- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 16 September 2016 16:43
- Hits: 2825
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1485-1500
SET Index: 1471.58 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทะลุผ่านแนวต้านที่ 1470 จุดขึ้นมาได้ แต่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1485-1490 จุด แต่ถ้าเราพิจารณาสัดส่วนของการปรับฐานหลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคหลุดแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นลงไป การฟื้นตัวทางเทคนิคจะมีเป้าหมายในการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปที่ 1500 จุดที่ระดับ 61.80% ของการปรับตัวลดลงจากระดับ 1555 ไปทดสอบ 1410 จุด และเป็นแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาขึ้นเดิม
แนวต้าน : 1475 และ 1480
แนวรับ : 1470 และ 1467
JAS = 6.50 / 6.70, CPALL = 58.00 / 59.00, SCC = 520 / 528, BEM = 7.40 / 7.50, KBANK = 188 / 190
Charoen Pokphard Foods (CPF TB; THB 31.00) – ซื้อ
แนวต้าน : 32.50 และ 33.50
แนวรับ : 31.00 และ 30.50
ราคาหุ้นเคลื่อนไหวออกด้านข้างต่อเนื่อง พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่ไม่สูงมาก หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยทดสอบระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ฟื้นตัวเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ CPF โดยมีแนวรับที่ 31.00 และ 30.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 32.50 และ 33.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 29.50 ลงไป
Union Auction (AUCT TB; THB 8.15) – ซื้อ
แนวต้าน : 8.50 และ 8.75
แนวรับ : 8.15 และ 8.10
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรที่บริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ฟื้นตัวเหนือระดับ 50
แนะนำซื้อ AUCT โดยมีแนวรับที่ 8.15 และ 8.10 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 8.50 และ 8.75 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 7.75 ลงไป
SET50 Index Futures
S50U16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องในระยะสั้นทะลุผ่านแนวต้านที่ 930 จุดขึ้นไป ซึ่งเราแนะนำให้กลับเข้าไป Open Long ที่บริเวณ 925 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 940 ในขณะที่โครงสร้างของการฟื้นตัวมีเป้าหมายขึ้นไปที่ 952 ที่ระดับ 61.80%
แนวต้าน : 940 และ 942
แนวรับ : 935 และ 932
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน S50U16 ที่แนวรับ 932 และ 928 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 940-942
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า S50U16 ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 925 ลงไป
JASU16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องหลังจากถูกขายทำกำไรในระยะสั้น ในขณะที่แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.20 และ 7.70 โดยมีแนวรับในระยะสั้นที่ 6.35 ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค และมีแนวรับถัดไปที่ 6.00 เป็นแนวรับสำคัญ
แนวต้าน : 6.80 และ 6.90
แนวรับ : 6.60 และ 6.50
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน JASU16 ที่แนวรับ 6.60 และ 6.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.00 และ 7.20
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า JASU16 ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 6.35 ลงไป
BLANDU16
เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 1.60 ต่อเนื่อง เหนือแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นที่ 1.56 หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องค่อนข้างแรงที่บริเวณ 1.80-1.84 แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.64-1.66 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1.70 และ 1.74
แนวต้าน : 1.64 และ 1.67
แนวรับ : 1.60 และ 1.58
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน BLANDU16 ที่แนวรับ 1.60 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.64 และ 1.66
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า BLANDU16 ปิดต่ำกว่าระดับ 1.56 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ลุ้นอาทิตย์หน้า
ดัชนี SET หลังเผชิญแรงขายในช่วงต้นเดือนถึงวันที่ 12 ก.ย. กลับพบว่าเริ่มยืนได้ โดยดัชนีสามารถขึ้นมาสูงสุดที่ 1468 จุด จากแรงซื้ออย่างต่อเนื่องของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่กองทุนในประเทศ หยุดขายและกลับมาซื้อบางๆ ไม่ว่าจะเป็นเหตุผลอะไรที่ทำให้ต่างชาติยังซื้อหุ้นไทย แต่ตอนนี้หลายๆ สัดส่วนของตลาดหุ้นไทยค่อยๆ ทรงตัวและที่ดีขึ้น อย่าง แนวโน้มการทำกำไรของตลาดหรือ Earning revision ratio กลับมายืนเป็นบวกได้ครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2013 ขณะที่อัตราการทำกำไร 12 เดือนข้างหน้า (EpS 12 เดือนล่วงหน้า YoY%) ค่อยๆ บวกเพิ่มขึ้น คือตอนนี้อยู่ที่ 12% เพิ่มจากจุดต่ำสุดที่ประมาณ 6% กว่าๆ ในช่วงต้นปี 2016 (ดูรูปด้านซ้าย) และเมื่อเทียบกับภูมิภาคไม่รวมญี่ปุ่นที่ 11.8% และตลาดเกิดใหม่เอเชียที่ 10%
ประเด็นที่ 2 ที่ดีขึ้นคือ กำไรต่อหุ้น (EPS) จากรูปด้านขวา เราแสดงกำไรต่อหุ้นแบบถ่วงน้ำหนักของตลาดหุ้นไทยในปี 2015-2016-2017 (Weighted EPS ดอลลาร์ต่อหุ้น) จะพบว่า EPS ของปีนี้และปีหน้า ค่อยๆ ขยับสูงขึ้น สะท้อนกำไรโดยรวมของตลาด คงจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และค่อยๆ กระเตื้องขึ้น ภาพตรงนี้ก็มีความเป็นไปได้ที่เป็นเหตุผลที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติ ยังถือหุ้นไทย อย่างไรก็ตามประเด็นที่นักลงทุนห่วงกัน ว่าอาจจะเกิดแรงขายของต่างชาติในสัปดาห์หน้าหลังการทำ FTSE rebalancing เสร็จในวันนี้
เรามองว่าแม้จะมีแรงขายหุ้นหลังการทำ FTSE rebalancing ก็คงไม่น่าจะรุนแรง เนื่องจากบรรยากาศการลงทุนค่อยๆ ดีขึ้นและหุ้นที่มีการทำ FTSE rebalancing เป็นหุ้นใหญ่เกรดเอ ที่ภาพใหญ่ของอุตสาหกรรมฟื้นตัว ขณะที่อัตราการทำกำไรในปีหน้าดีขึ้น แต่หากมีแรงขายเกิดขึ้นจริงก็น่าที่จะทำให้ ตลาดผันผวนได้ แต่คงเป็นช่วงสั้นๆ อย่างไรก็ตามข้อมูลล่าสุด อย่างตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐออกมาแย่กว่าคาด ส่งผลให้โอกาสการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ริบหรี่ลง ซึ่งน่าจะทำให้แนวโน้มตลาดหุ้นทั่วโลกในสัปดาห์หน้าค่อยๆ ปรับตัวขึ้นต่อ
ในสัปดาห์หน้าคาดว่า ตลาดหุ้นในภูมิภาคจะผันผวนแรงทั้งเชิงบวกและลบ ขึ้นอยู่กับทิศทางการประชุม FOMC ว่าจะออกมาอย่างไร โดยมองว่าหากขึ้นดอกเบี้ยน่าจะเป็นจังหวะที่ต่างชาติอาจขายหุ้นออกบางส่วน เพราะมองต่อกันว่าดอกเบี้ยอาจจะขึ้นอีกครั้งในเดือน ธ.ค. แต่หากไม่ขึ้นทิศทางตลาดหุ้นไทยจะค่อยๆ ขยับขึ้นไปที่ระดับ 1500 จุด จากสถิติข้อมูลการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกของสหรัฐ ใน ปี 1994 1999 2004 และ 2015 พบว่าการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก ดัชนีหุ้นในเอเชียไม่รวมญี่ปุ่น จะปรับตัวลงเสมอ แต่หลังจากนั้นประมาณ 1 ถึง 1 เดือนครึ่ง ดัชนีจึงค่อยๆ ฟื้นตัว
วันนี้มองทิศทางดัชนี SET อาจจะผันผวนบ้างแต่ไม่มาก โดยมีแนวโน้มขึ้นต่อ (Sideway up) จากแรงหนุนของดัชนีในภูมิภาค ราคาน้ำมันเริ่มยืนและแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศเพราะเป็นวันสุดท้ายที่จะมีการทำ FTSE rebalancing โดยแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ยังช่วยพยุงตลาดหรือดันตลาดได้ วันนี้มองแนวต้านที่ 1470-1475 จุดและแนวรับที่ 1458-1454 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร INTUCH ADVANC BCH HMPRO
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
Investment Strategy
กลยุทธ์: เรามองว่าแม้จะมีแรงขายหุ้นหลังการทำ FTSE rebalancing ก็คงไม่น่าจะรุนแรง เนื่องจากบรรยากาศการลงทุนค่อยๆ ดีขึ้นและหุ้นที่มีการทำ FTSE rebalancing เป็นหุ้นใหญ่เกรดเอ ที่ภาพใหญ่ของอุตสาหกรรมฟื้นตัว ขณะที่อัตราการทำกำไรในปีหน้าดีขึ้น แต่หากมีแรงขายเกิดขึ้นจริงก็น่าที่จะทำให้ ตลาดผันผวนได้ แต่คงเป็นช่วงสั้นๆ อย่างไรก็ตามข้อมูลล่าสุด อย่างตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐออกมาแย่กว่าคาด ส่งผลให้โอกาสการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ริบหรี่ลง ซึ่งน่าจะทำให้แนวโน้มตลาดหุ้นทั่วโลกในสัปดาห์หน้าค่อยๆ ปรับตัวขึ้นต่อ ในสัปดาห์หน้าคาดว่า ตลาดหุ้นในภูมิภาคจะผันผวนแรงทั้งเชิงบวกและลบ ขึ้นอยู่กับทิศทางการประชุม FOMC ว่าจะออกมาอย่างไร โดยมองว่าหากขึ้นดอกเบี้ยน่าจะเป็นจังหวะที่ต่างชาติอาจขายหุ้นออกบางส่วน เพราะมองต่อกันว่าดอกเบี้ยอาจจะขึ้นอีกครั้งในเดือน ธ.ค. แต่หากไม่ขึ้นทิศทางตลาดหุ้นไทยจะค่อยๆ ขยับขึ้นไปที่ระดับ 1500 จุด วันนี้มองทิศทางดัชนี SET อาจจะผันผวนบ้างแต่ไม่มาก โดยมีแนวโน้มขึ้นต่อ (Sideway up) จากแรงหนุนของดัชนีในภูมิภาค ราคาน้ำมันเริ่มยืนและแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศเพราะเป็นวันสุดท้ายที่จะมีการทำ FTSE rebalancing โดยแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติ ยังช่วยพยุงตลาดหรือดันตลาดได้ วันนี้มองแนวต้านที่ 1470-1475 จุดและแนวรับที่ 1458-1454 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร INTUCH ADVANC BCH HMPRO
Themes play :
CK : เราแนะนำ ซื้อเก็งกำไร CK โดยมีราคาเป้าหมาย 40 บาท ซึ่งจะเป็นผู้ได้ประโยชน์จากการเร่งใช้จ่ายของภาครัฐในโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ หลังเมื่อวานนี้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (ppp) เห็นชอบการปรับปรุงรายการโครงการภายใต้กิจการตามแผนยุทธศาสตร์การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2558-2562 (Project Pipeline) เพิ่มเติมจำนวน 7 โครงการ ผลจากการปรับปรุงดังกล่าว ทำให้มีโครงการที่อยู่ใน Project Pipeline รวมทั้งสิ้น 66 โครงการ มูลค่าวงเงินลงทุนเพิ่มขึ้นจาก 1,576,529.27 ล้านบาท เป็น 1,662,876.54 ล้านบาท นอกจากนี้ เราเชื่อว่า CK มีโอกาสชนะประมูลสัญญาบางฉบับของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก สีชมพูและสีเหลืองที่กำลังจะเปิดประมูล
ประเด็นในสัปดาห์
16 ก.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข CPI YoY เดือนส.ค. โดยตลาดคาด 1.00% จากเดือนก่อนหน้าที่ 0.80%
20 ก.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Housing Starts เดือนส.ค. โดยตลาดคาด 1.19 ล้านยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 1.211 ล้านยูนิต
20 ก.ย. : สหรัฐประกาศตัวเลข Building Permit เดือนส.ค. โดยตลาดคาด 1.173 ล้านยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 1.144 ล้านยูนิต
Fundamental Stock :
BCH : Company Note (คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย 12.80บาท)
Technical Pick:
SET Index มีแนวรับ 1450 จุด แนวต้าน 1480 จุด
Advanced Info Service (ADVANC TB; THB 160.50) - ซื้อ
Tipco Foods (TIPCO TB; THB 14.10) - ซื้อ
SET Index : ทดสอบแนวต้าน
Retail Research Team