- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 22 September 2016 16:34
- Hits: 743
บล.ทรีนีตี้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today Selection >> AOT, AP, CPALL, SCC
Stock S R Comment
AOT 390.00 412.00 ธุรกิจท่องเที่ยวก้าวเข้าสู่ช่วง high season
AP 7.10 7.40 คาดโครงการใหม่ที่วิทยุช่วยโกยยอดขายอื้อ
CPALL 57.00 63.00 โปรแสตมป์หนุน คาดยอดขายโตดีกว่าปีก่อน
SCC 516.00 532.00 ราคาปิโตรเคมียังคงสูงต่อเนื่อง
Sit back and enjoy
FOMC: ไฮไลท์สำคัญจากผลการประชุม FOMC เมื่อคืนนี้ได้แก่
1) Fed ตัดสินใจคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25-0.50% โดยมีคณะกรรมการไม่เห็นด้วย 3 คนในรอบนี้ได้แก่ นาง Esther George, นาง Loretta Mester, และนาย Eric Rosengren ซึ่งเห็นควรให้ขึ้นดอกเบี้ยในครั้งนี้เลย ซึ่งก็ไม่ได้ Surprise อะไร เนื่องจากทั้ง 3 คนมีแนวความคิด Hawkish ที่ชัดเจนมากในช่วงหลัง
2) ประเด็นสำคัญที่เรามองว่า Dovish เล็กๆได้แก่การที่ Fed ปรับลดคาดการณ์ GDP ในส่วนของปีนี้และในระยะยาวลงสู่ระดับ 1.8% จากเดิมที่ 2.0%
3) ค่ากลางของ Dot plots ปรับลงตามคาด โดยเหลือการขึ้นดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้งในปีนี้ (จากเดิม 2), ขึ้น 2 ครั้งในปี 2017 (จากเดิม 3), และขึ้น 3 ครั้งในปี 2018 (เท่าเดิม)
4) นาง Janet Yellen กล่าวว่าเธอเห็นด้วยกับการที่ Fed จะมีการขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องไม่มีความเสี่ยงร้ายแรงเกิดขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้
มุมมองของเรา: ในภาพรวมถือว่าโทนที่ออกมา Dovish เล็กน้อย โดยเฉพาะการปรับลดคาดการณ์ GDP ลง ซึ่งทำให้ Bond yield และดอลลาร์สหรัฐฯปรับตัวลงและตลาดหุ้นตอบรับในเชิงบวก เรายังคงคาดการณ์ว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ในการประชุมรอบเดือนธันวาคม ซึ่งนักลงทุนก็เชื่ออย่างนั้นด้วยเช่นกัน สะท้อนจากความน่าจะเป็นของการขึ้นดอกเบี้ยรอบเดือนธันวาคมที่สูงขึ้นสู่ระดับ 61% จากเดิมที่ 58%
BoJ: ผลการประชุม BoJ เมื่อวานนี้ไม่ได้มีประเด็นอะไร Surprise ตลาดมากนัก โดย BoJ ยังคงขนาดของวงเงินการเข้าซื้อตราสารต่างๆตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ รวมถึงการคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ -0.1% เช่นเดิม โดยมีสิ่งที่เพิ่มขึ้นได้แก่นับจากนี้เป็นต้นไป BoJ จะพุ่งเป้าไปที่การควบคุมความชันของเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Yield curve) เป็นสำคัญ
มุมมองของเรา: การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ดังกล่าวเป็นการสะท้อนว่า BoJ มีเป้าหมายที่จะยกระดับความชันของ Yield curve ให้สูงขึ้น หลังจากช่วงที่ผ่านมาการประกาศใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบส่งผลกระทบต่อเนื่องทำให้ Bond yield ระยะยาวปรับตัวลดลงจนเข้าสู่ระดับติดลบไปด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่เข้ามากดดันกำไรของสถาบันการเงินต่างๆ ทั้งธนาคารพาณิชย์ บริษัทประกันภัย กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รวมไปถึงลดทอนความเชื่อมั่นผู้บริโภคบางส่วนจนทำให้การจับจ่ายใช้สอยของคนในประเทศลดลง มองปัจจัยดังกล่าวเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มสถาบันการเงินของญี่ปุ่นโดยตรง แต่ไม่มีนัยสำคัญต่อระดับสภาพคล่องหรือทิศทางของ Fund flow แต่อย่างใด ส่วนแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปีนี้ หลังจากที่ BoJ ได้ริเริ่มโครงการการควบคุมความชัน Yield curve นี้ไปแล้ว มองมีโอกาสสูงที่ BoJ จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีก 1 ครั้ง
กลยุทธ์การลงทุน: จากผลการประชุม BoJ และ FOMC ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ทำให้บทสรุปที่เกิดขึ้นตรงตามที่เราคาดการณ์ไว้ ดังนั้นคาดการณ์ว่า SET Index จะเคลื่อนไหวไปตามกรณีฐานของเรา กล่าวคือปรับตัว Sideways up สู่ระดับ 1500 - 1520 จุดได้ ซึ่งเป็นระดับเป้าหมายตามโมเดล Earning yield gap คาดว่าหุ้นขนาดใหญ่จะปรับตัว Outperform หุ้นขนาดเล็กในช่วงนี้ เนื่องจากน่าจะได้อานิสงส์จาก Fund flow เป็นสำคัญ แนะนำ Let profit run ต่อไปเช่นเดิม
แนวรับ 1,471 แนวต้าน 1,517
นักวิเคราะห์ :
ดุลเดช บิค, CFA, FRM, CAIA (ID: 29932) E-mail: [email protected]
ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379) E-mail: [email protected]