- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 14 September 2016 18:28
- Hits: 1050
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : ITEL (FirstDayTrade), TPCH
Our Portfolio Sep 2016 : ARROW, BCH, BJC, BLA, KTC
แม้ SET ยังผันผวนได้ แต่ก็ลุ้นทรงตัวเพื่อขึ้นต่อ ดังนั้นซื้อแล้วเน้นถือ
ตลาดหุ้นวานนี้ : สถาบันในประเทศพลิกกลับมามียอดซื้อสุทธิบ้าง ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศยังซื้อสุทธิสูงต่อเนื่อง หลังนักลงทุนคลายวิตกเกี่ยวกับโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า(20-21 ก.ย.) ลงบ้างส่งผลให้ SET รีบาวด์กลับมาแกว่งตัวด้านบวกและปิดบวกไปกว่า 30 จุด
แนวโน้มตลาดวันนี้ : บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศกลับมากดดันอีกครั้ง หลังจากเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวลงกว่า 1% เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดขณะที่เข้าสู่ช่วงที่เจ้าหน้าที่เฟดจะไม่สามารถออกมาแสดงความคิดเห็นในช่วง1 สัปดาห์ก่อนการประชุม รวมทั้งยังถูกกดดันจากการร่วงลงกว่า 3% ของราคาน้ำมันดิบโลก หลัง IEA ออกมาระบุว่า การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันยังอยู่ในอัตราที่ต่ำกว่าคาดการณ์ด้วย ทำให้ FSS คาดว่า SET ยังมีสิทธิแกว่งตัวผันผวนได้อีก อย่างไรก็ตามจากสถิติของตลาดหลังการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐในอดีต 3 ครั้งที่ผ่านมา จะส่งผลกระทบต่อตลาดเพียงระยะสั้นและdownside ไม่มาก เราจึงยังลุ้นโอกาสบวกต่อในช่วงถัดไปได้
กลยุทธ์ : เนื่องจาก FSS ยังคาดว่า SET มีสิทธิแกว่งไต่ระดับขึ้นหาระดับดัชนีเป้าหมายตามพื้นฐานที่ประเมินไว้ของปีนี้ที่ 1650 จุดได้ในช่วงท้ายปี ดังนั้นตลาดปรับลงจึงยังเป็นโอกาสในการซื้อ แล้วเน้นถือเพื่อรอรอบบวกใหญ่ต่อไป
แนวรับ 1445-1440 , 1435-1430 จุด
แนวต้าน 1450-1453 , 1458-1460 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BA, MAJOR , TTA(short)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนกลับมาไหลเข้าภูมิภาคเป็นวันแรกในรอบ 4วัน ที่ US$136ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$285ล้าน และไทย US$119ล้าน(เป็นการไหลเข้าติดต่อกัน 5 วัน) ขณะที่ไหลออกไต้หวัน US$223ล้าน และอินโดนีเซีย US$29ล้าน ตลาดยังคงมีความกังวลต่อผลการประชุม Fed ที่จะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้ กระแสเงินทุนจึงน่าจะชะลอการไหลเข้าจนกว่าจะเห็นความชัดเจน
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
• (+) ITEL เป็นผู้ให้บริการเช่าโครงข่ายเคเบิ้ลใยแก้วนำแสง มีโครงข่ายครอบคลุม 75จังหวัดทั่วประเทศทั้งตามแนวเส้นทางรถไฟและเส้นถนน ซึ่งทำให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และให้บริการติดตั้งโครงข่ายโทรคมนาคม และให้บริการ Data centerลูกค้ากระจายอยู่ในกลุ่มธุรกิจให้บริการโทรคมฯ ธุรกิจถ่ายทอดวิทยุโทรทัศน์ ภาครัฐและเอกชน ITEL ผ่านช่วงลงทุนหนักทั้งโครงข่ายหลักและ Data center ไปแล้ว หลังจากนี้เหลือเพียงลงทุน Last mile ขยายวงจรเช่าและ Data center แห่งที่ 2 (ร่วมทุนกับ AITและ WHA) เราคาดกำไรปี 2016 +135% และโตต่อเฉลี่ย 47% ต่อปีในปี 2017-19 เราประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2017 ที่ 7.80 บาท (DCF) (FSS เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ ITEL)
• (+) TPCH จากงาน Opp Day วานนี้ เรายังมีมุมมองเชิงบวก และคงคำแนะนำซื้อ จากแนวโน้มกำไรที่จะทำ new high ต่อเนื่องใน 3Q16-4Q16 และเป็นขาขึ้นตลอดช่วง 3 ปีข้างหน้า โดยคาดกำไรโตสูงเฉลี่ย 135% ต่อปีในปี 2016-18 เพราะทยอยรับรู้รายได้ขายไฟจากโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลใหม่ 5 โรง จากปีก่อนที่มีโรงไฟฟ้าดำเนินการแล้ว 2 โรงบริษัทยังคงเป้าขยายกำลังผลิตไฟฟ้าเป็น 150MW ภายในปี 2018 จากปัจจุบันที่ได้ PPAแล้ว 86MW คาดได้เพิ่มอีก 33MW ภายในปีนี้ เราปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปีหน้าที่ 23 บาท
• (0) ระมัดระวังกลุ่มไก่มากขึ้น แม้ว่าราคาหุ้น CPF, GFPT จะยังมี upside จากราคาเป้าหมายของเรา (TFG ราคาเต็มมูลค่าแล้ว) แต่ราคาไก่ล่าสุดที่ลดลงมาอยู่ที่ 39-40บาท/กก. จากกลาง ส.ค. ที่ปรับขึ้นแรงที่ 44 บาท/กก. และมีแนวโน้มขยับลงได้อีก จากdemand ในประเทศที่ชะลอเพราะกำลังเข้าสู่ช่วงเทศกาลกินเจในเดือน ต.ค. และปี 2017มีความเสี่ยงเรื่อง Oversupply เราคาดว่ากำไรที่ดีที่สุดของกลุ่มกำลังจะผ่านไปใน 3Q16แม้ว่าคำแนะนำจะยังเป็นซื้อ CPF (ราคาเป้าหมายปีหน้า 38 บาท) และ GFPT (ราคาเป้าหมายปีหน้า 17.70 บาท) แต่เราเริ่มชอบกลุ่มไก่น้อยลง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
14 ก.ย. - ไทย: กนง.ประชุม (ตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%)
15 ก.ย. - อังกฤษ: BOE ประชุม
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
- สหรัฐ: ยอดค้าปลีก (ส.ค.)
14-16 ก.ย. - ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดทำการเนื่องในวัน Harvest Moon Day
15-16 ก.ย. - ตลาดหุ้นจีนและไต้หวันปิดทำการ
16 ก.ย. - FSTE 2016 Semi-Annual Review (เพิ่ม KBANK, SCC, GPSC,VIBHA, IMPACT และเอาออก THRE)
- ตลาดหุ้นฮ่องกงและมาเลเซีย ปิดทำการ
- สหรัฐ: อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
20-21 ก.ย. - สหรัฐ: FOMC ประชุม
20 ก.ย. - ไทย: ยอดขายรถ (ส.ค.)
- สหรัฐ: Housing starts, Building permits (ส.ค.)
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาพลิกกลับมาปิดลบกว่า 1% โดยนักลงทุนลดความเสี่ยงเนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้หรือไม่หลังเจ้าหน้าที่ FED มีความเห็นไม่สอดคล้องกัน
(-) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมายังปิดในแดนลบต่อเนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับลง รวมถึงแรงกดดันจากการประชุม FED เดือนนี้ที่มีโอกาสปรับขึ้นดอกเบี้ย
(-) ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนลบจากบรรยากาศการลงทุนที่ไม่สดใสนัก
(0) ค่าเงินบาทแกว่งตัวออกข้างค่อนมาในทางอ่อนค่า ล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.82-34.96 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ลดลง 1.39 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 44.90 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง iEA ระบุว่าการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันจะอยู่ในระดับต่ำกว่าที่คาด
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ลดลง 1.90 ดอลลาร์/ออนซ์มาอยู่ที่ 1,323.7 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 5 จากดอลลาร์ที่แข็งค่าและโอกาสที่ FED จะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research