- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 07 October 2016 18:24
- Hits: 5670
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวรับสำคัญ 1500 ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขาย
SET Index: 1507.95 ปรับตัวลดลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 1510 จุด พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1520 จุดเมื่อวาน ซึ่งเราคาดว่า โครงสร้างในระยะยาวยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลง โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1500 จุด ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค และมีแนวรับถัดไปที่ 1485 และ 1465 จุด และมีแนวต้านสำคัญที่ 1520-1525 จุด ในขณะที่โครงสร้างหลักมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบ 1420 จุด
แนวต้าน : 1508 และ 1510
แนวรับ : 1505 และ 1502
BCPG = 13.00 / 13.50, CKP = 3.50 / 3.58, KBANK = 192 / 194, SCB = 151 / 153, AOT = 390 / 394
Panjawattana Plastic (PJW TB; THB 2.92) – ซื้อ
แนวต้าน : 3.08 และ 3.20
แนวรับ : 2.92 และ 2.88
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ PJW โดยมีแนวรับที่ 2.92 และ 2.88 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.08 และ 3.20 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 2.80 ลงไป
Syntec Construction (SYNTEC TB; THB 3.68) – ซื้อ
แนวต้าน : 3.84 และ 3.90 / แนวต้านสำคัญ 4.04-4.10
แนวรับ : 3.68 และ 3.64
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างานเหนือแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะสั้น ในขณะที่แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทดสอบระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ SYNTEC โดยมีแนวรับที่ 3.68 และ 3.64 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.84 และ 3.90 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.60 ลงไป
SET50 Index Futures
S50Z16 ปรับตัวลดลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่ 958 บริเวณเส้นแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 965 ซึ่งเรานำให้ Open Short เอาไว้ ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 950-952 เป็นจังหวะขายทำกำไรสถานะ Short
แนวต้าน : 958 และ 960
แนวรับ : 954 และ 952
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Short ใน S50Z16 ต่อเนื่องที่แนวต้าน 958-960 เพื่อคาดหวังการปรับตัวลดลงไปทดสอบ 950-952
STOP LOSS สถานะ Short ระยะสั้น ถ้า S50Z16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 963
CKPZ16
ปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 3.70-3.74 ซึ่งเราแนะนำให้ขายสถานะ Long เพื่อเปลี่ยนเป็นสถานะ Short การปรับตัวลดลงมาทดสอบแนวรับที่ 3.50 เราแนะนำให้ใช้เป็นจังหวะขายทำกำไรสถานะ Short เพื่อรอกลับเข้าไป Open Long
แนวต้าน : 3.56 และ 3.60
แนวรับ : 3.50 และ 3.47
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ขายทำกำไร Short ใน CKPZ16 ที่แนวรับ 3.47-3.50 เพื่อกลับเข้าไป Open Long ที่แนวรับ 3.44-3.46 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า CKPZ16 ปรับตัวลดลงหลุด 3.37 ลงไป
IRPCZ16
ปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้นหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านสำคัญของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 5.10 ขึ้นไปได้แล้ว ซึ่งเราแนะนำให้ STOP LOSS สถานะ Short เพื่อเปลี่ยนเป็นสถานะ Long โดยมีแนวรับที่ 5.05-5.10 เพื่อคาดหวังกาปรรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.30 และ 5.44-5.50
แนวต้าน : 5.20 และ 5.30
แนวรับ : 5.08 และ 5.05
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน IRPCZ16 ที่แนวรับ 5.05-5.08 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.30 และ 5.44-5.50
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า IRPCZ16 ปรับตัวลดลงหลุด 4.98 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...สัปดาห์หน้าลุ้นงบหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์
ราคาถ่านหินที่พุ่งขึ้นมา เป็นผลมาจากทางการจีนออกกฏเกณฑ์ลดกำลังการผลิต ทั้งลดเวลาการทำเหมือง ลดกำลังการผลิตและเพิ่มค่าขนส่งการปรับตัวขึ้นของราคาถ่านหินในรอบนี้เริ่มมาตั้งแต่ต้นเดือน มิ.ย. ถึงปัจจุบันราคาถ่านหิน Newcastle ขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 70 ดอลลาร์ จากเดือน มิ.ย. ที่ประมาณ 50 ดออลลาร์ต่อตัน เบ็ดเสร็จขึ้นมาแล้วทั้งสิ้นประมาณ 40% โดยหลายฝ่ายมองว่าราคาถ่านหินรอบนี้จะยังเป็นขาขึ้นไปจนถึง Q1/17 โดยมองอย่างต่ำน่าจะขึ้นไปที่ประมาณ 80 ดอลลาร์ต่อตัน เหตุผลที่มองว่าถ่านหินจะปรับตัวขึ้นมาจาก 1. ความต้องการใช้ในจีนเพิ่มขึ้นหลังการนำเข้าสูงขึ้นเรื่อยๆ 2.ปริมาณการผลิตในอินโดนีเชีย และออสเตรเลียลดลงจากการลดกำลังการผลิตก่อนหน้านี้ และผลการเข้าสู่ช่วงฤดูฝน 3.ปริมาณความต้องการใช้ในยุโรปเพิ่มขึ้น หลังความสามารถในการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากโรงงานนิวเคลียร์ลดลง ส่วนที่โต้แย้ง บอกยังไปไม่ได้มากจากการออกกฎเกณฑ์ในการปล่อยก๊าซคาร์บอน และราคาถ่านหินที่เพิ่มสูงขึ้นจะกระทบกับอุตสาหกรรมเหล็กในจีน
บรรยากาศโดยรวมของตลาดหุ้นทั่วโลก ในสัปดาห์หน้ายังต้องจับตาดูการประกาศงบ Q3/16 ของสหรัฐ ซึ่งตอนนี้อัตราการขยายตัวของกำไรต่อหุ้นใน S&P 500 (EPS growth) ยังติดลบ -0.5% ส่วนหุ้นในกลุ่มสถาบันการเงินของเราคงจะทยอยประกาศหมดในช่วงปลายสัปดาห์หน้า หากมาดูราคาหุ้นของธนาคารใหญ่ 4 ธนาคาร เทียบราคาเป้าเฉลี่ยกลางของนักวิเคราะห์จาก IBES พบว่าตอนนี้หุ้นทั้ง 4 ยังเทรดกันที่ระดับต่ำกว่าราคาเป้าหมายเฉลี่ยกลางทั้งหมด แต่ที่เหลือ gap มากสุดคือ BBL SCB เรามองว่าหากผลดำเนินงาน Q3/16 ของหุ้นออกมาดีกว่าคาด มีความเป็นไปได้ที่จะมีแรงซื้อเข้ามาและหนุนราคาให้ขยับขึ้นไปมากกว่าราคาเป้าหมายเฉลี่ยกลาง
ส่วนรูปด้านซ้าย เราแสดงราคาหุ้นหลักในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี เทียบกับราคาเป้าหมายเฉลี่ยกลางของนักวิเคราะห์ พบว่าเหลือแค่ ราคาหุ้นของ PTTGC และ IVL เท่านั้นที่ราคายังเล่นกันต่ำกว่าเป้าเฉลี่ยกลางค่อนข้างมาก ส่วน PTTEP PTT และ TOP ราคาที่เทรดกันอยู่กำลังขึ้นมาเล่นใกล้เป้าเฉลี่ยกลางของนักวิเคราะห์ ดังนั้นราคาหุ้นจะเป็นอย่างไร ก็คงต้องรอลุ้นผลดำเนินงาน Q3/16
ทิศทางดัชนี SET จะขึ้นต่อหรือทรงๆตัว จะขึ้นอยู่กับผลดำเนินงานของหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่ตอนนี้หลายๆตัวก็ขึ้นมารออยู่แล้ว นอกนั้นจะเป็นราคาน้ำมันในตลาดโลก หากยังสามารถขึ้นไปต่อที่ระดับ 55 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หรือมากกว่า ดัชนี SET จะขึ้นต่อ สลับมีแรงขายหุ้นที่อ่อนไหวกับราคาน้ำมัน อย่าง กลุ่ม ขนส่ง ค้าปลีก อสังหาริมทรัพย์ วัสดุก่อสร้างเล็ก โดยความผันผวนแรงๆ น่าจะเกิดในช่วงปลายสัปดาห์หน้า ขึ้นอยู่กับงบกลุ่มธนาคารและดัชนีที่สูงกว่า 1530 จุด กลุ่มที่ยังพอเล่นเก็งกำไรได้ คือ หุ้นในกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมีและธนาคาร
วันนี้ตลาดคงจะเงียบๆ เพื่อรอดูการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ โดยแรงซื้อและขายจะยังกระจุกในหุ้นใหญ่ในกลุ่มหลัก อย่างไรก็ตามการที่ราคาน้ำมันยังปรับตัวขึ้น น่าจะส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้นพลังงานหนุนตลาด กลุยทธ์การลงทุนยังคงแนะนำ ทยอยขายทำกำไร ที่กรอบดัชนี 1520+/- จุด ยกเว้นหุ้นพลังงาน ธนาคารพาณิชย์และปิโตรเคมี จนกว่างบ Q3/16 ทยอยออก มองแนวต้านวันนี้อยู่ที่ 1517-1522 จุด ส่วนแนวรับที่ 1504-1500 จุด หุ้นที่แนะนำ ซื้อเก็งกำไร คือ HMPRO AMATA BCP และ MINT
Analysts :
Kiatkomg Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,507.95 จุด ลดลง 5.91 จุด (-0.39%) มูลค่าการซื้อขาย25,307.50 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ผันผวน โดยมีแรงขายนำในกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และขน ขณะเดียวกับตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่แกว่งลบ ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ ฯ (คืนนี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย ถ้าไม่ต่ำกว่า 1505 จุด ถือว่าสัญญาณการเก็งกำไรยังไม่เสีย โดยยังมีโอกาสดีดตัวกลับไปที่แนวต้าน 1515 จุดได้อีกครั้ง ภาพรวมตลาดกลับมากังวลเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอีกรอบ หลังข้อมูลการขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด อย่างไรก็ตามตลาดยังมีแรงซื้อเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานต่อเนื่อง หลังราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังมีทิศทางปรับตัวขึ้นได้ต่อ ทั้งจากความกังวลเรื่องการผลิตน้ำมันในสหรัฐที่ถูกกระทบจากเฮอริเคน รวมถึงรอฟังผลการประชุมระหว่างผู้ผลิต Opec และ Non Opec ทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานและโรงกลั่นปรับตัวขึ้นต่อได้ สำหรับกลุ่มธนาคาร เริ่มถูกขายทำกำไรออก หลังรับรู้เรื่องแนวโน้มผลการดำเนินงาน Q3 ที่ดีไปแล้ว กลยุทธ์ระยะสั้นหาก SET ไม่ต่ำกว่า1505 จุด ยังถือหุ้นลุ้นรีบาวน์ได้ แต่หากต่ำกว่า จำเป็นต้องขายทำกำไรออกตาม และไปรอซื้อกลับบริเวณ 1485-1495 จุด หุ้นกลาง-เล็กพื้นฐานดี-เทคนิคเด่น เลือก SYNTEC (S3..62/ R3.80), ANAN (S4.96/ R5.20)
Technical Pick (PM) ...
Panjawattana Plastic (PJW TB; THB 2.92) - ซื้อ
Syntec Construction (SYNTEC TB; THB 3.68) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]