- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 15 September 2016 17:15
- Hits: 1125
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment
ผันผวนต่อจากความไม่แน่นอนในเรื่องดอกเบี้ยสหรัฐฯ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบกดดันจากราคาพลังงานที่ลดลงต่อเนื่องรวมทั้งความไม่แน่นอนในการประชุมของเฟด ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -0.18%, 0.36%, -0.06%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ หลังผลผลิตภาคอุตฯ ของยูโรโซน หดตัวลง 1.1% ในเดือนก.ค. ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -0.08%, 0.12%, -0.39%, -0.05%
สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 1.32 ดอลลาร์ ปิดที่ 43.58 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 1.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 45.85 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง IEA ลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันในปีนี้และปีหน้าลง
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นสวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลง หลังตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงมาไปแรงกว่าภูมิภาคในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แนวโน้มตลาดหุ้นไทยอาจดีดกลับขึ้นมาเพื่อให้ใกล้เคียงกับภูมิภาค แต่เชื่อว่าความผันผวนของตลาดหุ้นไทยจะยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เมื่อดัชนีหุ้นไทยดีดกลับขึ้นไปประมาณหนึ่ง เนื่องจากการประชุมเฟดเดือนนี้มีความหมายอย่างมากที่เฟดอาจจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจจะยังไม่สอดคล้องกัน
แต่เมื่อพิจารณาจากเสียงของเจ้าหน้าที่เฟดที่อยู่ใน FOMC ที่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเสียงที่ไม่เห็นด้วยในอัตรา 4 : 2 เสียงนั้น มีแนวโน้มสูงมากที่เฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ย. แทนการปรับขึ้นในเดือนธ.ค. นี้ เนื่องจากความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อาจทำให้เกิดการผลิกผันขึ้นจนเฟดอาจไม่สามารถที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. นี้ มีความเป็นไปได้ที่ตลาดหุ้นโลกจะยังผันผวนต่อ กอปรกับราคาน้ำมันดิบที่ผันผวนและยังไม่มีจุดสูงใหม่ หลัง IEA ได้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันลงทั้งในปีนี้และปีหน้า และคาดว่าตลาดจะใช้เวลามากขึ้นในการปรับตัวสู่ระดับสมดุลในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2017 ซึ่งจะช้ากว่าคาดการณ์เดิมราว 6 เดือน กดดันให้ราคาน้ำมัน ซึ่งการซื้อขายน้ำมันดิบเมื่อคืนนี้ตลาดยังคงวิตกกังวลต่อประเด็นดังกล่าว แม้ว่า EIA จะระบุว่าสต๊อกน้ำมันดิบลดลง 5.59 แสนบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
ตรงข้ามกับที่ตลาดคาดจะเพิ่มขึ้น 3.8 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ปรับตัวลดลงในช่วงท้ายตลาด จากที่ทรงตัวอยู่ในแดนบวกไม่มากในช่วงครึ่งแรกของการซื้อขาย เนื่องจากนักลงทุนยังคงไม่แน่ใจในทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังเจ้าหน้าที่มีความคิดเห็นในเรื่องดอกเบี้ยไม่สอดคล้องกัน ทางด้านผลการประชุมกนง. เมื่อวานนี้มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม โดยเป็นการตรึงดอกเบี้ยต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 11 แต่ได้มีการปรับเพิ่มประมาณการณ์ GDP ปีนี้เป็น 3.2% จากคาดการณ์เดิมที่ 3.1% จากการบริโภคเอกชนไตรมาส 2 ที่ขยายตัวได้ดี โดยมีการปรับเพิ่มการบริโภคภาคเอกชนจากเดิมที่ขยายตัว 1.8% เป็น 2.7% แต่อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่เปราะบาง และการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญที่อาจทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวต่ำกว่าเป้าหมาย หรือจำนวนนักท่องเที่ยวที่อาจลดลง ส่วนประมาณการณ์สำหรับเศรษฐกิจไทยในปีหน้าคาดว่าจะขยายตัว 3.2% โดยมีปัจจัยบวกจากการลงทุนของรัฐบาลร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการเบิกจ่ายของภาครัฐ ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสกลับมาผันผวนได้อีกครั้ง เนื่องจากในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา ดัชนีได้มีการดีดกลับขึ้นมาพอสมควรแล้ว
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ดีดกลับไม่ข้ามแถว ๆ 1,460-1,470 จุด แนะนำ ขายเพื่อหวังผลซื้อกลับเมื่ออ่อนตัว
Saravut Tachochavalit, Analyst
TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754
EMAIL : [email protected]