- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 30 September 2016 18:21
- Hits: 9076
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
คาดตลาดสลับมาเทรดดิ้งหุ้นเล็ก...หลังจากหุ้นใหญ่จบ Window dressing
คาดดัชนีฯหุ้นไทย ลงตามภูมิภาค แนวรับ 1,480 จุด (ทดสอบแนวรับอีกครั้ง ถ้าหลุดจะเกิดแรงขายจากปัจจัยทางเทคนิคต้องหยุดเล่นสั้นไปก่อน) ต้าน 1,495 จุด ข่าวลบ เมื่อวานตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นภูมิภาคเช้านี้ดิ่งลงเฉลี่ยเกือบ 1% ตามกระแสเดิมๆ “วิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ยรายวัน จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯดีขึ้น-ดอลล์แข็งค่า” โดย US GDP 3Q16 ปรับขึ้น +1.4% และ ตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงเหลือ 2.54 แสนราย จากตลาดคาดที่ 2.6 แสนราย
กลยุทธ์ระยะสั้นยังคงแนะหุ้น Defensive ที่เล่นกับกระแสคาดการณ์กำไรจะดีขึ้นในไตรมาสที่ 3/16 เช่น กลุ่มโรงพยาบาล (RJH) โรงไฟฟ้า (TPCH CKP) ค้าปลีก (TACC) เป็นต้น
สัปดาห์นี้ ผันผวนในกรอบแนวต้าน 1,510 จุด แนวรับ 1,480 จุด ตามคาด ส่วนต้นสัปดาห์หน้า อาจผันผวนตามต่างประเทศจาก คืนนี้รอดูตัวเลข US PCE หากออกมาต่ำกว่าคาด จะหนุน Sentiment หุ้นโลกจากคาดเฟดไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย แต่หากตัวเลขขยายตัวเกินคาด คาดจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อจิตวิทยาลงทุน โดยหลังจากพักตัวในช่วงต้นสัปดาห์ แล้วไม่หลุดแนวรับ คาดจะรีบาวด์อีกครั้ง มองดัชนีฯเคลื่อนไหวในกรอบเดิม 1,510-1,480 จุด (กรณีหลุด 1,480 จุด จะเกิดสัญญาณลบทางเทคนิคระยะสั้น คาดลงทดสอบแนวรับถัดไป 1,440 จุด)
ระยะเดือน ตค. คาดผันผวน มองตลาดมีโอกาสลงมาให้ได้ซื้อของถูกอีกรอบ แนะลงซื้อเพิ่มอีก หลังจากเมื่อ กย.ลงไปบริเวณ 1,400 จุด (แนะซื้อไป ½ ของพอร์ต) เดือน ตค.คาดแนวรับ 1,440 จุด กรณีปิดต่ำกว่า 1,437 จุด-Stop loss ส่วนแนวต้านเดือน ตค.คาด 1,530 จุด ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด คือ Earnings preview กำไร 3Q16 บจ.ไทย, ผลดีเบต ก่อนเลือกตั้ง ปธน.สหรัฐฯ
หุ้นแนะนำวันนี้ TPCH แนวรับ 18.5 บ. ต้าน 19.5 บ. หลุดจาก Cash balance (ดูรายงานวันนี้), CKP ถ้าราคาลงเพราะตลาดกลัวติด Cash balance เป็นโอกาสในการซื้อ แนวรับ 3.3 บ. ต้าน 3.54 บ. คาดกำไร 3Q-4Q16 โตดี จากปริมาณน้ำในเขื่อนน้ำงึม 2 เพิ่มขึ้น ราว 15% (เทียบกับครึ่งปีแรก) หนุนผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นดันกำไร 3Q16 โตดีขึ้น, เก็งกำไร ORI แนวรับ 12 บ. ต้าน 14 บ. คาดราคาหุ้น Downside จำกัด อิงต้นทุนที่เทมเพิลตันซื้อไป 25 ล้านหุ้น ต้นทุนราคา 10 บ. เมื่อ 16 กย.ที่ผ่านมา คาดมีโอกาส Window dressing
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(+) TPCH เรามองว่าราคาหุ้นที่ยังไม่ปรับตัวขึ้นนับแต่บริษัทชนะการประมูลโครงการชีวมวลภาคใต้ 26.1MW เป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อหุ้น เพราะนักลงทุนส่วนใหญ่มีความกังวลว่าโครงการที่บริษัทชนะประมูลมาในราคาค่าไฟฟ้าเพียง 3.20 บาท/หน่วย จะไม่ก่อให้เกิดกำไร อย่างไรก็ดีจากประสบการณ์ของบริษัทดูจากโรงไฟฟ้าช้างแรกที่ได้ค่าไฟฯ 3.15 บาท/หน่วย คาดบริษัทจะรักษาศักยภาพการทำกำไรได้ในระดับ 7 ล้านบาท/MW/ปี และยังมีปัจจัยหนุนราคาหุ้นระยะสั้นจากการ COD โรงไฟฟ้าทุ่งสังตามแผนงานที่จะ COD ในช่วงนี้ คาดหนุนให้กำไร 4Q16 ทำ new high ต่อเนื่อง และการคัดเลือกโรงไฟฟ้าขยะชุมชน ที่จะยื่นคำขอในเดือน ต.ค. นี้ ซึ่งเรามองว่าบริษัทมีความพร้อมในงานนี้สูงมาก และมีโอกาสที่จะได้รับ PPA เพิ่มเติม เราคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 27.50 บาท
(-) BDMS ในระยะสั้นเราคาดราคาหุ้นจะถูกกดดันจาก การปรับลดประมาณการกำไรของตลาด และการลงทุนครั้งใหม่ (ซื้อที่ดิน-อาคารรร.สวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ) จะกดดันมาร์จิ้นในระยะสั้นจนถึงระยะกลาง แต่จะได้ประโยชน์ในระยะยาว เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2016-17 ลง 3% และ 5% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นจากการซื้อกิจการ และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 25 บาท (เดิม 26 บาท) เรามองว่าราคาที่จะเข้าสะสมหุ้นอีกครั้งควรรอให้ต่ำกว่า 21 บาท หรือคิดเป็น P/E 35 เท่า (อิงจากการปรับตัวลงในครั้งที่แล้ว)
(-) ADVANC คาดกำไรสุทธิ 3Q16 ที่ 7.24 พันล้านบาท, ลดลง 16% YoY และ 25% QoQ โดยกำไรหลักคาดที่ 7.2 พันล้านบาท, ลดลง 18% YoY และ 24% QoQ กำไรที่ลดลงคาดเกิดจาก 1) ค่าตัดจำหน่ายและดอกเบี้ย license 900MHz 2) ค่าใช้จ่าที่เกิดจากดีลพันธมิตรกับ TOT นอกจากนี้เราคาดกำไรอาจอ่อนตัวลงต่อเนื่องใน 4Q16 ไปจนถึงปี 2017 เพราะการรับรู้ค่าใช้จ่ายเต็มไตรมาส/เต็มปี และมีความเสี่ยงที่บริษัทอาจปรับลด dividend payout ratio ลงจาก 100% ดังนั้นเราคงคำแนะนำ ถือ (ภายใต้สมมติฐาน payout 100% ในปี 2016)
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+) SUTHA กลุ่ม ผถห.ใหญ่ขายหุ้น 135 ล้านหุ้น หรือ 45% ของทุนจดฯ ให้แก่ ซีอี ไลม์ (ผู้ประกอบการธุรกิจปูนขาวรายใหญ่จากยุโรป) ในราคา 6.50 บ. และทำเทนเดอร์ฯ 6.5 บ. โดยกลุ่ม ผถห.เดิมจะเหลือสัดส่วนราว 22.41% (ที่มา ตลท.)
(+) หุ้นหลุด Cash balance สัปดาห์นี้ TGPRO MAX TFG VTE (รวม Warrant ของหลักทรัพย์อ้างอิงด้วย) และ TPCH TACC (ที่มา ตลท.)
(-) หุ้นอาจติด Cash balance สัปดาห์นี้ PIMO YUASA ABC CKP WAVE (ที่มา BLS/ ตลท.)
(+) รับเหมาฯ รองนายกสมคิด เร่งรัดให้ รฟท. ลงทุนโครงการรถไฟทางคู่ ระยะเร่งด่วน 7 เส้นทาง รวมระยะทาง 995 กม.วงเงิน 5 แสนล้านบาท เข้า ครม.สิ้นปีนี้ และ ต้นปีหน้า (ที่มาโพสต์ทูเดย์)
(+) LST TVO กินเจคึกคาดเงินสะพัด 4 หมื่นล้านบาท ขยายตัวสูงสุดในรอบ 3 ปี สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น (ที่มา โพล ม. หอการค้า, โพสต์ทูเดย์)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(-) เมื่อวานตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นภูมิภาคเช้านี้ดิ่งลงเฉลี่ยเอบ 1% ตามกระแสเดิมๆ “วิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ยรายวัน จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯดีขึ้น ดอลล์แข็งค่า” เมื่อวานรายงาน US GDP 3Q16 ปรับขึ้น +1.4% และ ตัวเลขขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงเหลือ 2.54 แสนราย จากตลาดคาดที่ 2.6 แสนราย (ที่มา Bloomberg)
(-) ศุกร์ US Personal spending สค. คาด +0.2% จาก 0.3% m-m. US Core PCE index สค.คาด +0.2% จาก +0.1% m-m, US Chicago PMI กย.คาด +52 จาก 51.5, EU area HICP inflation กย.คาด +0.3% จาก +0.2%, UK GDP 2Q 3rd คาด 0.6%, ญี่ปุ่น Industrial production คาด +1.1% และเงินเฟ้อ สค. คาด -0.5%, ไทย Mfg Production สค. คาด -2.3% จาก -5.1% y-y, เกาหลีใต้ Industrial production สค.คาด 2% จาก 1.6% y-y. (ที่มา Bloomberg)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค