- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 26 September 2016 16:25
- Hits: 1636
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ฟื้นตัวได้บ้าง ก่อนผันผวนต่อ
KGI คาด SET วันจันทร์รีบาวด์ ก่อนผันผวนต่อ (ศุกร์ที่แล้ว ดัชนีฯ ลงค่อนข้างแรง แย่กว่าคาด) ทั้งนี้เรามองการฟื้นตัววันนี้ยังจำกัด หลังหุ้นน้ำมันตัวหลักๆ อาจถ่วงดัชนีฯ ตามราคาน้ำมัน WTi ที่ลดลง 3.3% เมื่อวันศุกร์ หลังจากซาอุฯ แถลงว่าการควบคุมปริมาณผลิตจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่ออิหร่านกระทำเช่นเดียวกัน (ตลาดมองว่าเป็นเงื่อนไขที่เกิดขึ้นได้ยาก) ขณะที่ฟันด์โฟลว์ชะลอตัวในช่วงสั้น หลังปัจจัยบวกหลักๆ จากต่างประเทศเช่นผลประชุม BoJ และ US Fed ได้ผ่านพ้นไปแล้ว อย่างไรก็ดีในสัปดาห์นี้มีปัจจัยภายในที่เป็นบวก ได้แก่ i) ที่ประชุม ครม. พรุ่งนี้จะพิจารณามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย และ ii) โอกาสที่จะมีแรงซื้อปิดงวดบัญชีไตรมาส 3/2559 จากฝั่งสถาบันในประเทศ โดยหากนับจากต้นเดือน ก.ย. และจากต้นไตรมาส 3/2559 นักลงทุนสถาบันในประเทศยังขายสุทธิอยู่ 1.62 หมื่นล้านบาท และ 4.71 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ เราจึงแนะนำหาจังหวะดัชนีฯ ผันผวนในช่วงต้นสัปดาห์ เข้าเก็งกำไร
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
รับเสี่ยงได้เก็งกำไร TPCH, KTC*
TPCH (เป้าพื้นฐาน 22 บาท) 1) รูปแบบราคาเริ่มเกิดสัญญาณซื้อหลัง i) Breakout กรอบ Sideway ii) ทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันแบบ EMA และ iii) กลุ่มเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น 3 – 10 วัน เริ่มตัดขึ้น (Golden Cross) ประเมินแนวรับ 17.5 บาท หากวันนี้ยืนเหนือ 17.8 บาทได้ มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบ 18.3 บาท และถัดไปที่ ±19 บาท 2) ในเชิงพื้นฐานประเมินแนวโน้มกำไรทำนิวไฮต่อเนื่อง 3 – 5 ไตรมาสติด จากการทยอย COD โรงไฟฟ้าชีวมวลที่มี PPA แล้วตามแผน 3) Catalyst ที่รออยู่คือการเปลี่ยนสัญญา LOI เป็น PPA (20MW ที่ จ.ปัตตานี)
KTC* (เป้าพื้นฐาน 160 บาท) 1) รูปแบบราคาแข็งกว่าตลาดฯ คาดแกว่งตัวในกรอบ Uptrend line channel ที่ 132 – 155 บาท โดยมีแนวต้านแรกที่บริเวณ 142.5 บาท 2) ฝ่ายวิจัยฯประมาณการฯกำไรเติบโต 18% ต่อปี CAGR 2558 – 2561 จากสมมติฐานสินเชชื่อที่เติบโตต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว แต่คาดต้นทุนเงินทุนคงที่ (คุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น และแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายยังต่ำต่อเนื่อง) 3) ตอนนี้ PEG เท่ากับ 0.95 เท่า ยังต่ำกว่า 1 เท่า
หุ้นในกระแส
หุ้นรับเทศกาลงานบุญ (LST, SALEE) เริ่มเทศกาลกินเจปีนี้ต้น ต.ค. และเริ่มเทศกาลออกพรรษา (เริ่มทอดกฐิน) กลาง ต.ค. จะเป็นช่วง High season ต่อหุ้นที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้อง อาทิ
1) LST (ยังไม่มีเป้า Consensus) คาดเครื่องดื่มน้ำนมถั่วเหลือง (ยี่ห้อ “Home Soy” ผลิตภายใต้ UFC บ.ลูกของ LST ถือหุ้น 99%) และสินค้าเครื่องดื่มน้ำผลไม้ โดยเฉพาะน้ำมะพร้าวยี่ห้อ UFC จะรับอานิสงส์เทศกาลกินเจปีนี้ โดยกำไรจาก UFC ใน 1H59 คิดเป็น 65% ของกำไรรวม ดังนั้นเราประเมินราคา Laggard หุ้นกลุ่มเครื่องดื่มด้วย PE ตอนนี้เพียง 11.6 เท่า (MALEE PE 25.3 เท่า / SAPPE PE 28.3 เท่า)
2) SALEE (เป้า Consensus 2 บาท) ธุรกิจที่เพิ่งซื้อเข้ามา (บ.เพชรสยามและบ.บงกชแก้ว) ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับเครื่องสังฆทาน และพลาสติกเครื่องใช้ในบ้านเรือน (วางขายใน Modern trade อาทิ BIGC*, เทสโก้ โลตัส เป็นต้น) จะทำให้ผลการดำเนินงาน SALEE เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3/59 (คาดเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือน ก.ค.) แนะนำ “เก็งกำไร” แนวรับ 1.40 บาท แนวต้าน 1.60 บาท
ราคาถ่านหิน BJI ปรับขึ้น 3.5% WoW เป็น 73.95 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ/ตัน คาดเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มฯ อาทิ LANNA แนะนำ “เก็งกำไร” แนวรับ 12.3 บาท แนวต้าน 13 บาทและถัดไปที่ 14 บาท (Stop loss 12 บาท)
หุ้นกองทุน Infrastructure fund ปันผลดี (DIF, JASIF) สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อย ในช่วงภาวะตลาดฯผันผวน + ดอกเบี้ยต่ำ อาจพิจาณาเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ความเสี่ยงต่ำอย่างกองทุน Infrastructure fund ที่มีปันผลสูงรองรับ เช่น DIF (Consensus คาด Dividend yield 6.6%) และ JASIF (Consensus คาด Dividend yield 7.9%)
หุ้นมีข่าว
(0) “พิชญ์”ทำเทนเดอร์ JTS ต่ำกว่าตลาดที่ 1.50 บาท (ข่าวหุ้น) “พิชญ์” ประกาศเทนเดอร์หุ้น JTS ต่ำกว่ากระดานที่ 1.50 บาทต่อหุ้น ตั้งโต๊ะรับซื้ออย่างเป็นทางการวันที่ 29 ก.ย.นี้ หลังซื้อหุ้น JAS* ถือครองเกิน 50% ยืนยันไม่มีแผนเอา JTS ออกจากตลท. ด้าน “SCB*” รับหน้าที่จัดทำคำเสนอซื้อ
(+) TACC กองทุนรุมจีบเพียบ การันตีQ4สวยรับไฮซีซั่น (ข่าวหุ้น) “TACC” เนื้อหอมกองทุนรุมจีบเพียบ ล่าสุดปิดสมุดพบกองทุนถือหุ้นเพิ่มขึ้น 8% ขณะที่คาดไตรมาส 4/59 แจ่ม! มั่นใจยอดขายพุ่งรับไฮซีซั่นธุรกิจ พร้อมส่งสินค้าใหม่ “โดนัท อะสไมลล์" และสินค้าลิขสิทธิ์ Hello Kitty บุกตลาดดันยอดขาย
(+) ITD-NWR-CNT เตรียมเซ็น รับงานมอเตอร์เวย์ 2 สาย 28 ก.ย.นี้ (ข่าวหุ้น) “ITD-NWR-CNT” เตรียมจรดปากกาเซ็นรับงานมอเตอร์เวย์บางปะอิน-นครราชสีมา และบางใหญ่-กาญจนบุรี 28 ก.ย.นี้ กรมทางหลวงพร้อมเบิกจ่าย 15% ทันทีในวันที่ 29 ก.ย. 59
(+) 'บีแลนด์' จ่อลงทุนค้าปลีกปั๊มรายได้ (กรุงเทพธุรกิจ) บีแลนด์ พัฒนาพื้นที่เมืองทองธานี 700 ไร่ เล็งลงทุนเมกะโปรเจคค้าปลีก ต่อจิ๊กซอว์เมืองครบวงจร
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
TACC (เป้า Consensus 10.6 บาท) ประเมินแนวรับ 8.7 บาท และถัดไปที่ 8.55 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ที่แนวรับ และประเมินแนวต้าน 8.9 บาท หากผ่านได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 9.3 บาท ... ปลายเดือนนี้เริ่มวางขายสินค้าใหม่ในร้าน 7-Eleven อาทิสินค้า Hello Kitty และ โดนัท
COM7* (เป้า Consensus 10.5 บาท ... เป้าสูงสุด 12 บาท) ประเมินแนวต้านปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 11.3 บาท และถัดไปที่ 12 บาท โดยมีแนวรับ 10.4 บาท และถัดไปที่ 10.1 บาท ... คาดผลตอบรับ iPhone7 ในไทยจะดีเป็นบวกต่อ COM7 (ประเมินผู้บริโภคจะยังกังวลต่อปัญหาแบตเตอรี่มือถือของคู่แข่งอย่าง Samsung ที่เกิดเหตุระเบิด) + ผลการเป็นพันธมิตรกับ TRUE* คาดจะเริ่มเห็นผลในงบการเงินไตรมาส 3/59 (ขายเครื่องพ่วงซิม + เริ่มเข้าบริหาร TRUE shop)
TMT (เป้าพื้นฐาน 14.2 บาท) ประมาณการฯล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯคาดปันผลปีนี้ 1.6 บาท/หุ้น (คิดเป็น Dividend yield 12.4%) ... อย่างไรก็ดี คาดปันผลปีนี้มากเป็นพิเศษเพราะราคาเหล็กที่ฟื้นตัวแรงในไตรมาส 2/59 เป็นหลักดังนั้น ในปีหน้าคาดปันผลจะลดลงสู่ระดับปกติที่ ±6%
IFEC* (อยู่ระหว่างพิจารณาปรับประมาณการฯ) ในเชิงพื้นฐานประเมิน Replacement cost (หรือ Liquidation value) ที่ 6.1 บาท
MONO (เป้า Consensus 3.82 บาท) ประเมินแนวรับ 3.0 บาท (Stop loss ถ้าต่ำกว่า 2.9 บาท) โดยมีแนวต้านแรก 3.12 บาท และต้านถัดไปที่ 3.2 บาท ... ประเมินการฟื้นตัวของการบริโภคในประเทศ + เรตติ้งทีวีดิจิตอลของ MONO ที่ขึ้นมาเกาะอันดับที่ 4 (รองจาก WORK*) จะเป็นตัวหนุนผลการดำเนินงานใน 2H59
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ น้ำหนักการลงทุน “มากกว่าตลาดฯ” กลุ่มธนาคารพาณิชย์รายงานตัวเลขเดือน ส.ค. สินเชื่อเติบโต 0.2% MoM แต่ลดลง -1% YTD อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯยังคงประเมินการลงทุนภาครัฐฯและนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเป็นปัจจัยช่วยให้ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้นได้ นอกจากนี้ Valuation หุ้นในกลุ่มฯถือว่าไม่แพงด้วย PE เฉลี่ย 9 เท่า และ PBV 1.3 เท่า เลือก SCB* เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มแบงก์ใหญ่ และ KKP* / TISCO* เป็นหุ้นเด่นในด้านปันผล
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้: --- นัยรับ 1490 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1490 จุดนั้น อาจกดราคาลงในกรอบ 1490-1472 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1490 จุดได้นั้น อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1490-1515 จุด
แนวรับวันนี้: 1490/1472 แนวต้านวันนี้: 1505/1515
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]