- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 26 September 2016 16:40
- Hits: 1575
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
จุดสนใจนักลงทุนเปลี่ยน
คาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวมนกรอบแคบวันนี้ เป็นการสู้กันระหว่างความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ที่จะเว้นว่างไประยะหนึ่ง กับราคาน้ำมันที่ร่วงหนักจนฉุดหุ้นสหรัฐให้ร่วงแรงเมื่อวันศุกร์ จุดสนใจสัปดาห์นี้เปลี่ยนไปเป็นการโต้วาทีของผู้สมัครเข้าชิงตำแหน่งปรานาธิบดีสหรัฐ และ BOJ จะดำเนินการซื้อขายพันธบัตรอย่างไรหลังจากประกาศยกเครื่องนโยบายการเงินสัปดาห์ที่แล้ว หาก Trump มีวาทะเหนือกว่าซึ่งหมายถึงว่าเขาอาจชนะการเลือกตั้ง คาดว่าสินทรัพย์ ปลอดภัยทั้งหลายจะปรับตัวขึ้น เพราะความเกรงว่านโยบายสหรัฐอาจมีการเปลี่ยนแปลงแบบยกเครื่อง ภายในประเทศ ธปท. มองว่าหากไม่มีมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม การบริโภคภาคครัวเรือนจะชะลอ แต่รัฐบาลเพิ่งประกาศมาตรการสนับสนุนเกษตรกร และประชาชนทีมีรายได้ต่ำ
หุ้นเด่นวันนี้ : ANAN (ราคาปิด 4.62 บาท¸แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย AWS 7.50 บาท)
บมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ (ANAN) เป็นหุ้นที่เราเลือกลงทุนเนื่องจากแนวโน้มธุรกิจของบริษัทดีมากจากภาพรวมของธุรกิจคอนโดมีเนียมตามแนวรถไฟฟ้ามีแนวโน้มที่สดใสตามการขยายตัวของระบบขนส่งมวลชน โดยบริษัทมียอดเตรียมโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ให้กับลูกค้าเป็นจำนวนมาก ประกอบกับมีแผนเปิดโครงการใหม่รองรับการเติบโตในอนาคตอีกหลายโครงการ เราคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2559 เติบโต 15%YoY เป็น 1.4 พันล้านบาท (0.42 บาทต่อหุ้น) และเติบโต 81% YoY เป็น 2.5 พันล้านบาท ในปี 2560 เป็นผลมาจากการเปิดตัวโครงการจำนวนมากไปเมื่อปี 2556-2557 ทำให้เริ่มมีการโอนโครงการขนาดใหญ่เข้ามาในช่วง 2H59 ปัจจัยที่ส่งผลบวกมากคือการที่ ANAN มีการร่วมทุนกับ Mitsui Fudosan (MF) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เบอร์หนึ่งของญี่ปุ่น โดยโครงการที่ร่วมทุน ANAN ถือหุ้น 51% และ MF ถือหุ้น 49% โครงการแรกที่ร่วมทุนกันคือ Ideo Q จุฬา-สามย่าน มูลค่าโครงการ 6,800 ล้านบาท จะเริ่มโอนในไตรมาส 4/59 นี้
ตามด้วยโครงการใหญ่อีกหลายโครงการที่ร่วมทุนกันแล้วประสบความสำเร็จ ในปี 2559 ยอดโอนคาดว่าจะเป็น 15,601 ล้านบาท เติบโต 62% YoY เป็นส่วนของ ANAN เอง 72% ที่เหลือเป็นโครงการร่วมทุน และปี 2560 คาดว่ายอดโอนจะเป็น 30,215 ล้านบาท เติบโต 94% YoY เป็นส่วนของ ANAN 52% ที่เหลือเป็นโครงการร่วมทุน โดยล่าสุด 24 ก.ย.นี้ ANAN เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับโครงการ Ideo Mobi อโศก และ Vinio สุขุมวิท 10 คาดว่าประสบความสำเร็จสูงสำหรับการเพิ่มยอด Presales การที่บริษัทยึดแนวทางธุรกิจในการสร้างคอนโดมีเนียมติดสถานีรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพมหานครคาดว่าจะส่งผลบวกในระยะยาวเพราะคาดว่าการขยายตัวของระบบขนส่งรถไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นอีกมากใน 5-8 ปีข้างหน้า ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายที่ PER 11.1 เท่า คาดว่าจะลดลงเป็น 6.1 เท่าในการเทียบกับ EPS ปี 2560 เราจึงแนะนำซื้อ ประกอบกับภาพทางเทคนิค มี Buy Signal ทั้งในระดับ รายวันและรายเดือน รอการเกิดสัญญาณซื้อรายสัปดาห์ ซึ่งเป้าหมายถัดไปของ ANAN คือ 4.98 บาท มีจุด Stop Loss ที่ 4.56 บาท (Resistance: 4.64, 4.70, 4.78; Support 4.56,4.50,4.42)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
การบริโภคอาจชะลอในครึ่งหลังปี 59 ผู้บริหารระดับสูงของ ธปท. กล่าวว่าการบริโภคอาจชะลอในครึ่งหลังปี 59 ถ้ารัฐบาลไม่ได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอะไรเพิ่มเติมเข้าไปอีก อย่างไรก็ดีการบริโภคภาคเอกชนจะยังฟื้นตัว ซึ่ง ธปท. ปรับแก้การเติบโตปี 59 สำหรับการบริโภคภาคเอกชนไปเป็น 2.7% จากเดิม 1.8% และปรับการเติบโต GDP เป็น 3.2% จาก 3.1% (Bangkok Post) ความเห็น: อย่างไรก็ตามเราคาดว่ามาตรการกระตุ้นจะออกมาอีกในช่วงที่เหลือของปี ตามที่ รมว.คลังได้เคยยืนยันเอาไว้
มาตรการส่วนเพิ่มเพื่อช่วยเหลือผู้ปลูกมันสำปะหลัง กระทรวงพาณิชย์เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง โดยจะใช้มาตรการพักชำระหนี้เงินต้นให้แก่ผู้ปลูกมันสำปะหลังเป็นเวลา 24 เดือน วงเงิน 1.2 พันลบ. ครอบคลุมเกษตรกร 500,000 ราย ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจะชดเชยดอกเบี้ยให้ 1.5% และรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยให้ 1.5% แก่ผู้ปลูกมันสำปะหลัง นอกจากนี้ยังมีแผนจะเสนอให้พิจารณาอนุมัติให้ ธ.ก.ส.ปล่อยสินเชื่อเกษตรกรในด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษ เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่อง ในวงเงิน 2.0 หมื่นลบ. (Bangkok Post)
BBL (167.00 บ. ซื้อ ราคาเป้าหมาย AWS 188.00 บ.) ได้เข้าร่วมกลุ่มพันธมิตร R3 ที่มีสถาบันการเงินชั้นนำของโลกกว่า 55 แห่งเป็นสมาชิก ซึ่ง BBL มีแผนจะร่วมมือกับสมาชิกในกลุ่มที่จะวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางการเงินในเชิงพาณิชย์ใหม่ๆ (Bangkok Post) ความเห็น: ประเด็นดังกล่าวถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับตัวทางธุรกิจของ BBL ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยทางการเงินที่กำลังเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน รวมไปถึง Lifestyle ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
ต่างประเทศ
หันมาจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐและผลการดำเนินงานไตรมาส 3/59: นักลงทุนทั่วโลกหันมาจับตาการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐแทนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดดยจะมีการโต้วาทีครั้งแรกในวันจันทร์นี้ (ช่วงเช้าวันอังคารตามเวลาในแถบเอเชีย) และฤดูการประกาศผลประกอบการที่กำลังจะมาถึง จากผลสำรวจของ CME’s FedWatch มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 58.4% (Reuters) ความเห็น: ความคิดจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ที่มองว่าดีอาจทำให้สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำปรับตัวขึ้น อันได้แก่ พันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น เงินเยน ทองคำ และพันธบัตรรัฐบาลเยอรมัน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายอย่างรุนแรงจะตามมาหากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งเนื่องจากแนวนโยบายตรงกันข้ามกับนางฮิลลารี คลินตัน
ราคาพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ้างอิงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์จากความต้องการพันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้นเนื่องจากการขาดทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ ราคาพันธบัตรอ้างอิงอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้น 4/32 อัตราผลตอบแทนอยู่ที่ระดับ 1.618% ลดลง 1 bps จากเมื่อวันพฤหัส ในช่วงต้นของการซื้อขายเมื่อวันศุกร์ แตะที่ระดับ 1.606% ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนต่ำสุดนับแต่วันที่ 9 ก.ย. (Reuters)
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงสถานะไว้ ก่อนศึกการโต้วาทีของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในวันจันทร์ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัวที่ระดับ 95.472 ลดลง 0.7% ในสัปดาห์ก่อน ซึ่งเป็นการดำเนินงานรายสัปดาห์ที่ตกต่ำที่สุดนับแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 18 ส.ค. (Reuters)
สหรัฐ :
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากราคาน้ำมันที่ดิ่งลงอย่างหนักหลังแทบไม่มีความพยายามจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันในการตรึงกำลังการผลิตแต่อย่างใด หุ้นกลุ่มพลังงานฉุดตลาดลง อีกทั้งหุ้นบ.แอปเปิลและเฟซบุ๊กปรับตัวลงเช่นกัน แต่ดัชนีหลัก ๆ ยังคงปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดีปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ นำโดยการปรับตัวสูงขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากที่ Fed ตัดสินใจไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย และมองว่าจะไม่เร่งการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้และปีหน้า (Reuters)
เอเชีย :
กรอบนโยบายใหม่ของ BOJ จะเผชิญกับการทดสอบครั้งแรกในสัปดาห์ที่ผ่านมาขณะที่นักลงทุนมองไปที่วิธีการที่จะจัดการกับการดำเนินการซื้อพันธบัตรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของนโยบายใหม่ในอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว BOJ กล่าวว่ามันจะมีจุดมุ่งหมายเพื่อเป็นแนวทางในอัตราผลตอบแทน JGB 10 ปี อยู่ที่ราว 0.0% ตามเป้าหมายนโยบายหลักก่อนหน้านี้ รวมถึงการเพิ่มการถือครองพันธบัตรอีก 80 ล้านล้านเยนต่อปี (792.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) แม้ว่า BOJ กล่าวว่าจะรักษาจังหวะของการซื้อพันธบัตร แต่นักลงทุนจำนวนมากเชื่อว่ากรอบการทำงานใหม่เป็นความพยายามที่จะลดการซื้อพันธบัตรขนาดใหญ่ (Reuters)
นักการทูตในประเทศฟิลิปปินส์กำลังเจรจากับประเทศจีนที่จะจัดให้มีการเยือนของประธานาธิบดี Rodrigo Duterte ในช่วงสิ้นเดือนหน้า ความสัมพันธ์ระหว่างฟิลิปปินส์กับจีนไม่ราบรื่นจากเรื่องดินแดนในทะเลจีนใต้ Duterte ได้กล่าวซ้ำ ๆ ว่า ความขัดแย้งไม่มีจุดหมายและเขาต้องการที่จะทำธุรกิจกับจีน Duterte ได้ออกมาต่อต้าน สหรัฐ สหภาพยุโรป และสหประชาชาติ ที่วิจารณ์รุนแรงเกี่ยวกับการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติดของเขา ซึ่งมีคนถูกฆ่าตายไปเกือบ 3,000 คน จีนได้ระบุว่ายินดีต้อนรับการเจรจาทวิภาคีระหว่างฟิลิปปินส์และจีน ซึ่งจัดให้ประธานาธิบดี Duterte ไปเยือนประเทศจีน (Reuters)
คณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ปฏิเสธข้อเสนอของกลุ่มผู้ผลิตเหล็กในประเทศ ซึ่งได้เสนอให้ทางจีนพิจารณาการเพิ่มการผลิตถ่านหิน Coking ที่ให้ในอุตสาหกรรมการผลิตเหล็ก เพื่อช่วยลดผลกระทบจากราคาถ่านหิน Coking ที่ปรับตัวสูงขึ้นจากภาวะอุปทานตึงตัวในประเทศ อย่างไรก็ตาม NDRC ได้อนุมัติให้ผู้ประกอบการเหมืองถ่านหิน 74 รายเพิ่มการผลิตถ่านหินชนิด Thermal coal (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันลบ 4% วันศุกร์ กดดันจากข่าวที่ว่าซาอุฯ และคู่แข่งสำคัญคืออิหร่านเจรจานอกรอบแล้วมีความคืบหน้าเล็กน้อยเท่านั้น ก่อนประชุมหลักประเทศผู้ส่งออกน้ำมันของโลกในสัปดาห์นี้ (26-28 ก.ย.) เพื่อมุ่งจะคุมการผลิตซึ่งก็กังวลว่าจะไม่ค่อยคืบหน้าเช่นกัน น้ำมัน Brent ลบ 1.76 ดอลลาร์สหรัฐ (-3.7%) ปิดที่ 45.89 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล รายสัปดาห์ขึ้นไป 0.3% จากการบวกไปสองวัน น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าลบ 1.84 ดอลลาร์ (-3.9%) ปิดที่ 44.48 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
ทองคำคงที่จากช่วงซื้อขายที่ไม่คึกคักเช่นเดียวกับค่าเงินดอลลาร์ในวันศุกร์ แต่รายสัปดาห์ทองยังบวกมากสุดในรอบสองเดือนเพราะ Fed ระบุตำเตือนเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย ราคาทองคำตลาดจรบวก 0.03% ไปอยู่ที่ 1,337.01 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลงจากจุดสูงสุดรอบสองสัปดาห์ที่ขึ้นไปแตะ 1,343.64 ดอลลาร์ในวันพฤหัส หรือรายสัปดาห์บวกไป 2% มากสุดนับแต่ปลาย ก.ค. ทองคำสหรัฐล่วงหน้าส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับลดลง 0.2% ปิด 1,341.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun, CFA, FRM (No.49234) Tel: 02 680 5094