- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 29 July 2014 17:04
- Hits: 2014
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : บทวิเคราะห์คลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ "ปรับฐาน "
นักลงทุนชะลอการเข้าซื้อเพื่อรอฟังผลการประชุม FED ในวันพุธที่ 30 ส.ค.นี้ รวมถึงแรงขายลดเสี่ยงจากภาวะ Overbought ส่งผลให้ SET ปิดลบที่ 1,538.13 จุด (-5.72 จุด) vol 4.7 หมื่นลบ. โดยส่วนใหญ่เป็นแรงขายในกลุ่ม ICT BANK PROP และ ENERG
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) มาร์กิต เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นทรงตัวในระดับสูงต่อในเดือนกรกฎาคมที่ 61 จุด เป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปีกว่า
(+) การคาดหมายความคืบหน้าแผนการลงทุนจากภาครัฐ โดยเฉพาะแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่จะมีการประชุมในสัปดาห์นี้
(-) สหรัฐรายงานยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนมิถุนายนลดลง 1.1%MoM สวนทางนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าน่าจะเพิ่มขึ้น 0.5%
(-) ราคาน้ำมัน WTI ปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อย
(-) ปัญหาการเมืองในต่างประเทศยังคงรุนแรง ทั้งในยูเครนที่มีรายงานว่าสหภาพยุโรปเตรียมจะใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ และสถานการณ์รุนแรงในฉนวนกาซาที่ยังคงมีการโจมตีโดยปฏิบัติการทางอากาศของอิสราเอล
(+/-) Fund Flow ต่างชาติไร้ทิศทางต่อ โดยมี Net Buy มูลค่า 140 ล้านบาท แต่เริ่มมี Net Long ใน Index Future เป็นวันที่ 2
(+/-) MOC รายงานตัวเลขการส่งออกเดือนมิถุนายนขยายตัว +3.9%YoY จากการฟื้นตัวของสินค้าอุตสาหกรรมรวม 6 เดือนยอดส่งออกลดลง -0.35%YoY คงเป้าการขยายตัวในปีนี้ที่ 3.5%
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
* ปัญหาการเมืองในยูเครน และ บริเวณฉนวนกาซ่า
* การเริ่มต้นรายงานงบไตรมาส 2
* การรายงาน GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐก่อนการประชุม FOMC
* การประชุม FOMC ในช่วงกลางสัปดาห์ คาดหมายการลดวงเงิน QE อีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ติดตามแนวโน้มดอกเบี้ย
* การประชุมคสช. ต่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการเปิดซองสายสีแดงสัญญา 3 วันที่ (รับเหมาก่อสร้าง วัสดุ)
กลยุทธ์การลงทุน "เลือกเฉพาะตัวที่มีข่าวดี"
ประเมินแนวโน้มตลาดวันนี้ผันผวนต่อ จากภาพรวมปัจจัยต่างประเทศที่ยังคงไร้ทิศทาง พร้อมทั้งความเสี่ยงเรื่องของการเมืองในหลายประเทศ และการประชุม FOMC ที่จะมีขึ้นในช่วงกลางสัปดาห์ ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติชะลอการลงทุนออกไป ด้านในประเทศปัจจัยบวกในเรื่องของการลงทุนจากภาครัฐยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มก่อสร้าง วัสดุ คุงมองภาพรวมในระยะกลางว่า Upside ยังคงจำกัดจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของดัชนี
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
STEC ราคาปิด 25 บาท
* Backlog สูงราว 5 หมื่นลบ.และมีโอกาสได้งาน 20% ของโครงสร้างพื้นฐานอีกราว 1 แสนลบ. จึงคาดว่ารายได้ 2014 +3.5% เป็น 2.3 หมื่นลบ. และกำไรที่ 1.5 พันลบ.
* คาดจ่ายปันผลปี 2014 ที่ 0.50 บาท/หุ้น (Div yield 2%)
* เก็งข่าวคสช.พิจารณาโครงสร้างพื้นฐานในสัปดาห์นี้
CPF ราคาปิด 27.75 บาท ราคาพื้นฐาน 33 บาท
* คาดกำไร Q2/57 = 2.4 พันลบ.(+49%YoY , +19%QoQ) ตามราคาเนื้อสัตว์ในประเทศที่ทรงตัวระดับสูง ,ไฮซีซันของการส่งออก
* คาดกำไรปี 57 เติบโตขึ้นเป็น 9.2 พันลบ.(+31%YoY) จากต้นทุนอาหารสัตว์ทั้งข้าวโพด กากถั่วเหลืองลดลง ราคาหมู ไก่ที่ปรับตัวขึ้น
* กำไรพิเศษราว 4,800 ลบ. จากการขายหุ้น CPP 25% ให้ ITOCHU
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ
โดย บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประจำวันที่ 29 ก.ค. 2557
รายงานฉบับนี้ จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลและบทความการวิเคราะห์ โดยใช้ข้อมูลและข่าวสารต่างๆ ที่ได้รับการเผยแพร่ต่อสาธารณะ ตลอดจนจากการสัมภาษณ์ผู้บริหารของบริษัทต่างๆมาประกอบและได้พยายามตรวจสอบ ความถูกต้องอย่างระมัดระวัง แต่ก็ไม่สามารถยืนยันความถูกต้องได้อย่างสมบูรณ์การวิเคราะห์ในรายงานฉบับนี้ได้พยายาม ยึดมาตรฐานบนหลักการวิเคราะห์ทางด้านปัจจัยพื้นฐานมาเป็นบทสรุปและข้อเสนอแนะ โดยมิได้เจตนาที่จะนำไปสู่การชี้นำ แต่อย่างใดซึ่งข้อเสนอแนะเหล่านี้ เป็นข้อคิดเห็นของนักวิเคราะห์ ซึ่งบริษัทฯ ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับข้อคิดเห็น ดังกล่าวเสมอไป ทั้งนี้นักลงทุน และผู้ใช้รายงานฉบับนี้ควรใช้วิจารณญาณส่วนตัวประกอบด้วย