- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 06 October 2016 17:16
- Hits: 2453
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ไร้ทิศทาง'
ตลาดหุ้นไทยวานนี้แกว่งตัวไร้ทิศทางโดยสลับอยู่ในแดนบวกและลบตลอดทั้งวัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ดัชนีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างมาก อีกทั้งตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่ๆที่จะเข้ามากระตุ้นให้เดินหน้าต่อ ทำให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มมีการขายทำกำไรออกมา อย่างไรก็ตามด้วยแรงซื้อที่เข้ามาในกลุ่มพลังงานโดยเฉพาะ BANPU ในประเด็นที่จะนำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาด ทำให้ดัชนีสามารถปิดตลาดในแดนบวกได้ โดยปิดตลาดดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.14 จุด (+0.01%) มาอยู่ที่ 1,509.92 จุดด้วยปริมาณการซื้อขายที่ 44,666.82 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(-) วานนี้นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทยไปราว 1.09 พันลบ. ทำให้ถ้านับจากต้นเดือนต.ค.ยังคงเป็นซื้อสุทธิอยู่ 2.3 พันลบ. อีกทั้งปริมาณการซื้อขายวานนี้กลับมาอยู่ในระดับค่าเฉลี่ยที่ 4.5 หมื่นลบ.
(+) ราคาถ่านหิน (Newcastle Coal) ยังเดินหน้าบวกต่ออีก ล่าสุดอยู่ที่ 83.6 US/Ton (+1%Day, +20%MoM) คาดส่งผลดีต่อหุ้น BANPU, LANNA
(+) EIA เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงไป 3 ล้านบาร์เรล (ลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 5) ทำให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้น 2% จากวันก่อนหน้ามาปิดที่ 49.83 US/Barrel
(+) ดัชนีภาคบริการของ ISM เดือน ก.ย. อยู่ที่ 57.1 ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 53.0 สะท้อนภาพการจ้างงานและกิจกรรรมทางธุรกิจของสหรัฐที่ดีขึ้นในเดือน ก.ย.
(+) World Bank ปรับคาดการณ์ GDP ไทยปี 59 ขึ้นเป็น 3.1% (เดิม 2.5%)
(+) ครม. ผ่านร่างพ.ร.บ.การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ส่งผลบวกต่อกลุ่มนิคมที่มีที่ดินในบริเวณจังหวัด ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี,ระยอง (ROJNA, TICON, WHA)
(+) กระทรวงคมนาคมเตรียมเปิดประมูล 11 โครงการใหญ่ในช่วง 4Q59 ภายใต้วงเงินกว่า 3.44 แสนลบ. (เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง)
(-) การคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯในช่วงปลายปี 59 (ถ้าหากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ+ตัวเลขการจ้างงานออกมาดี จะทำให้ตลาดคาดโอกาสที่ FED ขึ้นดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปี 59 เพิ่มมากขึ้น)
(+/-) เทศกาลกินเจปีนี้ (30 ก.ย.-9 ต.ค.) ม.หอการค้าคาดเม็ดเงินสะพัด 4 หมื่นลบ. ขยายตัว 4.2% สูงสุดในรอบ 3 ปี (บวกต่อราคาสินค้าเกษตร)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การประชุม OPEC ครั้งต่อไปในช่วง 30 พ.ย. ณ.กรุงเวียนนา ออสเตรีย
วันที่ 7 ก.ย. จะมีรายงานอัตราการว่างงานเดือน ก.ย. (คาด 4.9%) และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ (คาด+1.75 แสนตำแหน่ง)
ประชุม ECB Monetary Policy ในวันที่ 6 ก.ย.
การประชุม FED รอบต่อไปในช่วงต้นเดือน พ.ย. และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 8 พ.ย.
กลยุทธ์การลงทุน 'ซึมต่อกลัว ECB'
ประเมินดัชนีมีแนวโน้มย่อตัวต่อ จะยังคงได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ได้ปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมัน แต่ด้วยมุมมองลบต่อการประชุม ECB ในวันนี้ ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะลดวงเงินการซื้อพันธบัตร (QE) ซึ่งจะทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง ยังคงแนะนำกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมัน และหุ้นที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะตัว สำหรับกลุ่มที่เราชื่นชอบในช่วง 3Q59 คือกลุ่มโรงพยาบาลซึ่งเป็นกลุ่มที่แนวโน้มมผลประกอบการเติบโต QoQ
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
EKH เก็งกำไร
เข้าสู่ช่วง High Season ของกลุ่มโรงพยาบาลในช่วงไตรมาส 3
มีโครงการสร้างศุนย์กุมารเวช ขนาด 50 เตียง เงินลงทุน 200 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างในปี 60 คาดแล้วเสร็จปี 62
อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำ มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งพร้อมที่จะขยายงานในอนาคต
PTTGC เก็งกำไร
เตรียมนำบริษัทโกลบอลกรีนเคมิคอลส์ จำกัด ออกเสนอขาย IPO ระดมทุนเพื่อการเติบโตในสายกรีนเคมิคอลส์
ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น จากกำไรจากสต็อคน้ำมันและคาดหวัง Cost push หนุนราคาเม็ดพลาสติก
คาดผลดำเนินงานช่วง 2H59 เติบโตเทียบ HoH จากแผนการซ่อมบำรุงที่ลดลง
ทีมวิเคราะห์