- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 04 October 2016 16:54
- Hits: 2872
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
เลือกเก็งกำไรหุ้น ดักกระแสข่าวดี ประชุม ครม.วันนี้
คาดดัชนีฯหุ้นไทย ซึมออกข้าง แนวรับ 1,482 จุด แนวต้าน 1,500 จุด
สัปดาห์นี้ดัชนีฯมีโอกาสรีบาวด์ คาดแนวรับ 1,467/1,476 จุด แนวต้าน 1,495/1,500 จุด: ช่วงต้นเดือน ตค. จะเป็นช่วง ฤดูคาดการณ์กำไร บจ. จากคาดการเบื้องต้นของ BLS เรามองว่ากำไรกลุ่ม โรงพยาบาล โรงไฟฟ้า ค้าปลีก ธนาคาร ท่องเที่ยวฯ จะรายงานกำไรดีขึ้น จากพัฒนาของบริษัทฯเอง และ ตามปัจจัยฤดูกาล หนุน Sentiment ตลาด และหุ้นรายตัว
ระยะเดือนต.ค. คาดผันผวน มองตลาดมีโอกาสลงมาให้ได้ซื้ออีกรอบ แนะลงซื้อเพิ่มอีก หลังจากเมื่อ กย.ลงไปบริเวณ 1,400 จุด (แนะซื้อไป 50% เก็บกระสุนไว้รออีกรอบเดือนนี้) เดือน ตค.คาดแนวรับ 1,440 จุด กรณีปิดต่ำกว่า 1,437 จุด-Stop loss ส่วนแนวต้านเดือน ตค.คาด 1,530 จุด ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด คือ Earnings preview กำไร 3Q16 บจ.ไทย, ผลดีเบต ก่อนเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ, ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ-มีผลต่อคาดการณ์ดอกเบี้ยเฟดในเดือน ธค.
หุ้นแนะนำวันนี้ KBANK คาดกำไรสุทธิ 3Q16 ที่ 11,000 ล้านบาท +7% y-y, +15% q-q เมื่อวานนี้แบงก์ชาติแถลงแบงก์พาณิชย์ไทย กระทบน้อยจากกรณีดอยซ์แบงก์ คาดช่วยตลาดคลายกังวล
ORI แนวรับ 13.2 บ. ต้าน 14/14.5 บ. จากกำไรปีหน้าคาดเติบโตสูง 40% y-y เป็น 1 พันล้านบาท (อิง consensus) ปัจจุบันบริษัทมี backlog รองรับเป้าหมายปีหน้าสูงกว่า 70% สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มฯที่ 19% ล่าสุดยอดจองโครงการ Knightsbridge สาทร มูลค่า 3,900 ล้านบาท ขายหมด 100% และบริษัทเปิดตัวโครงการจตุจักร surprise ตลาด คาดหนุนทั้งยอดจองซื้อ และ backlog เพิ่มมากกว่าคาด ปัจจุบันหุ้นเทรด P/E 8.2 เท่า ใกล้ค่าเฉลี่ยกลุ่ม แต่กลุ่มฯกำไรโตเพียง 10-25% ขณะที่ ORI คาดกำไรปี 2017 โตสูงกว่ากลุ่ม จากงานในมือจำนวนมากที่รอส่งมอบ
เก็งข่าวประชุม ครม. ILINK แนวรับ 20.2 บ.ต้าน 21.5 บ. (รอความคืบหน้าการอนุมัติ โครงการสายไฟใต้น้ำ) COM7 แนวรับ 10.4 บ. ต้าน 11 บ. (รอความชัดเจนมาตรการช็อปช่วยชาติรอบใหม่ หลังรองนายกสมคิดให้สัมภาษณ์ผ่าน นสพ.ประชาชาติธุรกิจฉบับ 26-28 กย.(สัปดาห์ก่อน) เรื่องการกระตุกกำลังซื้อไตรมาสสุดท้าย กิน-ช็อป-เที่ยว ได้ลดภาษี)
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(+) สรุปประเด็นจากงาน BLS Consumer Day โดยมีผู้บริหารจาก BEAUTY, BJC, CPALL GLOBAL, HMPRO และ ROBINS ร่วมให้ข้อมูล ส่วนใหญ่มีมุมมองต่อภาพเศรษฐกิจเป็นบวก และเชื่อว่าการบริโภคจะฟื้นตัวดีขึ้นต่อจากนี้
BEAUTY (Top BUY, TP Bt11.60): การเติบโตมีแนวโน้มดีกว่าที่เราคาดไว้ก่อนหน้านี้ รายได้และกำไรใน 2H16 คาดจะเห็นการเติบโตสูงในระดับเดียวกับ 1H16 ได้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเติบโตสูงจากทุกๆช่องทางการจัดจำหน่าย พร้อมกันนี้เราปรับประมาณการกำไรปี 2016-17 ขึ้น 5% และ 6% ตามลำดับ และปรับราคาเป้าหมายขึนเป็น 11.60 บาท (เดิม 11 บาท)
CPALL (Top BUY, TP Bt73.50): คาดการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ยังคงสูงในระดับ 4-5% ในช่วง 2H16 ไปจนถึง 2017 สูงสุดในรอบ 3 ปี แผนการขยายสาขายังคงสูง โดยตั้งเป้าที่ 10,000 สาขาในปีหน้า และ 12,000 เป็นเป้าหมายถัดไป
GLOBAL (Top BUY, TP Bt18.50): บริษัทมีแนวโน้มเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นได้ดีกว่าที่เราและตลาดคาดจากการเพิ่มสัดส่วน house brand และกลยุทธ์อื่นๆ เราปรับกำไรปี 2016-17 ขึ้น 5% และ 6% ตามลำดับ และปรับราคาเป้าหมายขึนเป็น 18.50 บาท (เดิม 16 บาท)
HMPRO (Top Buy, TP Bt13.10): คาดผลการดำเนินงานจะกลับมาเติบโตแข็งแกร่งตั้งแต่ 4Q16 เป็นต้นไป หลังจากที่คาดอ่อนตัวลงใน 3Q16 เพราะปัจจัยฤดูกาลหน้าฝน ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นยังคงเพิ่มสูงขึ้นจากการเพิ่มสัดส่วน house brand
BJC (BUY, TP Bt55): ปัจจัยหลักที่ต้องติดตามยังคงเป็น Synergy จากการควบรวม BIGC ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบกรใน 4Q16-2017 ในขณะที่การขยายฐานค้าปลีกไปยัง เวียดนาม กัมพูชา และ ลาว ยังคงเป็นแผนการเติบโตในระยะยาว
ROBINS (BUY, TP Bt72): แม้ยอดขายจะเติบโตช้าแต่อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นจากกลยุทธ์การบริหารสินค้า ยังเป็นปัจจัยหนุนกำไรต่อไป ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นใน 4Q16 มีโอกาสเพิ่มขึ้นมากกว่าตลาดคาดจาก new house brand concept
(+) กลุ่มโรงกลั่นฯ จากมาร์จิ้นการกลั่นที่ปรับตัวขึ้นมาในเดือนกันยายนที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ที่ราว $7/bbl เราคาดว่ามาร์จิ้นยังคงอยู่ในระดับสูงไปจนถึงสิ้นปี เพราะกำลังจะเข้าสู่ช่วงหน้าหนาว ซึ่งเป็น high season ของมาร์จิ้นการกลั่น แม้กำไร 3Q16 ของกลุ่มนี้ที่ เราcover อยู่ (BCP, IRPC, SPRC และ TOP) คาดจะอ่อนตัวลง เพราะการขาดทุนสต๊อกน้ำมันและมาร์จิ้นที่ต่ำกวาคาด เราแนะนำให้มองข้ามไปและเลือกหุ้นที่จะโดดเด่นใน 4Q16 เราเลือก IRPC และ BCP เป็น top pick เพราะ IRPC จะได้ผลบวกจะการโครงการ UHV เต็มไตรมาส และ BCP จะได้ผลบวกจากมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้นทั้ง 2 ทาง ได้แก่ มาร์จิ้นการกลั่น (โรงกลั่น) และมาร์จิ้นการตลาด (ปัมน้ำมัน)
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+/-) THAI ผอ.กพท.เผยปข้อสรุปจากที่ประชุมเมื่อวาน เรื่องพัฒนาการ “ขอปลดธงแดง ICAO”
(-) FAA (สนง.บริหารการบินสหรัฐฯ) จะให้ THAI บินเข้าสหรัฐฯได้หลังปรับ CAT2 ขึ้นเป็น CAT1 คาดว่าจะเป็นช่วง มีค.ปีหน้า ซึ่งช้ากว่าข่าวเดิมที่คาดว่าจะบินได้ปลายปีนี้
(+) ตอนนี้ขั้นตอนขอปลดธงแดงคืบหน้าไปมาก โดยได้เริ่มกระบวนการ ออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศ หรือ AOC ใหม่ ไปตั้งแต่ 12 กย.แล้ว ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการปฏิบัติตามแผนงานที่ ICAO รับรองเพื่อให้ปลดจากธงแดงโดยเร็ว (ที่มา อินโฟเควส ASPEN)
(+) ORI เผย "ไนท์บริดจ์ ไพร์ม สาทร" มูลค่าโครงการ 3,900 ล้านบาท Sold Out 100% ใน 1 วัน (ที่มา ASPEN)
(+) กลุ่มแบงก์ คาดตลาดคลายวิตก หลังแบงก์ชาติแถลง สถาบันการเงินไทย มีเพียงแค่การปล่อยสภาพคล่องเงินตราต่างประเทศกับดอยซ์แบงก์ ด้าน บลจ.กรุงไทยยันไม่มีการลงทุนในดอยซ์แบงก์ (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(-) เมื่อวาน US ISM ภาคผลิต เดือน กย. 51.5 ดีกว่าคาดที่ 50.3 จาก 49.4 วิตกโอกาส เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ย มีเพิ่มขึ้นจากสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่ง / และ ไทย CPI เงินเฟ้อเดือน กย. +0.38% ใกล้คาดที่ 0.4% y-y (ที่มา Bloomberg)
(0) อังคาร US Consumer confidence กย.คาด 98.7 จาก 101.1, ธนาคารกลางอินเดีย และ ออสเตรเลีย คาดคงดอกเบี้ย 6.5% และ 1.5% ตามลำดับ (ที่มา Bloomberg)
(-) พุธ US ISM ภาคบริการ คาด 53 จาก 51.4, และดุลการค้าคาด -42 จาก -39.5$bn, EU area PMI composite กย. คาด 52.6 คงที่, เงินเฟ้อเกาหลีใต้ กย.คาด +0.7% จาก +0.4%, ไต้หวัน เงินเฟ้อ คาด +0.3% จาก 0.6% y-y (ที่มา Bloomberg)
(0) พฤหัส ECB account of the monetary policy
(-/+) ศุกร์ US การจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน กย.คาดเพิ่ม 1.7 แสนราย จาก1.51 แสนราย อัตราว่างงาน คาด 4.9%, IMF World bank annual meeting, ไต้หวัน ส่งออกเดือน กย. คาด +2.2% จาก +1% y-y. มาเลเซีย ส่งออกเดือน กย. คาด -3.5% จาก -5.3% y-y (ที่มา Bloomberg)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค