WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

May copyบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

ตลาดหุ้นไทยวานนี้
     SET INDEX วานนี้ยังคงเปิดบวกเด่นต่อเนื่อง และกลับไปทดสอบด่านสำคัญ 1,500 จุด ผลักดันด้วยกลุ่มธนาคาร, กลุ่มอสังหาฯ และกลุ่มค้าปลีก เพื่อตอบรับเชิงบวกต่อผลการประชุมเฟดคืนวานนี้ ปิด ณ สิ้นวันที่ 1,505.99 จุด บวกอีก 18.82 จุด มูลค่าการซื้อขายอาจยังไม่หนาแน่น 46,460 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 เร่งขึ้นเป็น 2,007 ล้านบาท Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 3 อีก 7,839 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 4 อีก 5,630 ล้านบาท

ปัจจัยสำคัญวันนี้
เงินทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาดต่อเนื่องเป็นวันที่ 3
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
ตัวเลขการส่งออก - นำเข้าเดือนส.ค. ของไทย
การประชุมครม.กับการพิจารณาโครงการรถไฟรางคู่
การเข้าร่วมประชุมสภาอียูของประธาน ECB ต่อทิศทางนโยบายการเงิน
Window Dressing
การประชุมโอเปกวันที่ 26-28 ก.ย.

มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลางถึงบวก 
     หลัง SET INDEX กลับมายืนเหนือ 1,500 จุดได้อีกครั้ง พร้อมกับสถาบันภายในประเทศที่กลับมาซื้ออย่างหนาแน่น เช่นเดียวกับพอร์ตโบรกเกอร์ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการปิดงวด 3Q59 ทำให้เราเชื่อว่า SET INDEX ฟื้นตัวในรอบนี้มีโอกาสขยับขึ้นทดสอบ 1,520 จุด +/- ในสัปดาห์หน้า จากบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกที่เป็นบวกตอบรับกับผลการประชุมเฟดในคืนวันที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปีเริ่มปรับตัวลงเด่น วานนี้ลดลง 7.96bps ปิดล่าสุดที่ 2.158% เทียบกับระดับสูงสุดในช่วง 2 เดือนนี้ 2.27% หากผลตอบแทนลดลงต่อเนื่อง อาจนำไปสู่การเทียบเคียงกับช่วงต้นปีที่ผ่านมา เม็ดเงินทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดตราสารหนี้อย่างหนาแน่น และเริ่มเข้าตลาดหุ้นไทยในลำดับถัดมา ผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลงจะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นปันผล รวมถึงกองทุน Property Fund / REIT / IFF ด้วยเช่นกัน
และหากตัวเลขเศรษฐกิจเดือนส.ค.ของไทยออกมาส่งสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะกำลังซื้อภายในประเทศด้วยแล้ว เชื่อว่าปัจจัยพื้นฐานการลงทุนจะสนับสนุนการฟื้นตัวของ SET INDEX ในรอบนี้ นอกเหนือจากเม็ดเงินทุนต่างชาติและสถาบันภายในประเทศ
กลยุทธ์การลงทุน "คงเน้นเก็งกำไรหุ้น Big Cap ที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงเป็นเป้าหมาย" รวมถึงผลการดำเนินงานใน 3Q59 ที่จะเติบโตเด่น yoy และ/หรือ qoq

Strategy of the Day
1. เก็งกำไร TTA : ราคาปิด 9.55 บาท ราคาเหมาะสม 12.60 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มเรือเทกองจะตอบรับเชิงบวกต่อเนื่อง จากการไต่ระดับขึ้นของดัชนีค่าระวางเรือ BDI อีก 34 จุดเมื่อคืนนี้ เป็น 937 จุด ทำระดับสูงสุดใหม่ของปี 2559
b) คาดว่าดัชนีค่าระวางเรือ BDI จะยังขยับขึ้นต่อในเดือน ต.ค. จากการเข้าสู่ฤดูกาล Re-stocking ของจีน เนื่องจากปริมาณสต็อกสินแร่เหล็กของจีนยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยราว 5% และการเข้าสู่ High Season ของธุรกิจถ่านหินเพื่อเร่งส่งมอบก่อนการเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวจะส่งผลให้ความต้องการใช้เรือเทกองเพิ่มสูงขึ้น
c) Downside Risk จำกัด ซื้อขายที่ PBV เพียง 0.76 เท่า และฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยมีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้น สิ้นสุด 2Q59 สูงถึง 1.2 หมื่นล้านบาท หรือเทียบเท่า 6.59 บาทต่อหุ้น
2. สะสม KTB : ราคาปิด 18.40 บาท ราคาเหมาะสม 21.00 บาท
a) MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร และประเมินว่าจะ Outperform ตลาดต่อเนื่องถึงช่วงสิ้นเดือน ก.ย.จากการไหลเข้าของกระแสเงินทุนต่างชาติ และแรงซื้อของกองทุนในประเทศจากการเกิด Window Dressing สิ้นไตรมาส 3Q59
b) คาดกำไรสุทธิ 3Q59 เติบโตสูง yoy เนื่องจาก 3Q58 มีฐานกำไรต่ำจากผลกระทบของการตั้งสำรองหนี้ของ SSI ขณะที่การเติบโตของสินเชื่อแม้ว่าจะยังไม่โดดเด่นใน 3Q59 แต่เชื่อว่าจะเห็นสัญญาณเร่งตัวขึ้นใน 4Q59 เนื่องจากเป็น High Season ของความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียน
c) คาดกำไรสุทธิปี 2559 เติบโต +10.6% yoy เป็น 3.1 หมื่นล้านบาท และจุดเด่นอยู่ที่ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงถึง 5% (จ่ายปีละ 1 ครั้ง) และ Downside Risk จำกัด ยังซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ PBV2559 เพียง 0.9 เท่า

Fund Flow Analysis

Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 อีก US$281 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$367 ล้าน
ทั้งนี้ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ถูกขายต่อเนื่อง

Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติซื้อสุทธิทั้ง 3 ตลาดเป็นวันที่ 3
        นักลงทุนต่างชาติ คงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 เร่งขึ้นเป็น 2,007 ล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิ 4,110 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD ต่างชาติซื้อสุทธิขยับขึ้นเป็น 135,765 ล้านบาท
      ด้าน SET50 Index Futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 3 มากถึง 7,839 สัญญา รวม 3 วันทำการ Long สุทธิ 14,049 สัญญา คาดว่าจะเป็นการเร่งปิดสถานะ Short ต่อเนื่อง แม้ว่า S50U16 กลับมาปิดสูงกว่า SET50 Index เล็กน้อย 0.07 จุด จากวันก่อนหน้า Discount เท่ากับ 2.23 จุด ทำให้ยอด QTD นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Short สุทธิลดลงเหลือเพียง 2,259 สัญญา
และนักลงทุนกลุ่มนี้ คงการซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 4 อก 5,630 ล้านบาท รวม 4 วันทำการซื้อสุทธิ 21,411 ล้านบาท และราคาพันธบัตรไทยฟื้นตัวเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทย อายุ 10 ปี ผลตอบแทนลดลงเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการมากถึง 7.96bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 0.97bps ปิดที่ 2.158%

Short-Selling วานนี้
ลดลงเป็นวันที่ 2 เพียงเล็กน้อยเป็น 1,130 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 1,292 ล้านบาท และ SBL กระจายตัวลงเหลือ 71 ตัว จากวันก่อนหน้า 74 ตัว

NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 ยังคงเน้นกลุ่มธนาคารและอาหาร
การซื้อขายผ่าน NVDR คงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 3 มากถึง 3,088 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 715 ล้านบาท รวม 3 วันทำการซื้อสุทธิ 4,151 ล้านบาท โดย NVDR ยังคงซื้อสุทธิกลุ่มธนาคารสูงสุด 1,052 ล้านบาท กลุ่มอาหารซื้อสุทธิอีก 735 ล้านบาท และกลุ่มพลังงาน ซื้อสุทธิ 494 ล้านบาท แต่ขายสุทธิกลุ่มค้าปลีกสูงสุดเพียง 151 ล้านบาท

ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค

สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลางถึงลบ
- ยอดขอสวัสดิการว่างงานเท่ากับ 2.52 แสนตำแหน่ง ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 2.61 แสนตำแหน่ง และสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.60 แสนตำแหน่ง
- ดัชนีราคาบ้าน เดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 0.5% mom ดีกว่า Bloomberg consensus คาด 0.4% mom และเร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.3% mom
- ยอดขายบ้านมือสองเดือนส.ค. หดตัว 0.9% mom เป็น 5.33 ล้านหลัง ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 5.44 ล้านหลัง และเดือนก่อนหน้า 5.38 ล้านหลัง โดยบ้านเดี่ยวลดลง 2.3% mom ขณะที่ปริมาณบ้านมือสองรอการขายลดลงอย่างต่อเนื่อง
- ดัชนีชี้นำเดือนส.ค. ลดลง 0.2% mom สวนทางกับ Bloomberg consensus คาด +0.1% mom และเดือนก่อนหน้า 0.5% mom จากคำสั่งซื้อ ISM ที่ลดลงเป็นสำคัญ โดยรวม 6 ใน 10 รายการส่งสัญญาณเชิงลบต่อดัชนีชี้นำในเดือนส.ค.

ยุโรป
ธนาคารกลางตุรกีลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง: อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ Overnight ลดลง 25bps เป็น 8.25% ส่วนอัตราดอกเบี้ย RP7 วันไม่เปลี่ยนแปลงที่ 7.5% ทั้งนี้ธนาคารกลางต้องการลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการฟื้นตัวของภาคการบริโภค หลังเศรษฐกิจใน 2Q59 ขยายตัวเพียง 3.1% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์
รายงานการประชุม BoE ครั้งล่าสุดส่งสัญญาณกังวลต่อตลาดอสังหาฯ: สำหรับการตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.25% น่าจะทรงตัวในระดับดังกล่าวเพื่อเป็น Buffer สู่อัตราดอกเบี้ย 0.00% ยกเว้นเกิดเหตุการณ์ที่มีนัยยะสำคัญต่อแนวโน้ม สำหรับความเสี่ยงที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยนอย่างมากคือ ตลาดอสังหาฯ เพื่อการพาณิชย์
การประเมินความเสี่ยงธนาคารพาณิชย์ในอียูอาจต้องเพิ่มทุนจำนวนมาก: รายงาน Single Resolution Board (SRB) หน่วยงานของ EU ได้สรุปรายงานการทดสอบกรณีที่เกิดวิกฤติ ธนาคารพาณิชย์ทั้ง 142 แห่งในอียู คิดเป็น 70% ของธนาคาพาณิชย์ในอียูทั้งหมด การศึกษากำหนดฐานทุนขั้นต่ำตามที่ ECB กำหนดไว้ โดยหลักเกณฑ์สำหรับฐานทุนที่มีคุณภาพสูงสุดคิดเป็น 9.9% ของเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักสินทรัพย์เสี่ยง พบว่าธนาคารที่สำรวจจะต้องปรับฐานทุนด้วยเม็ดเงินที่ค่อนข้างสูง
อังกฤษคาดว่าจะเริ่มเจรจา Brexit ในต้นปีหน้า: เลขาธิการด้านต่างประเทศ นาย Johnson กล่าวว่า รัฐบาลอังกฤษจะเริ่มการเจรจาเพื่อออกจากการเป็นสมาชิกในกลุ่มอียูในช่วงต้นปีหน้า โดยเริ่มจากมาตรา 50 แห่งกรุงลิสบอน ซึ่งอังกฤษจะมีแนวทางในการเจรจาบางอย่างแล้วในเวลานั้น

จีน
จีนจะเข้าไปแก้ไขกิจกรรมด้านอัตราแลกเปลี่ยนที่ผิดกฎหมาย: State Administration of Foreign Exchange (SAFE) อยู่ระหว่างการติดตามกิจกรรมที่ผิดกฎหมายเกี่ยวกับตลาดอัตราแลกเปลี่ยน เพื่อให้ตลาดเงินมีเสถียรภาพ นอกจากนี้การที่เงินทุนไหลออกไปลงทุนในต่างประเทศ และรัฐบาลสนับสนุนการทำ M&A ในต่างประเทศโดยบริษัทเอกชนของจีน จะมีการติดตามอย่างใกล้ชิดเช่นกัน

เอเชียแปซิฟิก
ทางการญี่ปุ่นเตรียมตรวจสอบการเก็งกำไรค่าเงินเยน: รองรมว.คลัง ญี่ปุ่น ให้ความกังวลต่อการเคลื่อนไหวค่าเงินเยนในตลาดเงิน หากมีการเก็งกำไรอย่างต่อเนื่อง เราอาจมีความจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่าง ณ ตอนนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเข้าไปตรวจสอบและติดตามในตลาดเงินอย่างใกล้ชิด
รัสเซียจะไม่มีการพิมพ์เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ: นายกฯ รัสเซีย นาย Medvedev ยืนยันรัสเซียจะไม่ใช้วิธีการพิมพ์เงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจและไม่ยอมให้ทาง Populism เข้าไปกำหนดงบประมาณ ซึ่งนายกฯ ต้องการที่จะควบคุมงบประมาณให้เข้มงวด
ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเป็นสิ่งจำเป็น: ผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์ ให้ความเป็นว่าการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมยังเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำ เพื่อให้แน่ใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะเข้าสู่เป้าหมายที่วางไว้ แม้ว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.0% ในการประชุมนัดนี้ โดยธนาคารกลางต้องการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินในการประชุมนัดถัดไปวันที่ 10 พ.ย. ซึ่งจะมีการปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจรายไตรมาสด้วย

ไทย
ไม่มี

Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Krittapol Itthithumsakul Assistant Analyst

 

BSP

 

adsoptimal100

paidtoclick copy

 

  

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!