WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

RHB OSK บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment

 

กดดันจากตลาดหุ้นโลก
   ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบวิตกสถานะการเงินของดอยซ์แบงก์และข่าวอื้อฉาวของเวลส์ ฟาร์โกรวมหุ้นธนาคารที่ปรับลงทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -1.07%, -0.93%, -0.93%
  ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับกลุ่มโอเปกมีมติปรับลดกำลังการผลิต ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -0.31%, +1.02%, +0.26%, +0.72%
   สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 0.78 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.83 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 0.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.24 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังกลุ่มโอเปกมีมติปรับลดกำลังการผลิต


   ตลาดหุ้นไทยวานนี้ได้รับแรงสนับสนุนจาราคาน้ำมันดิบที่ปรับฟื้นตัวขึ้นแรงหลังจากที่กลุ่ม OPEC สรุปผลการเจรจานอกรอบ มีมติอนุมติให้ปรับลดกำลังการผลิตรวมของกลุ่ม โดยจะสรุปผลในวันที่ 30 พฤศจิกายน ในการประชุมประจำปีที่กรุงเวียนนา โดยคาดว่าจะมีเพดานการผลิตใหม่ที่ระหว่าง 32.50-33.00 ล้านบาร์เรลต่อวัน เมื่อเทียบกับปริมาณการผลิตล่าสุดเดือนสิงหาคมที่ราว 33.69 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือลดลงราว 7 แสนบาร์เรล/วัน เราประเมินว่าปัจจัยดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนราคาน้ำมันดิบในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งคาดว่านักวิเคราะห์ในตลาดจะออกมาทยอยปรับประมาณการคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตามยังคงมีความไม่ชัดเจนในเรื่องของตัวเลขโควต้ารายประเทศ ซึ่งจะมีการสรุปในอีก 2 เดือน หรือในการประชุมเดือนพ.ย. นี้ โดยเบื้องต้นคาดว่าอิหร่านจะไม่มีเพดานการผลิต (คล้ายกับการละเว้นเพดานการผลิตให้อิรักในปี 2008 หลังเหตุการณ์ระหว่างสงครามโค่นประธานาธิบดีชัดดัม) โดยหุ้นที่ได้รับอนิสงค์จะอยู่ในกลุ่มพลังงานทั้ง PTT PTTEP (ราคาขายปรับตัวเพิ่มขึ้น) TOP BCP IRPC SPRC ESSO (กำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบ) BANPU LANNA AGE (ราคาถ่านหินปรับตัวเพิ่มขึ้น) ในขณะที่หุ้นกลุ่มที่จะถูกกดดันคือกลุ่มที่มีสัดส่วนต้นทุนจากเชื้อเพลิงสูงอย่าง AAV BA THAI (สายการบิน)

      สำหรับ วันนี้คาดว่าตลาดจะจับตารอการทำ Window Dressing ช่วงท้ายตลาดในหุ้นบางตัว แต่ตลาดหุ้นไทยอาจได้รับผลกระทบในช่วงต้นตลาดจากการปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากการร่วงลงของหุ้นดอยซ์ แบงก์ที่ปรับตัวลงกว่า 6.7% ผลกระทบจากกรณีที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้ดอยซ์ แบงก์จ่ายค่าปรับวงเงินสูงถึง 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ในคดีขาย MBS ในอดีต ซึ่งมากกว่าที่ทางธนาคารดอยซ์ แบงก์ได้ตั้งสำรองไว้กว่า 2-3 เท่า ส่งผลให้ธนาคารอาจต้องเพิ่มทุน หรือ ขายสินทรัพย์ หากจะต้องชำระเงินจำนวนดังกล่าวจริง ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปว่าดอยซ์ แบงก์จะชำระเงินให้แก่สหรัฐฯ เมื่อใด และจะนำเงินมาชำระจากแหล่งใด นอกจากนี้ยังมีกรณีอื้อฉาวจากพนักงานของธนาคารเวลส์ ฟาร์โกที่ได้เปิดบัญชีลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นจำนวน 2 ล้านบัญชี เพื่อเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ด้านการเงิน ซึ่งทาง CEO ของเวลส์ ฟาร์โก ได้ถูกคณะกรรมาธิการด้านการเงินแห่งสภาผู้แทนราษฎรทำการสอบสวนใหม่ และอาจต้องรับผิดชอบ ส่งผลให้หุ้นเวลส์ ฟาร์โกร่วงลง 2.1% รวมถึงหุ้นในกลุ่มธนาคารตัวอื่น ๆ ที่ซื้อขายในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงตามด้วย คาดว่าผลกระทบจากกรณีดังกล่าวน่าจะทำให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้าวันนี้ปรับตัวลงตาม รวมทั้งตลาดหุ้นไทยด้วย

กลยุทธ์การลงทุน
  Trading : ต่ำกว่าแถว ๆ 1,470 จุด แนะนำ ชะลอการเก็งกำไร

Saravut Tachochavalit, Analyst TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754 EMAIL : [email protected]

 

BSP

 

adsoptimal100

paidtoclick copy

 

  

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!