- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 10 October 2016 18:29
- Hits: 575
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
คาด SET ปรับลงในกรอบจำกัด ซึ่งมองเป็นโอกาสเลือกหุ้นซื้อแล้วถือ!!
ตลาดหุ้นวานนี้ : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET กลับมาปรับตัวลดลงกว่า 10 จุด หลังจากที่เริ่มมีแรงขายทำกำไรออกมากดดันให้ตลาดผันผวนตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ จากความกังวลเกี่ยวกับโอกาสที่เฟดจะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ โดยนักลงทุนบางส่วนยังรอติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในช่วงค่ำด้วย
แนวโน้มตลาดวันนี้ : แม้ว่าในช่วงค่ำวันศุกร์ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเดือน ก.ย.จะเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้พอควร แต่ก็ไม่ได้ต่ำมาก ทำให้นักลงทุนยังกังวลว่าอาจจะกระตุ้นให้เฟดขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมต้นเดือน พ.ย.นี้ได้ กดดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งตัวผันผวนในด้านลบ ก่อนจะปิดเป็นลบเล็กน้อย ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็เริ่มอ่อนแอลงจากแรงขายทำกำไร หลังจากขยับบวกขึ้นมาติดต่อกันกว่า 2 สัปดาห์แล้ว ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังเปิดทำการด้านลบต่อ (ตลาดหุ้นญี่ปุ่น, ไต้หวัน, ฮ่องกง - หยุด) ขณะที่เช้านี้นักลงทุนบางส่วนอาจรอจับตาดูการ debate ของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เพื่อใช้ประกอบการคาดการณ์เกี่ยวกับ ปธน.สหรัฐคนถัดไปด้วย 3อย่างไรก็ตามกรอบลบของตลาดเอเชียไม่รุนแรงนัก ทำให้ FSS คาดว่า SET ก็น่าจะมีกรอบลบจำกัดเช่นกัน
กลยุทธ์ : ยังแนะนำเลือกหุ้นทยอยซื้อต่อได้ เพื่อถือรอตลาดบวกในช่วงถัดไป
แนวรับ 1502-1498 , 1496-1494 จุด
แนวต้าน 1507-1510 , 1512-1515 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : SYNTEC , JMART , GLOW(short)
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$131ล้าน โดยไหลออกจากอินโดนีเซีย US$59ล้าน ไต้หวัน US$58ล้าน และไทย US$17ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ประเทศเดียว US$13ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคและวันนี้มีหลายตลาดปิดทำการเนื่องในเทศกาลประจำชาติ
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(-) ปัจจัยต่างประเทศยังค่อนไปทางลบ แม้ว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ย. จะเพิ่มขึ้นต่ำกว่าตลาดคาดคือ +1.56 แสนตำแหน่ง ขณะที่ตลาดคาด +1.75 แสนตำแหน่ง แต่ค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องก็สะท้อนภาพของตลาดแรงงานที่ยังมีความแข็งแกร่ง เจ้าหน้าที่เฟดหลายคนยังเรียกร้องให้ขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ตลาดยังคาดความเป็นไปได้ในการขึ้นดอกเบี้ยเดือน ธ.ค. ยังมีสูงถึง 64% (เพิ่มขึ้นจาก 62% ในช่วงก่อนหน้า) ขณะเดียวกันค่าเงินปอนด์ร่วงแรงสะท้อนปัญหาในฝี่งยุโรป การดีเบตระหว่างฮิลลารีและทรัมป์เช้านี้ยังเป็นที่จับตารวมถึง Fed Minutes ในสัปดาห์นี้ ความเสี่ยงในต่างประเทศยังมีอยู่มากค่าเงินดอลลาร์ยังมีทิศทางแข็งค่า เป็นลบกับราคาทองคำ หุ้น และสินทรัพย์เสี่ยง
(+) กลุ่มธนาคาร: กำไร 3Q16 เริ่มมีโมเมนตัมเป็นบวก แม้สินเชื่อของธนาคารทรงตัว แต่เราคาดกำไร +3% Q-Q, +15% Y-Y เป็น 5.09 หมื่นล้านบาทเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปีนี้ ส่วนใหญ่มาจากการตั้งสำรองที่ลดลง (ยกเว้น KTB และ BBL) หลังจากตั้งสำรองหนักมากในช่วง 3Q15-2Q16 สัญญาณของ NPL เริ่มดีขึ้น แม้จะเพิ่มขึ้นแต่เพิ่มในอัตราที่ทรงตัวถึงชะลอลง หากไม่รวมการตั้งสำรอง คาด PPOP -3% Q-Q จากค่าใช้จ่ายด้านไอทีเพิ่มและตามฤดูกาล แต่ +1.4% Y-Y ตามรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น กลุ่มธนาคารน่าจะผ่านช่วงเลวร้ายไปแล้วใน 1Q16 แต่การเติบโตจะค่อยเป็นค่อยไปแล้วแต่ความสามารถของแต่ละธนาคาร Top pick ยังเป็น SCB (ราคาพื้นฐานปีหน้า 190 บาท) ส่วนแบงก์กลาง-เล็ก แนะนำ KKP (ราคาพื้นฐานปีหน้า 68 บาท)
(+) TISCO รายงานผลประกอบการเป็นธนาคารแรกเย็นนี้ กำไรที่อยู่ในเกณฑ์ดีจะช่วยสร้าง Sentiment ที่ดีให้ตลาดโดยรวม เราคาดกำไรของ TISCO 3Q16 +6.7% Q-Q, +59.1% Y-Y ซึ่งจะทำให้กำไรงวด 9M16 +24.8% Y-Y กลับมาโตอีกครั้งหลังจากกำไรทรงตัว 3 ปีติดต่อกัน และโตสูงเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มธนาคารรองจาก KKP ทั้งที่สินเชื่อหดตัวเป็นปีที่ 3 ปัจจัยหลักมาจากการตั้งสำรองลดลงและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับที่ดีที่สุดในรอบ 6 ปีจากต้นทุนทางการเงินลดลง เราคงคำแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐานปีหน้า 60 บาท และคาด Dividend yield 4.6% (2.50 บาท/หุ้น จ่ายปีละครั้ง)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
10 ต.ค. - ตลาดหุ้นสหรัฐ ญี่ปุ่น ฮ่องกง ไต้หวัน ปิดทำการ
- จีน:ยอดสินเชื่อรายเดือน (ก.ย.)
- สิงคโปร์: 3Q16 GDP
10-21 ต.ค. - ไทย:กลุ่มธนาคารพาณิชย์ประกาศผลประกอบการ 3Q16
11 ต.ค. - ยูโรโซน: ZEW survey Expectations (ต.ค.)
12 ต.ค. - ยูโรโซน: Industrial Production (ส.ค.)
- สหรัฐ: Fed Meeting Minutes
13 ต.ค. - จีน: ดุลการค้า (ก.ย.)
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BoK)ประชุม
14 ต.ค. - จีน:อัตราเงินเฟ้อ (ก.ย.)
- สหรัฐ:ยอดค้าปลีก (ก.ย.), U. of Mich. Sentiment (ต.ค.)
17 ต.ค. - สหรัฐ: Industrial Production (ก.ย.)
- ยูโรโซน:อัตราเงินเฟ้อ (ก.ย.)
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดลบเล็กน้อยหลังตัวเลขการจ้างงานออกมาต่ำกว่าที่คาด ขณะที่นักลงทุนจับตาดูราคาน้ำมันที่ร่วงลง
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ปิดในแดนลบตอบรับตัวเลขการจ้างงานองสหรัฐฯที่ออกมาน่าผิดหวัง รวมถึงค่าเงินปอนด์ที่อ่อนค่าแรงในช่วงต้นชั่วโมงซื้อขายของฝั่งเอเชีย
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้หลายประเทศปิดทำการ ส่วนตลาดที่เปิดส่วนใหญ่แกว่งทรงตัวโดยตลาดจับตาดูการดีเบตรอบ 2 ของนางฮิลารี่และนายทรัมป์เช้าวันนี้
(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่าแรงทะลุ 35 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ย. ลดลง 0.63 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 49.81 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยแม้ว่ากลุ่ม OPEC จะมีการตกลงเรื่องการปรับลดกำลังการผลิต แต่นักลงทุนยังกังวลว่าอาจเห็นอุปทานของน้ำมันจากกลุ่ม Non-OPEC เพิ่มขึ้นมาชดเชย
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ขยับลง 1.10 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,251.90 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าคาด แต่ยังไม่แย่ถึงขั้นที่ FED จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ย
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch