาดเป้า 1.9 แสนล้านบาท ด้านนักลงทุนต่างชาติสุทธิในตลาดหุ้นไทยมากสุดในเอเชีย (ที่มา ข่าวหุ้น)
(0/+) โพล NBC News/ Wall street Journal ชี้ “ฮิลลารี คลินตัน” คะแนนนำ 52% ต่อ 38% หลังดีเบตเมื่อวาน (ตลาดมองนโยบายพรรค Democrat เป็นบวกต่อตลาดหุ้นโลกมากกว่า Republican)
(+) รัฐสภาญี่ปุ่นได้อนุมัติงบประมาณเสริมงวดที่ 2 สำหรับปีงบประมาณสิ้นสุด ณ เดือน มี.ค.วงเงิน 4.11 ล้านล้านเยน (4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อวานนี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงภายหลังจากการขยายตัวของเศรษฐกิจเป็นไปอย่างซบเซา งบประมาณใหม่ส่วนใหญ่จะนำไปใช้เพื่อเป็นเงินหนุนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าประมาณ 28 ล้านล้านเยน ซึ่งได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือนส.ค. รวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและยกระดับสวัสดิการสังคม (ที่มา ASPEN อินโฟเควส)
(+) เมื่อวาน เยอรมนี ZEW index ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐิจ +6.2 จากคาด 4 จุด (ที่มา ASPEN)
(0) ประธานเฟดสาขาชิคาโก ชาร์ลส์ อีแวนส์ กล่าวในงานประชุมแห่งหนึ่งที่ ออสเตรเลีย ว่า เฟดควรขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธค. (ที่มา ASPEN)
(+) พุธ รายงานการประชุม เฟด, Euro area Industrial production สค. คาด +1.5% จาก -1.1% m-m. ญี่ปุ่น Machinery orders สค. คาด -7.8% จาก 4.9% m-m. มาเลเซีย Industrial production สค. คาด +7% จาก 4.1% y-y. (ที่มา Bloomberg)
(-) พฤหัส US Import prices (Sep) คาด +0.1% จาก -0.2% m-m. เยอรมนี เงินเฟ้อ คาด +0.7% จาก 0.7% y-y. จีนส่งออกเดือน กย. คาด -3.1% จาก -2.8% y-y. ธนาคารกลางเกาหลีใต้คาดคงดอกเบี้ย 1.25%. (ที่มา Bloomberg)
(0) ศุกร์ US Retail sale (Sep) คาด +0.5% จาก -0.3% m-m. ญี่ปุ่น PPI (Sep) คาด -3.3% จาก -3.6% y-y.จีน CPI กย.คาด +1.6% จาก 1.3% สิงคโปร์ GDP 3Q คาด +1.7% จาก 2.1% y-y. ประธานเฟดจะมีสุนทรพจน์ ในงานประชุมเศรษฐกิจครั้งที่ 60 ของเฟดสาขาบอสตัน (ที่มา Bloomberg)

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค

 

BSP

 

adsoptimal100

paidtoclick copy

 

  

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!