- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 05 October 2016 17:06
- Hits: 1981
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'กองหนุน'
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ยังคงสามารถเดินหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นได้เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน เรามองว่าเป็นการเข้ามาเก็งกำไรในประเด็นผลประกอบการไตรมาส 3 ที่เพิ่งปิดไตรมาสไป รวมถึงการที่ดัชนีสามารถผ่านแนวต้านที่ระดับ 1,500 จุดได้ทำให้มีแรงซื้อตามเข้ามาค่อนข้างมาก โดยกลุ่มธนาคารเป็นกลุ่มที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้กว่า 2% ขณะที่กลุ่มอื่นๆที่ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นโดดเด่นได้แก่กลุ่มค้าปลีก กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มไอซีที ที่บวกไปกว่า 1% ปิดตลาดดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้น 18.84 จุด (+1.3%) ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างหนาแน่นที่ระดับ 53,456.75 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(-) กระแสข่าวที่ว่า ECB มีความพยายามที่จะลดวงเงิน QE รวมทั้งการออกจาก EU ของอังกฤษซึ่งจะมีผลตั้งแต่ มี.ค. 60 ได้ส่งผลลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดย DJIA ลดลง 0.5% จากวันก่อนหน้า
(-) วานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยไปเล็กน้อย 488 ลบ. แต่หากนับจากต้นเดือนต.ค. ยังคงเป็นซื้อสุทธิอยู่ 1.2 พันลบ.
(-) ความกังวลปัญหาของ Deutsche Bank ยังคงอยู่ แม้ค่าปรับถูกคาดว่าจะลดลงเหลือ 5.4 พันล้านUSD
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 0.2% จากวันก่อนหน้ามาปิดที่ 48.69 US/Barrel โดยลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการ
(-) ราคาทองคำร่วงลงแรงวานนี้กว่า 43 US (-3%จากวันก่อนหน้า) จากแรงกดดันที่ค่าเงิน USD แข็งค่า และความกังวลว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ย
(+) ราคาถ่านหิน (Newcastle Coal) ยังเดินหน้าบวกต่อ ล่าสุดอยู่ที่ 83.15 US/Ton (+3% จากวันก่อนหน้า, +20%MoM) คาดส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มถ่านหินได้แก่ BANPU, LANNA
(+) ค่าเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงมากสุดในรอบ 31 ปี หนุนให้ดัชนี FSTE100 +1.3% มาปิดที่ 7074.34 จุด ทำสถิติสูงสุดในรอบ 17 เดือน
(+) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคญี่ปุ่นเดือน ก.ย. อยู่ที่ 43 จุด ดีกว่าที่คาดฯ
(+/-) TICON ขอขึ้นเครื่องหมาย SP ตั้งแต่ 4-7 ต.ค. 59 เนื่องจากจะมีประชุมบอร์ดและตัดสินใจในเรื่องการปรับโครงสร้างการถือหุ้น
(+/-) เทศกาลกินเจปีนี้ (30 ก.ย.-9 ต.ค.) ม.หอการค้าคาดเม็ดเงินสะพัด 4 หมื่นลบ. ขยายตัว 4.2% สูงสุดในรอบ 3 ปี (บวกต่อราคาสินค้าเกษตร)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การประชุม OPEC ครั้งต่อไปในช่วง 30 พ.ย. ณ.กรุงเวียนนา ออสเตรีย
EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ (5 ต.ค.), อัตราการว่างงานเดือน ก.ย. รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ (7 ต.ค.)
การประชุม FED รอบต่อไปในช่วงต้นเดือน พ.ย. และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 8 พ.ย.
กลยุทธ์การลงทุน “พักบ้าง”
ประเมินดัชนีมีแนวโน้มย่อตัวเล็กน้อย หลังจากวานนี้ปรับขึ้นแรง ประกอบกับความกังวลต่อนโยบายการเงินของธนาคารกลางของสหรัฐและสหภาพยุโรป กลับมารบกวน Sentiment การลงทุนอีกครั้ง อย่างไรก็ตามด้วยโมเมนตัมบวกของราคา Commodity จะช่วยประคองให้ดัชนีไว้ เรามองว่าตลาดจะยังแข็งแรงและยืนได้เหนือแนวรับ 1,505 จุดได้ คงแนะนำกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมัน และหุ้น Mid-Small Cap. ที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะตัว
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
EKH เก็งกำไร
เข้าสู่ช่วง High Season ของกลุ่มโรงพยาบาลในช่วงไตรมาส 3
มีโครงการสร้างศุนย์กุมารเวช ขนาด 50 เตียง เงินลงทุน 200 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างในปี 60 คาดแล้วเสร็จปี 62
อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนต่ำ มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งพร้อมที่จะขยายงานในอนาคต
PTTEP เก็งกำไร
กลุ่ม OPEC เตรียมลดการผลิตราว 2-7 แสนบาร์เรล ต่อวันเพื่อพยุงราคาน้ำมันจากที่ปัจจุบันตลาดอยู่ในภาวะอุปทานล้นตลาด
คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดของผลประกอบการในช่วง 2Q59 โดยในช่วง 2H59 จะได้ปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่สูงกว่า 1H59
ตลาดน้ำมันดิบเริ่มปรับตัวเข้าสู่สมดุลมากขึ้นหลังจากที่ผู้ผลิตราย ใหญ่หั่นงบลงทุน และผู้ผลิตต้นทุนสูงลดการผลิต
ทีมวิเคราะห์