- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 19 September 2016 17:50
- Hits: 3209
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'เลือกซื้อค่าบวก/ถือเมื่อ SET ยืนเหนือ 1460'
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวันศุกร์ตลาดหุ้นไทยบวกขึ้นต่อ ปิดตลาด SET Index +15.68 จุดที่ 1479.07 โดยเป็นการซื้อกลับหลังราคาหุ้นพื้นฐานดีอ่อนตัวลง สำหรับความกังวลเรื่อง FED ขึ้นดอกเบี้ยได้ Price in ในตลาดไปพอควร และประเมินว่าโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมรอบ 20-21 ก.ย.นี้ยังไม่มาก (เมื่อพิจารณาจากผลสำรวจความเป็นไปได้) ขณะที่มีความหวังว่าการประชุม BOJ อาจออกมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม (เช่น การลดดอกเบี้ย, เพิ่มวงเงิน QE) นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิมากถึง 5.8 พันล้านบาท พอร์ตบล.ซื้อสุทธิ 2.2 พันล้านบาท ส่วนสถาบันในประเทศและรายย่อยขายสุทธิ
สำหรับ วันนี้ บรรยากาศการลงทุนในภูมิภาคค่อนไปทางบวกเล็กๆ แม้ว่าตลาดหุ้นสหรัฐ สัญญาน้ำมันดิบและสัญญาทองคำเมื่อคืนวันศุกร์จะอ่อนลงก็ตาม ทั้งนี้นักลงทุนบางกลุ่มเข้ามาซื้อดักก่อนการประชุม FED และ BOJ ที่จะสิ้นสุดกลางสัปดาห์นี้ แต่...สิ่งที่ต้องระวัง คือ อาจมี Sell on Fact ถ้าผลประชุมออกมาตามคาดหรือแย่กว่าคาด (แต่ถ้าดีกว่าคาดก็จะส่งให้ขยับขึ้นต่อได้) ทั้งนี้ข้อมูลจากวอลล์สตรีท เจอร์นัลระบุว่าคณะกรรมการ BOJ ก็มีความเห็นที่แตกต่างในเรื่องการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่นเพิ่มเติมเช่นกัน สำหรับในประเทศ มีกระแสข่าวว่ารองนายกฯสมคิดจะนัดประชุมรมว.กระทรวงเศรษฐกิจทั้งหมดเพื่อปรับแผนการทำงานและออกมาตรการผลักดันเศรษฐกิจในประเทศเพิ่มเติม กลยุทธ์ : ยังคงแนะนำให้เลือกซื้อหุ้นที่ธุรกิจและกำไรยังเติบโตได้ดี ทั้งนี้เน้นเพื่อการเล่นเด้งตามรอบไว้ก่อน (จนกว่าจะมีปัจจัยบ่งชี้ทางบวกใหม่เข้ามาแล้วค่อยถือยาว) สำหรับหุ้นพื้นฐาน
แนะนำวันนี้เป็น PACE
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : สัญญาณระยะสั้นเป็นบวก แต่ยังมีโครงสร้างขาลงระยะกลางกดดัน ให้แนวต้านระยะสั้นไว้ที่ 1490, 1500 จุด การอ่อนตัวจนหลุด 1460 จุดแนะนำให้ชะลอการลงทุน/ลดพอร์ตตาม เพราะมีโอกาสลงไปที่ 1400 จุดหรือต่ำกว่าได้ สำหรับการ SCAN หุ้นที่มีสัญญาณเทคนิคดีมีโอกาสทำ New High พบว่าที่เข้ามาใหม่ คือ GPSC, ANAN, BA ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ TCAP, YUASA หุ้นที่หลุด List เป็น MALEE และหุ้นที่ให้หาจังหวะ Take Profit คือ BEM, ADVANC
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+/- สหรัฐ : เงินเฟ้อเดือนส.ค.ขยับขึ้นมากกว่าคาด
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI +0.2%MoM ในเดือนส.ค. มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ +0.1%MoM ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐาน (ไม่รวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน) +0.3%MoM เป็นอัตราการเพิ่มมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.59 … ดัชนี CPI ที่เพิ่มขึ้นบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้ฟื้นตัวและเติบโตในเกณฑ์ดี แต่ก็กระตุ้นกระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดกลับมากดดันตลาดอีกครั้ง
- ตลาดหุ้นสหรัฐ : ปิดอ่อนลงในวันศุกร์
วันศุกร์ตลาดหุ้นสหรัฐได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากหุ้นดอยซ์แบงก์ดิ่งลงกว่า 9% อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่ากระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เรียกร้องให้ดอยซ์แบงก์จ่ายค่าปรับเป็นเงินกว่าหมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อยุติคดีความที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) นอกจากนี้อัตราเงินเฟ้อเดือนส.ค.ของสหรัฐที่เพิ่มมากกว่าคาดก็กระตุ้นให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ ปิดตลาดดัชนี DJIA ปิดที่ 18,123.80 จุด ลดลง 88.68 จุด หรือ -0.49% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,244.57 จุด ลดลง 5.12 จุด หรือ -0.10% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,139.16 จุด ลดลง 8.10 จุด หรือ -0.38%
- ราคาน้ำมันดิบ : อ่อนตัวลง
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 88 เซนต์ หรือ -2% ปิดที่ 43.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 82 เซนต์ หรือ -1.8% ปิดที่ 45.77 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยบริษัทเบเกอร์ ฮิวจ์ รายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่เปิดใช้งานในสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก 2 แท่นในสัปดาห์ที่แล้วสู่ระดับ 416 แท่น (แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐมีจำนวนสูงสุด 4,530 แท่นในปี 1981 และแตะระดับต่ำสุดเมื่อเดือนพ.ค.59 ที่ระดับ 404 แท่น) รวมทั้งมีข่าวว่าลิเบียและไนจีเรียเตรียมเพิ่มการส่งออกน้ำมัน หลังจากบริษัทเอ็กซอน โมบิล และรอยัล ดัทช์ เชลล์ ได้ยกเลิกการประกาศ "ภาวะสุดวิสัย" (force majeure) ในไนจีเรีย (ก่อนหน้ามีเหตุการณ์โจมตีที่กระทบการลำเลียงน้ำมัน) และการปิโตรเลียมของลิเบียได้ประกาศยกเลิกการควบคุมการส่งออกน้ำมันที่ท่าเรือ 3 แห่งเมื่อวันพุธที่สัปดาห์ก่อน
- ราคาทองคำ : ลดลงต่อ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 7.8 ดอลลาร์ หรือ 0.59% ปิดที่ 1,310.2 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยความกังวลเรื่องเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกลับมาอีกเมื่อดัชนีเงินเฟ้อส.ค.สูงขึ้นเกินคาด
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
+ ไทย : ประชุมกระทรวงเศรษฐกิจเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ
รองนายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นัดประชุมร่วมกับรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจทั้งหมดวันนี้ (19 ก.ย.) เพื่อปรับแผนการทำงานและออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เนื่องจากประเมินสถานการณ์แล้วว่าการส่งออกจะฟื้นตัวได้ช้า อันเนื่องจากกำลังซื้อที่ซบเซาของประเทศคู่ค้า ซึ่งแหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวว่า หนึ่งในมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย คือ อาจจะทำประกันชีวิตให้ผู้มีรายได้น้อยทั้งประเทศ (ได้รับเงินเมื่อมีการเสียชีวิตเท่านั้น) ในด้านการบริโภค ผู้ประกอบการในธุรกิจค้าปลีก คาดว่าในช่วง 4Q59 จะคึกคักขึ้นเพราะเป็น High season ของการจับจ่ายใช้สอย และราคาสินค้าเกษตรที่กระเตื้องขึ้นทำให้กำลังซื้อค่อยๆ ฟื้นตัว ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็ปรับตัวด้วยการเสนอขายสินค้าที่ตรงกับกำลังซื้อของผู้บริโภคให้มากขึ้นด้วย
+ PACE (ราคาปิด 3.36 บาท, ราคาพื้นฐาน 3.95 บาท) : คาดกำไร 4Q59 และปี 60 จะเติบโตก้าวกระโดด
คอนโดมหานครเปิดตัวอย่างเป็นทางการและพร้อมโอนแล้วเมื่อส.ค.59 ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าการโอนรับรู้รายได้คอนโดนี้จะเริ่มตั้งแต่ช่วงปลาย 3Q59 เป็นต้นไป ซึ่งตามสมมติฐานทาง DBSV ให้มีการโอน 5.8 พันล้านบาทในปี 59 (หลังจาก 2Q59 บันทึกรายได้ไป 969 ล้านบาทซึ่งขณะนั้นมีการโอนล่วงหน้าเพื่อให้ทันมาตรการรัฐบาลแต่ถือว่ายังไม่มาก) แนวโน้มผลประกอบการจะโดดเด่นมากใน 4Q59 และปี 2560 จากการโอนคอนโดจำนวนมากทั้งจากโครงการมหานคร และโครงการมหาสมุทร (หัวหิน) เราประมาณการในเบื้องต้นว่ากำไรสุทธิปี 59 จะอยู่ที่ 500 กว่าล้านบาท (เข้ามามากใน 4Q59) และเพิ่มก้าวกระโดดเป็น 1.3 พันล้านบาทในปี 60 ในเชิงกลยุทธ์แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 3.95 บาท ซึ่ง DBSV ประเมินด้วย P/E เป้าหมายปี 2560 ที่ 14 เท่า การปรับลงของราคาหุ้นเป็นจังหวะในการลงทุน ความเสี่ยงหลัก คือ ค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่อาจสูงกว่าคาด
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]