- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 27 September 2016 18:32
- Hits: 2161
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
ตามตลาดต่างประเทศ? คาดมีโอกาสปรับลง ภายใต้น้ำหนักจากประเด็นต่างประเทศ (1) การดีเบตระหว่างฮิลลารี และ ทรัมป์ ซึ่งเป็นครั้งแรก จากทั้งหมด 3 ครั้ง ก่อนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเดือน พ.ย. โดยคาดมีความกังวลหากทรัมป์ ชนะการดีเบต เนื่องจากเป็นคนที่มีความไม่แน่นอน และ (2) การประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ ซึ่งหารือกำลังการผลิต เพื่อตรึงราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตามยังมีความไม่แน่นอนว่าจะสามารถตกลงกันได้ ? ขณะที่การเจรจาที่ผ่านมาหลายๆ ครั้ง ไม่ประสบความสำเร็จ
รวมถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่คาดมีขึ้นอย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้ จะยังเป็นปัจจัยที่กลับมากดดันภาพรวมตลาดฯ อีกครั้ง โดยเฟดเหลือการประชุม 2 ครั้งในปีนี้ (1 – 2/11/59 และ 13 – 14/12/59)
ทางด้านประเด็นในประเทศ แม้ยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ คาดภาพรวมยังได้รับปัจจัยหนุนจาก Fund Flow แม้มูลค่าซื้อ/ขาย สุทธิ จะมีความผันผวนบ้าง แต่ YTD ยอดซื้อสุทธิสะสม ยังอยู่ในระดับสูงเกือบ 135,000 ล้านบาท และประเด็น Window Dressing – 3Q/59 ที่จะมีการปิดงบในวันที่ 30/9/59
นอกจากนี้แนะติดตามหุ้นในกลุ่มค้าปลีก รวมถึงหุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่เน้นลูกค้าระดับล่าง – กลาง เช่น DCC และ DRT เป็นต้น ที่คาดได้รับประโยชน์จากการที่กระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร โดยลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร ที่คาดช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศ
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น EPG และ SCC
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK, SYNTEC
(5) กลุ่มพลังงาน ในขณะที่หุ้นหลักอย่างเช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ในขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO, KAMART และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
SET SET50 SET100
1,490.14 -2.74 948.87 -2.86 2,123.37 -6.04
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(-) ตลาดต่างประเทศ DJIA -166.62, NASDAQ -48.25, S&P -18.59, FTSE -91.39, CAC -80.84 และ DAX -233.26
นักลงทุนชะลอการซื้อขาย โดยอยู่ระหว่างรอการโต้วาทีครั้งแรกระหว่างนางฮิลลารี ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และนายทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน จะมีขึ้นที่มหาวิทยาลัยฮอฟสตรา รัฐนิวยอร์ก (เช้านี้ตามเวลาไทย) ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่อาจชี้ชะตาผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปลายปีนี้
นอกจากนี้ยังมีความกังวลสถานะทางการเงินของดอยซ์แบงก์ ธนาคารรายใหญ่ของเยอรมนี หลังนายกฯ เยอรมนี ปฎิเสธให้ความช่วยเหลือต่อดอยซ์แบงก์ หลังกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เรียกร้องให้ดอยซ์แบงก์จ่ายค่าปรับเป็นเงิน 1.4 หมื่นล้านUSD เพื่อยุติการสอบสวนในคดีที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ซึ่งเป็นต้นเหตุของวิกฤตการเงินโลกในปี’51
ขณะที่สหรัฐฯ เปิดเผย ยอดขายบ้านใหม่ – ส.ค. ลดลง 7.6%MoM อยู่ที่ 609,000 ยูนิต หลังจากเพิ่มขึ้น 13.8%เมื่อก.ค. อยู่ที่ 659,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่ต.ค.’50
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน พ.ย. +US$1.45 อยู่ที่ US$45.93 ต่อบาร์เรล ส่วนหนึ่งจากการเข้าเก็งกำไรหลังราคาน้ำมันปรับลงในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามยังอยู่ระหว่างรอการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และรัสเซีย อย่างไม่เป็นทางการ ในวันที่ 26 -28/9/59
ที่แอลจีเรีย ซึ่งจะหารือการตรึงกำลังการผลิต เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตามการเจรจาหลายครั้งก่อนหน้านี้ของกลุ่มฯ ไม่ประสบผลสำเร็จ
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
21.9 1.9 3.18
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 34,952.13
สถาบัน 445.71
บัญชีหลักทรัพย์ -930.77
ต่างประเทศ -543.97
ในประเทศ 1,029.03
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. +US$2.4 อยู่ที่ US$ 1,344.1ต่อออนซ์ ส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากเงินสหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้สัญญาทองคำมีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ขณะที่อยู่ระหว่างรอการโต้วาทีครั้งแรกระหว่างนางฮิลลารี ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และนายทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน (เช้านี้ตามเวลาไทย)
(-) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -544 ล้านบาท สะสม YTD +134,597 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 27 - 30 ก.ย. 2559
27/9/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ราคาบ้านเดือนก.ค.
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.ย.
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนก.ย.
28/9/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค.
สต็อกน้ำมัน
29/9/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้าย GDP – 2Q/59
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนส.ค.
30/9/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
รายได้ส่วนบุคคลเดือนส.ค.
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนก.ย
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.ย.
(7) กลุ่มท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT) ที่คาดได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี’59 ที่คาด อยู่ที่ 33 ล้านคน เพิ่มจากประมาณการเดิมที่ 32.5 ล้านคน และคาดรายได้จากการท่องเที่ยว 1.69 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6% ในขณะที่ประเด็นทัวร์ศูนย์เหรียญคาดว่าจะเป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น
(8) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV, AOT และ BA และกลุ่มเดินเรือ จาก Baltic Dry Index (BADI) ล่าสุดอยู่ที่ 934 จุด ลดลงเล็กน้อยจากระดับสูงสุดของปีที่ 941 จุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.03 อยู่ที่ 1.59% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +2.21 อยู่ที่ 14.50
หุ้นแนะนำ : AP ราคาเป้าหมาย (ปี’60) 9.00 บาท
IVL ราคาเป้าหมาย (ปี’59) 45.00 บาท
MAJOR ราคาเป้าหมาย (ปี’59) 34.00 บาท
SMT ราคาเป้าหมาย (ปี’60) 7.60 บาท
SYNTEC ราคาเป้าหมาย (ปี’60) 5.35 บาท
SYNEX ราคาเป้าหมาย 6.30 บาท
(อ้างอิง IAA Consensus)
TKN ราคาเป้าหมาย (ปี’60) 25.75 บาท
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร.02-684-8788