- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 15 September 2016 17:12
- Hits: 1156
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ความกังวล
คาดหุ้นไทยวันนี้ขยับลงตามตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนและนักลงทุนน่าจะถือโอกาสทำกำไรหลังจากหุ้นไทยบวกไปถึง 2% ณ จุดหนึ่งเมื่อวาน ความไม่แน่นอนและสับสนเกี่ยวกับนโยบายของธนาคารหลักของโลกและราคาน้ำมันที่ร่วงแรงทำให้นักลงทุนวิตกกังวล ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ค่อนไปทางบวก ธปท. คงดอกเบี้ยแต่ปรับประมาณการอัตราเจริญเติบโตเศรษฐกิจปีนี้ขึ้นเล็กน้อยเป็น 3.2% โครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิที่รอกันมานานมูลค่า 5.5 หมื่น ลบ. เริ่มตอกเสาเข็มเมื่อวาน โครงการรถไฟไทย-จีนมาถึงการเจรจาขั้นสุดท้าย เรื่องเงื่อนไขการลงทุนและการเงิน
หุ้นเด่นวันนี้ : IRPC (ราคาปิด 4.76 บาท; NR; ราคาเป้าหมาย Bloomberg 5.60 บาท)
บมจ. ไออาร์พีซี เป็นหุ้นเด่นในวันนี้หลังจากราคาหุ้นปรับตัวลดลงจนให้ Valuation ในระดับที่น่าสนใจ ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานและมุมมองเชิงบวกของบริษัทฯ ไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยปัจจัยหนุนหลักจากการเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ของโครงการ UHV เมื่อปลายเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา โดยโครงการ UHV จะช่วยปรับปรุงค่าการกลั่นและ Utilization rate ให้สูงขึ้นเนื่องจากจะช่วยเปลี่ยนน้ำมันเตาในกระบวนการกลั่นมากกว่าครึ่งที่มีมูลค่าต่ำเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงขึ้น นอกเหนือไปจากการช่วยเพิ่มการผลิต Propylene ของบริษัทฯ ซึ่งจะเป็นการสร้างฐานกำไรใหม่ให้กับ IRPC ในระยะยาวรวมถึงหนุน ROE ให้สูงขึ้น ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังจะถูกขับเคลื่อนโดยโครงการ UHV ข้างต้น ก่อนที่จะรับรู้ประโยชน์อย่างเต็มที่ในปีหน้า ขณะที่ในระยะสั้นคาด IRPC ยังจะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของค่าการกลั่นตลาดในภูมิภาคในทุกๆ ผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป จากแนวโน้มจุดต่ำสุดเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา จากประมาณการกำไรของ Bloomberg consensus คาด EPS ปีนี้เติบโต 11% YoY มาอยู่ที่ 0.51 บาท ก่อนจะขยายตัวต่อเนื่องอีก 3% ในปีหน้าจากฐานกำไรที่สูงมาอยู่ที่ 0.53 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันยังน่าสนใจโดยซื้อขายที่ PBV ปี 2559 ที่ต่ำเพียง 1.2 เท่า พร้อมทั้งอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอีกราว 4.5-5.0% ต่อปี ในส่วนของ Price Pattern ของ IRPC ได้กลับมาเกิดความแข็งแกร่งระยะสั้นครั้งใหม่จากการเกิด Daily Buy Signal แต่ยังถูกกดดันจากความอ่อนแอในระยะกลางจากการเกิด Weekly Sell Signal อยู่ ทั้งนี้ Price Pattern ของ IRPC ยังคงมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิด Monthly Buy Signal ซึ่งการกลับมาเกิดความแข็งแกร่งระยะสั้นครั้งใหม่ของ IRPC นั้นบ่งบอกว่าการปรับฐานระยะสั้นน่าจะจบแล้ว รอเพียงการแกว่งตัวอีกสักพักเพื่อให้กลับมาเกิด Weekly Buy Signal ครั้งใหม่นั่นเอง ทั้งนี้เมื่อพิจารณา Price Pattern ของ IRPC มีเป้าหมายแรกอยู่ที่ 5.20 บาท โดย IRPC มีจุด Stop Loss ระยะสั้นรอบนี้อยู่ที่ 4.64 บาท (แนวต้าน: 4.80, 4.84, 4.88; แนวรับ: 4.74, 4.70, 4.66)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
กนง. คงดอกเบี้ยนโยบาย, ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ปีนี้เล็กน้อย ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วานนี้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปีติดต่อกันเป็นครั้งที่ 11 ตามที่ตลาดคาดการณ์ โดยประเมินว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้อัตราดอกเบี้ยนโยบายถูกตรึงไว้ที่ระดับ 1.50% นับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2558 ขณะเดียวกัน กนง. ปรับเพิ่มประมาณการการเติบโตของ GDP ปีนี้เล็กน้อยเป็น 3.2% จากเดิมที่ 3.1% หลังจากที่การบริโภคภาคเอกชนในไตรมาส 2 สูงกว่าคาด ขณะที่ยังคงประมาณการการเติบโตของ GDP ปีหน้าไว้อยู่ที่ 3.2% (กนง./Bangkok Post)
โครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 เริ่มเดินหน้า: วานนี้มีพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 ซึ่งนายนิตินัย ศิริสมรรถการ ผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) กล่าวว่าโครงการดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนรวมของ 55,000 ล้านบาท รองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นจาก 45 ล้านคน เป็น 60 ล้านคนต่อปี สัญญาก่อสร้างส่วนที่เหลือจะเปิดประมูลในเดือน ต.ค.นี้อีก และจะเซ็นต์ให้ครบทั้ง 7 สัญญา ภายใน ก.พ.60 โครงการทั้งหมดคาดแล้วเสร็จใน (บางกอกโพสต์) ความเห็น: สัญญาแรกมูลค่า 12,000 ล้านบาท กำหนดเสร็จ 780 วัน ได้เซ็นต์สัญญากับ ITDไปเมื่อ 25 ส.ค.นี้ โดย ITD เป็นผู้เสนอราคาประมูลต่ำสุด สำหรับงานอาคารรองรับผู้โดยสาร ทางวิ่ง ลานจอด และสาธารณูปโภคต่าง ๆ ส่วนอีกสัญญามี หจก.สามประสิทธิ์เสนองานประมูลต่ำสุดราว 2,000 ล้านบาท กำหนดเสร็จ 990 วัน โครงการดังกล่าวมีแผนจะเริ่มตั้งแต่ปี 2554 แต่ล่าช้ามาราว 6 ปี ขณะนี้เพิ่งเปิดประมูลไปได้สองสัญญา คาดว่าสัญญาที่เหลือจะเปิดประมูล ต.ค.59 และเริ่มงานก่อสร้างได้ราว ก.พ.60
โครงการรถไฟไทยจีนกลับมาเดินหน้า รองนายกฯ ประจินกล่าวว่าการก่อสร้างเฟสแรกของโครงการรถไฟความเร็วสูงน่าจะเริ่มได้ในไตรมาส 2-3 ปีหน้าเพราะการเจรจาทวิภาคีระหว่างรัฐบาลสองประเทศได้ข้อสรุปแล้วโดยเฉพาะเรื่องต้นทุนการลงทุน ขณะเดียวกันคณะกรรมการการรถไฟไทยก็ได้เห็นชอบการแก้งบประเมาณลงทุนของโครงการเพื่อตอบสนองการเจรจาล่าสุดระหว่างไทยและจีนก่อนที่จะเสนอให้ ครม.ในลำดับถัดไป (Bangkok Post)
ต่างประเทศ
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนเมื่อวันพุธ แม้ว่าการอ่อนตัวลงของราคาพันธบัตรลดลงหลังจากการเทขายอย่างหนักเมื่อวันอังคารส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือนก็ตาม ช่องว่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 5 ปีกับพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีกว้างขึ้นถึง 125 bps เมื่อวันพุธ ซึ่งเป็นเส้นแสดงผลตอบแทนพันธบัตรที่ชันมากที่สุดนับแต่วันที่ 1 ก.ค. (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเทียบกับเงินเยนหลังจากแข็งค่าขึ้นมา 8 วันเมื่อวันพุธ หลังจากมีความวิตกกังวลเพิ่มขึ้นว่าบีโอเจจะกระชับนโยบายผ่อนคลายการเงินในสัปดาห์หน้า ในขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของเฟดในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลกระทบต่อดอลลาร์สหรัฐเทียบกับสกุลเงินอื่น ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในช่วงต้นของการซื้อขายที่ 103.34 เยนและล่าสุดปิดเพิ่มขึ้นเพียง 0.05% เทียบกับเงินเยนที่ระดับ 102.58 เยน ส่วนเงินยูโรปิดเพิ่มขึ้น 0.26% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1246 ดอลลาร์สหรัฐ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐล่าสุดปิดลดลง 0.32% อยู่ที่ระดับ 95.331 จุด (Reuters)
สหรัฐ :
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงเมื่อวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและราคาน้ำมันที่ลดลงได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานถึงแม้ว่าราคาหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้นสูงสุดในปีนี้ การคาดเดาเกี่ยวกับกรอบเวลาของการขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไปของเฟดได้ก่อความผันผวนแก่ตลาด ท่ามกลางความเห็นที่ขัดแย้งกันของเหล่าเจ้าหน้าที่เฟด (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพุธอ่อนตัวลงเล็กน้อย หลังจากก่อนหน้านี้มีการฟื้นตัวในช่วงแรกระหว่างการซื้อขาย การปรับตัวลดลงดังกล่าวนำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ รวมไปถึงแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ทั้งนี้หุ้น Bayer ปรับตัวสูงขึ้นโดดเด่นหลังจากตัดสินใจที่จะเข้าซื้อหุ้น Monsanto ซึ่งคิดเป็นดีลมูลค่ากว่า 6.6 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ (Reuters)
เอเชีย :
ความเชื่อมั่นผู้ผลิตญี่ปุ่นฟื้นตัว หลังจากตกต่ำสุดในรอบสามปี ขณะที่ความเชื่อมั่นในภาคบริการแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ ปี 2556 เมื่อ BOJ เริ่มเน้นการกระตุ้นทางการเงิน ผลสำรวจของรอยเตอร์แสดงให้เห็นว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เปราะบางยังไม่ถูกให้น้ำหนักต่อความเชื่อมั่น อย่างไรก็ตามการสำรวจยังพบว่าความเชื่อมั่นทั้งผู้ผลิตและไม่ใช่ผู้ผลิต คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในเดือน ธ.ค.(Reuters)
โฆษกรัฐบาลของญี่ปุ่น Yoshihide Suga กล่าวในวันพุธที่ผ่านมาว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ติดลบของ BOJ มีผลกระทบในเชิงบวกบางประการต่อเศรษฐกิจ จะมีการประชุม BOJ เพื่อทบทวนอัตราในสัปดาห์หน้า เพื่อดำเนินการประเมินที่ครอบคลุมของนโยบายที่รวมอัตราดอกเบี้ยติดลบกับโปรแกรมสินทรัพย์ซื้อขนาดใหญ่เข้าด้วยกัน (Reuters)
ตลาดการเงินจีนจะปิดทำการ ตั้งแต่วันที่ 15-18 ก.ย. เนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์ และจะกลับมาเปิดทำการในวันจันทร์ที่ 19 ก.ย. (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันร่วงถึง 3% เป็นวันที่สองติดต่อกัน ในวันพุธ หลังจากตัวเลขชี้ว่าผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมสหรัฐในคลังเพิ่มขึ้นมากรายสัปดาห์หักล้างผลของการถอนใช้สต็อก Brent ลบ 1.25 ดอลลาร์ (-2.7%) ปิดที่ 45.85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าลบ 1.32 ดอลลาร์ (-2.9%) ปิดที่ 43.58 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
สต็อกน้ำมันสำเร็จรูป เช่น ดีเซลและน้ำมันเตา เพิ่มขึ้น 4.6 ล้านบาร์เรลสำหรับสัปดาห์สิ้นสุด 9 ก.ย. จากรายงานของ US EIA นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มเพียงแค่ 1.5 ล้านบาร์เรล โดยเป็นการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์ที่มากสุดนับแต่ ม.ค. ทำให้น้ำมันสำเร็จรูปแตะจุดสูงสุดรอบ 6 ปี สต็อกเบนซินก็เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดแต่สต็อกน้ำมันดิบร่วงลง 559,000 บาร์เรล นักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่ม 3.8 ล้านบาร์เรล
ทองคำบวกวันพุธ กลับมาบวกได้หลังลบไปห้าวันเพราะดอลลาร์อ่อนค่าเทียบตะกร้าเงิน โดยตลาดรอนัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับช่วงเวลาที่สหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ย ราคาทองคำตลาดจรเพิ่มขึ้น 0.4% ปิดที่ 1,323.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคำสหรัฐล่วงหน้าส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับขึ้น 0.18% ปิด 1,326.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Reuters)
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) Tel: 02 680 5041
Mr. Krit Suwanpibul (No.17968) Tel: 02 680 5090
Mrs. Vajiralux Sanglerdsillapachai (No. 17385) Tel: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) Tel: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun, CFA, FRM (No.49234) Tel: 02 680 5094
---------------------------------------