- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 12 October 2016 18:23
- Hits: 2125
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> DIF, JASIF, KCE
Stock S R Comment
DIF 14.60 15.00 Low Beta
JASIF 11.60 12.00 Low Beta
KCE 103.00 108.00 อานิสงส์บาทอ่อน คาดกำไร 3 New High
Bond outflows pressuring Baht
THB : เมื่อวานนี้เงินบาทอ่อนค่าทะลุระดับ 35.25 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯโดยมีสาเหตุหลักจาก Fund flow ที่ไหลออกจากตลาดตราสารหนี้เป็นสำคัญ ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิอีกกว่า 3,300 ล้านบาทโดยเป็นการขายตราสารหนี้ระยะสั้น 100% แนะนำติดตามความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทต่อไป เนื่องจากเป็นตัวสะท้อนการไหลออกของ Fund flow ในช่วงสั้นๆได้เป็นอย่างดี
Export-related : ยังคงมองว่าการอ่อนค่าของเงินบาทนี้ถือเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มส่งออก ซึ่งถ้าหากมีการปรับตัวลงมาแรงมองเป็นกลุ่มแรกๆที่น่าสนใจในการเข้าสะสม เลือก KCE, SMT, SVI สำหรับกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และเลือก CPF, TFG, BR สำหรับกลุ่มอาหาร
FOMC Minutes : แนะนำติดตามการเผยแพร่รายงานการประชุม FOMC รอบที่ผ่านมาในช่วงคืนนี้ ซึ่งประเด็นที่น่าสนใจได้แก่แรงกดดันของนาง Janet Yellen จากคณะกรรมการสายเหยี่ยว (Hawkish) ที่ต้องการให้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยรอบที่ผ่านมามีคณะกรรมการถึง 3 คนที่มีแนวคิดดังกล่าว ไม่ว่าอย่างไรแล้วเรายังคงมุมมองเดิมที่ว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมนี้
Sugar :
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบหลักการและแนวทางแผนการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทั้งระบบ เพื่อให้สอดคล้องกับ WTO โดยจะยกเลิกระบบโควตาน้ำตาล ยกเลิกการกำหนดราคาน้ำตาลภายในประเทศ ยกเลิกมาตรการให้เงินช่วยเหลือค่าอ้อยแก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย ยกเลิกให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทรายจ่ายเงินชดเชยค่าอ้อยให้กับโรงงานน้ำตาลกรณีราคาอ้อยขั้นสุดท้ายต่ำกว่าราคาอ้อยขั้นต้น ซึ่งในเบื้องต้นเรามองว่าประเด็นดังกล่าวเป็นผลบวกกับผู้ผลิตน้ำตาล
กลยุทธ์การลงทุน : มองที่ระดับดัชนีปัจจุบันไม่ใช่บริเวณของการขายหุ้นแล้ว โดยหลังจากที่เข้าซื้อหุ้นไปส่วนหนึ่งที่บริเวณดัชนี 1460-1480 จุดแล้ว แนะนำถือหุ้นในส่วนดังกล่าวได้และถือเงินสดในส่วนที่เหลือเพื่อรอดูสถานการณ์ในช่วงสั้น เรายังคงชื่นชอบกลุ่มหุ้นที่อิงกับปัจจัยต่างประเทศเป็นหลัก โดยในส่วนของกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่เลือกกลุ่มพลังงานจากการที่คาดว่าราคาน้ำมันดิบจะยืนเหนือระดับ 50 เหรียญต่อบาร์เรลได้ไปจนกระทั่งการประชุม OPEC วันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ สำหรับกลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็ก เลือกกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และกลุ่มอาหารซึ่งคาดว่าจะรายงานผลประกอบการไตรมาส 3/59 ที่โดดเด่น ประกอบกับได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากการอ่อนค่าของเงินบาทอีกด้วย
แนวรับ 1,411 แนวต้าน 1,462
หุ้นมีข่าว
PETRO : Update สถานการณ์ปิโตรเคมีระยะสั้น (+/-)
Today's Event
PRG XD 0.28 บาท
TPIPL XB 162:1
JAS ลูกหุ้นเข้า 1,177,633 หุ้น
TSTE ลูกหุ้นเข้า 34,847,536 หุ้น
นักวิเคราะห์ :
ดุลเดช บิค, CFA, FRM, CAIA (ID: 29932) E-mail: [email protected]
ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379) E-mail: [email protected]