- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 15 September 2016 17:07
- Hits: 716
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1480 เป้าหมายของการฟื้นตัว 1500
SET Index: 1464.40 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาเคลื่อนไหวเหนือระดับ 1460 จุดหลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านที่ 1450 จุด ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1480-1490 จุด แต่ถ้าเราพิจารณาสัดส่วนของการปรับฐานหลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคหลุดแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้นลงไป การฟื้นตัวทางเทคนิคจะมีเป้าหมายในการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปที่ 1500 จุดที่ระดับ 61.80% ของการปรับตัวลดลงจากระดับ 1555 ไปทดสอบ 1410 จุด และเป็นแนวต้านของเส้นแนวโน้มขาขึ้นเดิม
แนวต้าน : 1470 และ 1474
แนวรับ : 1460 และ 1458
JAS = 6.40 / 6.50, CBG = 65.00 / 67.00, ADVANC = 160 / 162, KBANK = 188 / 190, SCC = 524 / 528
WHA Corporation (WHA TB; THB 3.24) - ซื้อ
แนวต้าน : 3.40 และ 3.60
แนวรับ : 3.24 และ 3.20
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น และเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มขึ้น RSI ฟื้นตัวเข้าใกล้ระดับ 50
แนะนำซื้อ WHA โดยมีแนวรับที่ 3.24 และ 3.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.40 และ 3.60 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.10 ลงไป
Internet Thailand (INET TB; THB 4.14) - ซื้อ
แนวต้าน : 4.50 และ 4.70
แนวรับ : 4.14 และ 4.10
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น และเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ฟื้นตัวเข้าใกล้ระดับ 40
แนะนำซื้อ INET โดยมีแนวรับที่ 4.14 และ 4.10 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.50 และ 4.70 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.96 ลงไป
SET50 Index Futures
S50U16 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 930 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวโน้มลงที่ 925 ขึ้นมาได้ ซึ่งเราแนะนำให้กลับเข้าไป Open Long ที่บริเวณ 925 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 940 ในขณะที่โครงสร้างของการฟื้นตัวมีเป้าหมายขึ้นไปที่ 952 ที่ระดับ 61.80%
แนวต้าน : 930 และ 934
แนวรับ : 928 และ 926
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน S50U16 ที่แนวรับ 925-926 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 940
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า S50U16 ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 922 ลงไป
JASU16
เคลื่อนไหวในกรอบแคบจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 6.15-6.20 ขึ้นไป ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.20 และ 7.70 โดยมีแนวรับสำคัญที่ 6.00 ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค
แนวต้าน : 6.70 และ 6.80
แนวรับ : 6.40 และ 6.25
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน JASU16 ที่แนวรับ 6.40 และ 6.25 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.00 และ 7.20
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า JASU16 ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 6.00 ลงไป
BLANDU16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคที่บริเวณแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงต่อเนื่องค่อนข้างแรงที่บริเวณ 1.80-1.84 แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.66 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1.70 และ 1.74
แนวต้าน : 1.66 และ 1.70
แนวรับ : 1.62 และ 1.60
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน BLANDU16 ที่แนวรับ 1.62 และ 1.60 เพื่อคาดหวังการฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1.66 และ 1.70
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า BLANDU16 ปิดต่ำกว่าระดับ 1.56 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ดีขึ้นต่อเนื่อง
ดัชนี SET ตอนนี้ขึ้นมาที่ระดับใกล้ 1460 จุด จากจุดต่ำที่ 1410 จุด จากแรงซื้ออย่างต่อเนื่องของนักลงทุนต่างประเทศและการหยุดขายของกองทุนในประเทศ จากการคลายความกังวลของปัจจัยภายใน แม้จะมีแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก อย่างแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ แต่ดัชนีก็สามารถขึ้นได้ จากก่อนหน้านี้ดัชนีได้ลงไปค่อนข้างลึก ดังนั้นประเด็นที่ต้องจับตาดูกันต่อ คือการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งจะมีผลต่อการประชุม FOMC ในวันที่ 20-21 ก.ย. นี้
การดีดตัวของดัชนี SET ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นใหญ่ในกลุ่มหลักที่ลงไปลึกและหุ้นที่คาดจะมีการทำ FTSE rebalancing ซึ่งจะมีผลบังคับในวันที่ 19 ก.ย. นี้ ส่วนหุ้นขนาดกลางและเล็ก การดีดตัวยังไม่มาก เรามองว่าการรีบาวน์ของดัชนี SET ในรอบนี้น่าจะอยู่ในระดับ 2 ใน 3 หรือประมาณ 5-6% หลังจากที่ลงมาทั้งหมดประมาณ 8.3% จากเดิมก่อนหน้านี้เรามองจะอยู่ที่ประมาณ 3-4% เนื่องจาก ดูๆ แล้วตอนนี้ปัจจัยกดดันทั้งในและต่างประเทศ ตลาดรับข่าวไปมากพอแล้วและที่สำคัญแรงซื้อของต่างชาติยังอยู่ในระดับไม่แผ่วมาก
ประเด็นหรือปัจจัยที่คาดว่าจะเป็นตัวหนุนดัชนี ในช่วงปลายเดือน คือ การทำ preview งบ Q3/16 ของหุ้นสถาบันการเงิน และแนวโน้มการทำปิดงบรายไตรมาส ส่วนการประชุม FOMC ในสัปดาห์หน้า คาดโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยยังต่ำ แต่หากมี surprise คือ ขึ้นดอกเบี้ยก็ไม่น่าจะส่งผลต่อตลาดมากนัก เนื่องจากก่อนหน้านี้ตลาดลงรับข่าวไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม หากไม่ขึ้น ก็น่าจะเชื่อได้ว่าตลาดจะค่อยๆ วิ่งขึ้นต่อ
กลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าจะคึกคักขึ้นในช่วงปลายเดือน คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ (Preview งบ Q3/16) ตามมาด้วยพลังงาน-ปิโตรเคมี (ราคาน้ำมันจะเริ่มผันผวนตามการประชุม OPEC ในวันที่ 26-28 ก.ย.) และที่โยงท่องเที่ยว (กำลังเข้าสู่ช่วงฤดูการท่องเที่ยว) อย่างไรก็ตามการที่ BOT ได้ปรับลดประมาณการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวในปีนี้ลง 400,000 คน เหลือ 33.6 ล้านคน จากการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจากจีน น่าจะส่งผลต่อหุ้นในกลุ่มนี้บ้างแต่คงไม่มาก แต่กลับไปปรับเพิ่มประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้เพิ่มขึ้นจาก 3.1% เป็น 3.2%
ช่วง 3 วันที่ผ่านมา พบว่าเริ่มมีแรงซื้อคืนหุ้นในกลุ่มหลัก อย่าง โรงพยาบาล ธนาคารพาณิชย์ ปิโตรเคมี และ อาหาร โดยหุ้นในกลุ่มเหล่านี้ปรับตัวขึ้นมามากกว่า 4% ขณะที่กลุ่มพลังงานและสื่อสารถือว่าขึ้นได้น้อยเพียง 2.8% เราจึงมองว่า 2 กลุ่มนี้ราคาหุ้นน่าจะดีดตัวได้หลังจากนี้ (ดูรูปด้านซ้าย) สำหรับหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ขึ้นแรงมากกว่า 5% นำโดย SCB KTB และ KBANK (ดูรูปด้านขวา)
วันนี้มองทิศทางดัชนี SET จะเริ่มแกว่งตัวในกรอบที่แคบลงและอาจมีแรงขายทำกำไรหุ้นออกมาบ้างหลังขึ้นมาแรงในช่วง 3 วันที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติน่าจะยังหนุนตลาดได้ ซึ่งจะทำให้ดัชนี SET แกว่งตัวในลักษณะ Sideway up ส่วนการประชุม กนง. เมื่อวานนี้ทางที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่เดิม 1.50% โดยหลังจากนี้ก่อนสิ้นปี จะมีการประชุม กนง. เหลืออีก 2 ครั้ง วันนี้มองแนวต้านที่ 1465-1470 จุด ส่วนแนวรับที่ 1452-1448 จุด กลุ่มที่น่าสนใจยังให้เน้นไปที่หุ้นธนาคาร (KBANK SCB KTB) พลังงานใหญ่ (PTT) CPN และ CBG
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,464.40 จุด เพิ่มขึ้น 6.21 จุด (+0.43%) มูลค่าการซื้อขาย 23,322.74 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นในกรอบ โดยยังมีแรงซื้อในกลุ่มสื่อสาร ขณะที่มีแรงขายทำกำไรในกลุ่มธนาคาร ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ นักลงทุนยังกังวลแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังเจ้าหน้าที่ระดับสูงออกมาแสดงความเห็นที่ไม่สอดคล้องกัน ติดตามการประชุม BoE (คืนนี้)
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดบ่าย ผันผวน เริ่มเห็นแรงขายในหุ้นกลุ่มธนาคารออกมาต่อเนื่องหลังจากปรับตัวขึ้นนำตลาดมาในช่วง 3 วันที่ผ่านมา ประกอบกับแรงซื้อในกลุ่มหุ้นที่จะเข้าคำนวณดัชนี FTSE เริ่มชะลอตัวลง ทำให้ระยะสั้นเรามองว่าเป็นไปได่สูงที่ SET อาจจะถูกขายทำกำไรอีกครั้ง หากการดีดตัวขึ้นในรอบนี้ไม่สามารถกลับไปยืนเหนือระดับ 1470 จุด โดยมองการปรับตัวลงแนวรับแรกที่ 1440 จุด ซึ่งเป็นเส้น 200 วัน ระยะสั้นตลาดยังให้น้ำหนักไปที่เรื่องการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า โดยเราให้จับตาดูค่าเงินบาทหากอ่อนตัวเกิน 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ จะยืนยันสัญญาณการปรับฐานใหญ่ของ SET ที่ชัดเจน โดยกลยุทธ์ช่วงนี้ยังเน้นไปที่การขายในจังหวะที่ SET รีบาวน์เกินระดับ1455 -1468 จุด และไปรอซื้อกลับ1415 -1440 จุด
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
WHA Corporation (WHA TB; THB 3.24) - ซื้อ
Internet Thailand (INET TB; THB 4.14) - ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : CBG*, COM7* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]
