- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 19 September 2016 17:23
- Hits: 1320
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ก่อน (12-16 กันยายน 59)
หลังจาก SET ปรับตัวลดลงในวันแรกของสัปดาห์ จากนั้นดัชนีสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ 4 วันติดต่อกัน โดยมีแรงซื้อเข้ามากระจายในทุกกลุ่ม รับเหมาก่อสร้าง (+7%WoW) อสังหาริมทรัพย์ ธนาคาร และอาหาร (+5%WoW) พลังงาน (+4%WoW) ปัจจัยที่หนุนให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นคาดว่าเกิดจากแรงซื้อเก็งกำไรทางเทคนิคหลังดัชนีปรับตัวลดลดแรงในช่วงก่อนหน้านี้ รวมถึงการ Rebalance FSTE INDEX ที่สิ้นสุดไปในวันที่ 16 ก.ย. สรุป SET index ปิดที่ 1,479.07 จุด เปลี่ยนแปลงลดลง 33.79 จุด (+2.3%WoW)
ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์นี้
(-) ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน ส.ค. ของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.2%MoM และเพิ่มขึ้น 1.1%YoY แสดงให้เห็นว่าตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้น และสนับสนุนให้ FED สามารถขึ้นดอกเบี้ยได้
(-) นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการปรับขึ้นดอกเบี้ย FED รอบ ก.ย. เป็น 20% จากเดิม 15%
(-) ช่วงวันหยุดที่ผ่านมาเกิดเหตุระเบิดที่นครนิวยอร์กสหรัฐฯ ก่อนการจัดประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาติที่นิวยอร์คในวันที่ 20 ก.ย.
(-) กองทัพสหรัฐฯมีการโจมตีผิดพลาด ทำให้ทหารซีเรียเสียชีวิตจำนวนมาก และรัสเซียได้ร้องเรียนต่อสหประชาชาติให้ทำการตรวจสอบ
(-) รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการที่ลิเบียและไนจีเรียเตรียมเพิ่มการส่งออกน้ำมันทำให้น้ำมันดิบ WTI สัปดาห์ก่อนลดลง 5%WoW มาอยู่ที่ 43.62 US/Barrel
(+) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติ Net Buy หุ้นไทยไปสูงถึง 5.8 พันลบ. คาดเป็นผลจากการปรับน้ำหนักการลงทุนในดัชนี FSTE ที่มีผลในวันที่ 16 ก.ย. ส่งผลให้ตลอดสัปดาห์ซื้อสุทธิไปกว่า 1.62 หมื่นลบ.
(+) กกพ. เปิดให้ยื่นเสนอขายไฟฟ้าพิเศษขยะอุตสาหกรรม 50 MW พร้อมประกาศผลราว ต.ค. 59
(+) SCB ประกาศใช้งบกว่า 6.5 พันลบ.เพื่อพัฒนา Digital Banking คาดส่งผลบวกต่อธุรกิจให้บริการด้าน IT แต่ภาคธนาคารจะมีการแข่งขันสูง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การประชุม FOMC ในวันที่ 21-22 ก.ย.
BOJ ประชุมพิจารณาเรื่องดอกเบี้ยและออกแถลงการณ์วันที่ 21 ก.ย.
สหรัฐฯ รายงานตัวเลขดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน ก.ย. ในวันจันทร์ ก่อนที่จะรายงานตัวเลขขออนุญาตสร้างบ้าน และยอดขายบ้านมือสองเดือน ส.ค. ในวันอังคาร และพฤหัส ตามลำดับ
ความคิดเห็น
คาดการปรับลดลงของดัชนี จากแรงกดดันจากเหตุก่อการร้ายในต่างประเทศ และความกังวลต่อการดำเนินนโยบายของธนาคารกลางต่างประเทศในช่วงกลางสัปดาห์ โดยคาดมีแรงขายทำกำไรจากกลุ่มที่รีบาวด์แรงในช่วงสัปดาห์ก่อนเช่น กลุ่มธนาคาร และ รับเหมาก่อสร้าง
กลยุทธ์การลงทุน (19-23 กันยายน 59)
จากที่ตลาดมีแนวโน้มจะชะลอความร้อนแรงลง หลังจบการ Rebalance FTSE index เราจึงแนะทยอยขายล็อคกำไร และ Wait&See รอความชัดเจนของ Fund Flow ต่างชาติในช่วงต้นสัปดาห์ โดยหากพลิกกลับเป็นขายสุทธิ เราคาดว่าจะมีแรงขายตามมาจากนักลงทุนกลุ่มอื่น สำหรับระยะกลางแนะนำทยอยสะสมกลุ่มส่งออกอาหาร และอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเก็งกำไรค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าในช่วงปลายปี
วิเคราะห์ SET ประจำสัปดาห์ 19 -23 ก.ย. 59
เก็งกำไรตามตลาด
SET Closed 1,479.07 จุด
High: 1,479.07 จุด
Low: 1,410.87 จุด
Resistant: 1,485, 1,490
Support: 1,468, 1,460
SET เดินหน้าปรับขึ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่เกิดการเด้งตัวผิดปกติในช่วงท้ายของปลายสัปดาห์ ซึ่งเราเรียกว่า Over shoot เนื่องจากมีการเข้ามาเพิ่มน้ำหนักหุ้นใหญ่ของกลุ่ม FTSE Index ส่งผลให้ราคาสุดท้ายของหุ้นถูกยกขึ้นมา และทำให้ SET เปิดกระโดดอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้เกิดการผิดเพี้ยนในมุมมองได้ง่าย เมื่อพิจารณากราฟ 180 นาที จึงเห็นการเกิด Overbought ใน Stoch จึงให้ระวังความผันผวนในต้นสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม MACD รายวันกลายเป็นดูดีขึ้น เพราะโค้งตัวตัด signal เพื่อจะเดินหน้าต่อ ดังนั้น ให้รอการย่อตัวต้นสัปดาห์ก่อน เพราะ trend โดยรวมกลายเป็นเดินหน้าไปยัง 1,490 แล้ว
กลยุทธ์
1. หากมีการดีดตัวขึ้นต่อในต้นสัปดาห์ ให้เน้นการทยอยขายลดความเสี่ยง
2. รอซื้อเมื่ออ่อนตัว ใกล้ 1460 จุด การขึ้นแบบ Overbought ไม่คุ้มที่จะเข้าแลก
CPF ราคาปิด 31.25 บาท
คาด 3Q59 ผลประกอบการยังขยายตัวต่อเนื่องทั้งเป็นช่วง High Season และราคาเนื้อไก่ทะลุ 40 บาท/กก.
ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนค่าต่อเนื่องจากช่วงปลายสัปดาห์ก่อน
ธุรกิจต่างประเทศเริ่มดูดี หลังมีการปรับโครงสร้างใหม่ รวมถึงราคาเนื้อสัตว์ที่ฟื้นตัว
ประเมินกำไรสุทธิปี 59 โต 33% มาอยู่ที่ 14,724 ล้านบาท
แนวต้าน 33.00 บาท
แนวรับ 31.00 บาท
กราฟ CPF ปรับตัวลงเข้าสู่แนว minor down trend โดยฟอร์มตัวเป็น U-curve ซึ่งจะเดินหน้าต่อไปยังปลายแขนขวาที่ 33 บาท โดย Stoch ส่อแววดีดตัวเป็น Buy signal อย่างชัดเจน เป็นสัญญาณที่แข็งแรงขึ้นกว่าสัปดาห์ก่อน แนะนำซื้อ
ทีมวิเคราะห์
