- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 26 September 2016 16:43
- Hits: 2327
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
Sideway? มีโอกาสอ่อนตัวลง ตามตลาดต่างประเทศ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ลดลงจะกดดันราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน แนะให้ติดตามการประชุมของกลุ่มโอเปก และรัสเซีย อย่างไม่เป็นทางการ 26 – 28/9/59 ซึ่งจะมีการหารือเกี่ยวกับการตรึงกำลังการผลิต แต่เริ่มมีการส่งสัญญาณมาว่าอาจไม่สามารถตกลงกันได้ นอกจากนี้ตลาดยังคงจับตาแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดการส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งในปีนี้ของเฟด จะยังเป็นปัจจัยที่กลับมากดดันภาพรวมตลาดฯ อีกครั้ง โดยเฟดเหลือการประชุม 2 ครั้งในปีนี้ (1 – 2/11/59 และ 13 – 14/12/59)
ทางด้านประเด็นในประเทศ แม้ยังไม่มีประเด็นชี้นำใหม่ๆ แต่คาดยังได้รับปัจจัยหนุนจาก Fund Flow โดย YTD ยอดซื้อสุทธิสะสมของต่างชาติ เพิ่มขึ้นสูงกว่า 135,000 ล้านบาท ประกอบกับค่าเงินบาทยังคงมีแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่องมาอยู่ที่ 34.60-34.69 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตามตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากประเด็น Window Dressing – 3Q/59 ที่จะมีการปิดงบในวันที่ 30/9/59
นอกจากนี้แนะติดตามหุ้นในกลุ่มค้าปลีก รวมถึงหุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่เน้นลูกค้าระดับล่าง – กลาง เช่น DCC และ DRT เป็นต้น ที่คาดได้รับประโยชน์จากการที่กระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร โดยลดรายจ่าย และเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร ที่คาดช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศ
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น EPG และ SCC
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK, SYNTEC
(5) กลุ่มพลังงาน ในขณะที่หุ้นหลักอย่างเช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ในขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO, KAMART และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
SET SET50 SET100
1,492.88 -13.11 951.73 -9.40 2,129.41 -20.68
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดต่างประเทศ DJIA -131.01, NASDAQ -33.78, S&P -12.49 FTSE -1.97, CAC -21.13 และ DAX -47.21
โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลดลง จากการที่หุ้นในกลุ่มพลังงานราคาลดลงตามราคาน้ำมันดิบ ประกอบกับหุ้นขนาดใหญ่เช่น แอปเปิ้ล ลดลงจากยอดขายโทรศัพท์รุ่นใหม่ที่แย่กว่าคาด ในขณะที่เฟดยังคงส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้ หลังปัจจัยสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้มีน้ำหนักมากขึ้น ในขณะที่มาร์กิตเปิดเผยข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นอยู่ที่ 51.4 ในเดือน ก.ย. ลดลงมากกว่าคาดจากระดับ 52.0 ในเดือน ส.ค.
ทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ปรับตัวลงจากราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารที่ลดลง โดยตลาดยังคงจับตาแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน พ.ย. -US$1.84 อยู่ที่ US$44.48 ต่อบาร์เรล โดยยังได้รับปัจจัยลบจากการความกังวลว่าการประชุมโอเปกในวันที่ 26-28 ก.ย. นั้นอาจจะไม่มีการปรับลดหรือตรึงกำลังการผลิต เนื่องจากยังคงกังวลว่าหากปรับลดการผลิตจนราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้การผลิตน้ำมัน shale Oil ของสหรัฐฯ กลับมาเพิ่มการผลิตอีกครั้ง จนกลุ่มโอเปกอาจจะเสียส่วนแบ่งการตลาด
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
21.95 1.9 3.17
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 49,724.48
สถาบัน 72.71
บัญชีหลักทรัพย์ 1,206.88
ต่างประเทศ -624.45
ในประเทศ -655.15
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$3.0 อยู่ที่ US$ 1,341.7 ต่อออนซ์ จากแรงขายทำกำไร หลังจากราคาเพิ่มขึ้นมากในช่วงต้นสัปดาห์ ในขณะที่ตลาดยังคงจับตา เฟดส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นปีนี้ หลังปัจจัยสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดได้มีน้ำหนักมากขึ้น
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ -624 ล้านบาท สะสม YTD +135,141 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 26 - 30 ก.ย. 2559
26/9/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.
27/9/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ราคาบ้านเดือนก.ค.
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนก.ย.
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนก.ย.
28/9/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนส.ค.
สต็อกน้ำมัน
29/9/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
ตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้าย GDP – 2Q/59
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนส.ค.
30/9/59 : สหรัฐฯ เปิดเผย
รายได้ส่วนบุคคลเดือนส.ค.
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนก.ย
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.ย.
(7) กลุ่มท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (MINT) ที่คาดได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี’59 ที่คาด อยู่ที่ 33 ล้านคน เพิ่มจากประมาณการเดิมที่ 32.5 ล้านคน และคาดรายได้จากการท่องเที่ยว 1.69 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6% ในขณะที่ประเด็นทัวร์ศูนย์เหรียญคาดว่าจะเป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น
(8) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV, AOT และ BA และกลุ่มเดินเรือ จาก Baltic Dry Index (BADI) ล่าสุดอยู่ที่ 941 จุด เพิ่มขึ้นจาก 756 จุด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และทำจุดสูงสุดใหม่ในปีนี้
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี -0.02 อยู่ที่ 1.62% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +0.27 อยู่ที่ 12.29
หุ้นแนะนำ : TOP
นักวิเคราะห์ : ศักดิ์นรินทร์ ศศานนท์ โทร.02-684-8789