- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 30 September 2016 17:11
- Hits: 1157
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : ALLA (IPO), BDMS, TMB
Our Portfolio Sep 2016 : ARROW, BCH, BJC, BLA, KTC
คาด SET ยังผันผวนและอ่อนตัวได้ ดังนั้นรอซื้อช่วงอ่อนตัวต่อไป...
ตลาดหุ้นวานนี้ : แม้ว่า SET ยังสามารถรีบาวด์กลับขึ้นมาแกว่งตัวด้านบวกอีกครั้ง จากผลประชุมนอกรอบของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่บรรลุข้อตกลงที่จะลดการผลิตน้ำมันลง แต่ยังต้องรอการประชุมของกลุ่มโอเปกในเดือน พ.ย.อีกครั้ง ทำให้ยังมีแรงขายทำกำไรช่วงบวกกดดันให้ดัชนีแกว่งตัวค่อนข้างผันผวนต่อเนื่อง และมีจังหวะอ่อนตัวเป็นบวกน้อยลงในช่วงท้ายตลาดด้วย
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET กลับมามีความเสี่ยงกับการปรับตัวย้อนลบอีกครั้งหลังเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวลดลงกว่า 1% เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของดอยช์ แบงก์ และข่าวอื้อฉาวที่เกิดขึ้นกับธนาคารเวลส์ ฟาร์โก นอกจากนี้ยังได้รับแรงกดดันจากการที่เจ้าหน้าที่เฟดบางรายได้ออกมาสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ด้วย อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังตอบรับข่าวผลประชุมนอกรอบของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในเชิงบวกอยู่ ถึงแม้ว่าจะเริ่มมีความไม่มั่นใจว่าประเทศสมาชิกโอเปกจะปฏิบัติตามข้อตกลงกันทุกประเทศหรือไม่ ซึ่งต้องรอติดตามการประชุมของกลุ่มโอเปกในวันที่ 30 พ.ย.นี้อีกครั้ง ดังนั้น FSS ยังคาดว่า SET จะมีกรอบลบค่อนข้างจำกัด และยังลุ้นโอกาสฟื้นตัวได้อยู่
กลยุทธ์ : เรายังแนะนำให้เลือกหุ้นทยอยซื้อสะสมในช่วงตลาดอ่อนตัว โดยเน้นถือลงทุนระยะกลาง-ยาวดีกว่า
แนวรับ 1488-1485 , 1482-1477 จุด
แนวต้าน 1495-1498 , 1505-1512 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : TVO , AUCT , IVL(buy back)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคหนาแน่น US$664ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$430ล้าน ซึ่งเปิดทำการเป็นวันแรกหลังจากปิดตลาดเพราะพายุเข้า ตามด้วยเกาหลีใต้ US$194ล้าน ขณะที่ไหลออกไทยประเทศเดียว US$37ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าแต่อาจชะลอตัวลงจากความกังวลต่อฐานะธนาคารในยุโรป
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
• (-) ความเสี่ยงในต่างประเทศจำกัดการไหลเข้าของโฟลว์ ประเด็นของ DeutscheBank ยังไม่ทันจบ ธนาคาร Wells Fargo กำลังสร้างความวิตกให้ตลาดถึงความน่าเชื่อถือของธนาคารหลัง CEO John Stumpf ถูกคองเกรสซักฟอกอย่างหนักเรื่องพนักงานของแบงก์เปิดบัญชีลูกค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตกว่า 2 ล้านบัญชีเพื่อสร้างยอดขาย ส่วนCommerzbank ในเยอรมนีประกาศอาจลดพนักงาน 7,300 รายและงดจ่ายปันผลเพราะผลประกอบการที่แย่ลง หุ้นกลุ่มสถาบันการเงินเป็นกลุ่มที่ฉุดตลาดในต่างประเทศลง (ตรงข้ามกับแบงก์ของไทยที่แข็งแกร่งและคาดว่ากำไร 3Q16 จะดีขึ้น) ขณะที่การ Debateรอบ 2 ของฮิลลารีกับทรัมป์กำลังจะเกิดขึ้น 9 ต.ค. อาจทำให้กระแสเงินทุกต่างประเทศชะลอการไหลเข้าในระยะนี้ ส่วนวันนี้ลุ้น Window dressing คาดหุ้นที่เป็นเป้าทำ
Window: AOT, BAY, INTUCH, PTT
• (0) TMB เราคาดกำไรสุทธิ 3Q16 จะยังหดตัว 20% Y-Y แต่ฟื้น 5% Q-Q เพราะน่าจะตั้งสำรองลดลงจาก 2Q16 ที่มีการขายและตัดจำหน่ายหนี้ NPL มากกว่าปกติ แต่ภาพรวมของการตั้งสำรองยังสูงอยู่เพราะธนาคารมีแผนตัดจำหน่ายหนี้ NPL ต่อเนื่อง แม้แนวโน้มกำไร 2H16 จะดีกว่าครึ่งปีแรกเพราะบริหารส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยได้ดีและต้นทุนเงินฝากลดลง แต่เราปรับกำไรปีนี้ลง 12% เป็น -6% Y-Y และลดกำไรปี 2017 ลง 15% เป็น+8% Y-Y เพราะภาระการตั้งสำรองที่ยังสูง เราปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปีหน้าที่ 2.70 บาทมี upside กว่า 20% จากราคาหุ้นปัจจุบันที่มี 2017PBV 1 เท่า คำแนะนำจึงเป็นซื้อ แต่TMB ไม่ใช่หุ้นที่เราชอบนัก เรายังคงชอบ SCB (ราคาพื้นฐานปีหน้า 190 บาท) และ KKP(ราคาพื้นฐานปีหน้า 68 บาท) มากกว่า
• (+) BDMS การซื้อที่ดินและอาคารพื้นที่ 15 ไร่บริเวณปาร์คนายเลิศ เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์สุขภาพครบวงจร BDMS Wellness clinic ด้วยเงินลงทุน 1.28 หมื่นล้านบาท เจาะลูกค้าระดับบนโดยเฉพาะต่างชาติซึ่งคาดว่าจะมีสัดส่วน 75-80% จะช่วนหนุนการเติบโตในระยะยาวและช่วยดึง margin ให้สูงขึ้น ขณะที่เงินลงทุน 1.28 หมื่นล้านบาทถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับที่ดิน 1.08 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 1.8 ล้านบาท/ตร.ว ถูกว่าที่ดินใกล้เคียงที่ SCซื้อก่อนหน้านี้ในราคา 1.9 ล้านบาท/ตร.วา ยังไม่รวมสิ่งลูกสร้างบนพื้นที่ ขณะที่ทำเลที่ตั้งถือว่าเหมาะสมอย่างยิ่ง ผู้บริหารคาดว่าจะคุ้มทุนภายใน 3 ปี ทำให้เราประเมินว่าโครงการดังกล่าวจะเพิ่มมูลค่าให้ 0.7-1.0 บาท/หุ้น แต่ผลประกอบการในช่วง 1-2 ปีข้างหน้าจะถูกกดดันจากดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มจากการออกหุ้นกู้ และคาเสื่อมราคาของอาคาร คาดกระทบประมาณการกำไรของเรา 5-7% แนะนำซื้อลงทุนระยะยาว โดยยังคงราคาพื้นฐานปีหน้า26 บาทเพราะแม้รวม downside 5-7% เป้าใหม่ก็ยังสูงกว่าราคาหุ้นปัจจุบัน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
30 ก.ย. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน ส.ค.
3 ต.ค. - ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (ก.ย.), ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ (ก.ย.)
- จีน: Manufacturing & Non-manufacturing PMI (ก.ย.)
- ญี่ปุ่น: ดัชนี Tankan (3Q16)
5 ต.ค. - สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (ก.ย.), คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ส.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ก.ย.)
6 ต.ค. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ก.ย.)
- สหรัฐ: ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
7 ต.ค. - สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงาน (ก.ย.)
8 ต.ค. - จีน: Caixin China PMI Composite (ก.ย.)
9 ต.ค. - สหรัฐ: การ Debate รอบ 2 ของคู่ชิงประธานาธิบดี
10 ต.ค. - สิงคโปร: 3Q16 GDP
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดลบค่อนข้างแรงโดยได้รับกดดันหลังราคาหุ้น Deutsche Bank ร่วงทำจุดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์รวมถึงกรณีอื้อฉาวของ Wells Fargo
(0) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดผสม แม้ว่าจะได้รับแรงหนุนจากกลุ่ม OPEC มีมติปรับลดกำลังการผลิต แต่ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับภาคธนาคารจากกรณีของ Deutsche Bank
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนลบตามตลาดหุ้นสหรัฐฯซึ่งกดดันบรรยากาศในการลงทุน
(0) ค่าเงินบาทเริ่มมีจังหวะอ่อนค่าลงเล็กน้อย โดยล่าสุดยังเคลื่อนไหวในกรอบ 34.55-34.72 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 0.78ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 47.83 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยยังได้รับปัจจัยบวกจากการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันและมีมติปรับลดการผลิตน้ำมัน อย่างไรก็ตามเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรออกมาในช่วงเช้าวันนี้และทำให้ราคาเริ่มปรับลง
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.30 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,326.00 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯร่วงแรงจากความกังวลในภาคธนาคารจากกรณี Deutsche Bank ทำให้นักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น
Contact person : Somchai Anektaweepon Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852 www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research