- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 12 September 2016 18:15
- Hits: 2837
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
มีโอกาสปรับลงต่อและยังผันผวน? จากความกังวลทั้งจากปัจจัยภายในประเทศและต่างประเทศ โดยปัจจัยต่างประเทศมาจากการส่งสัญญาณของการดอกเบี้ยของคณะกรรมการ FOMC ในรอบการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. นี้ อย่างไรก็ตามในประเด็นนี้เราอยากจะแนะให้ติดตามการกล่าวสุนทรพจน์ของนางBrainard ในวันอังคารตามเวลาไทย หากมีการส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยก็จะกระทบต่อ SET Index ในทิศทางลบ
ส่วนประเด็นในประเทศ ยังได้รับแรงกดดันจากข่าวลือในทางลบ ส่งผลให้เกิดการขายทำกำไรทั้งจากนักลงทุนสถาบันและบล. ถึงแม้จะมีการประชุมของ กนง ในวันพุธ.นี้ แต่คงไม่มีผลอะไรมากกับตลาดเนื่องส่วนใหญ่คาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% เหมื่อนเดิม
และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น เช่น IVL
(2) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น เช่น SCC และ VNG
(3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากยอดโอนในช่วงที่เหลือของปี 59 ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น ANAN, AP และ SPALI
(4) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐ เช่น CK, STEC
(5) กลุ่มพลังงาน ในขณะที่หุ้นหลักอย่างเช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ในขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี
(6) กลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL, HMPRO, KAMART และ ROBINS ที่คาดได้รับประโยชน์หลังรัฐบาลอัดฉีดกำลังซื้อรากหญ้าอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งจากโครงการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลเกษตรกร 3 โครงการวงเงิน 93,000 ล้านบาท
SET SET50 SET100
1,445.28 -10.10 921.48 -6.34 2,057.75 -15.65
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+/-) ตลาดหุ้นต่างประเทศ DJIA -394.46, NASDAQ -133.57, S&P -53.49, FTSE -81.75, CAC -50.80 และ DAX -101.85
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดปรับตัวลดลง 2% กว่า จากความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยของ FED หลังจากนายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟด สาขา บอสตัน ซึ่งเป็น 1 ใน 12 คณะกรรมการ FOMC ออกมาส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยของ FED สอดคล้องกับนางเจเน็ต เยลเลน ที่ออกมาแถลงก่อนหน้านี้ ทำให้นักวิเคราะห์ปรับเพิ่มน่าจะเป็นการขึ้นดอกเบี้ยของ FED ในการประชุม FOMC รอบวันที่ 20-21 ก.ย. นี้ จาก 18% เป็น 24%
ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกับทางฝั่งสหรัฐ จากการส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยของคณะกรรมการ FOMC ในเดือนนี้
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน ต.ค. -US$1.74 อยู่ที่ US$45.88 ต่อบาร์เรล หลังจากรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น 7 แท่น สู่ระดับ 414 แท่น เป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 10 และค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจากการส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยของคณะกรรมการ FOMC
อย่างไรก็ตามยังอยู่ระหว่างรอการประชุมของกลุ่มโอเปก ในวันที่ 26-28 ก.ย.นี้ ที่แอลจีเรีย ขณะที่การเจรจาหลายครั้งก่อนหน้านี้ของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันไม่ประสบความสำเร็จ
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน ธ.ค. -US$7.1 อยู่ที่ US$ 1,334.5 ต่อออนซ์ จากการแข็งค่าของดอลลาร์
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
21.2 1.84 3.28
ที่มา: www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย(ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 64,449.25
สถาบัน 419.17
บัญชีหลักทรัพย์ -254.64
ต่างประเทศ 424.54
ในประเทศ -589.07
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +424.54 ล้านบาท สะสม YTD +118,874 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,584 ล้านบาท และ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ)
ประเด็นที่ต้องติดตาม 12 - 16 ก.ย. 2559
12/9/59 : ประชุม ECB
สหรัฐฯ เปิดเผย
ตัวเลขสินเชื่อใหม่เดือน ส.ค. ของ จีน
สต็อกน้ำมัน
13/9/59 :
การกล่าวสุนทรพจน์ของนาง ⦁ Lael⦁ ⦁ Brainard คณะกรรมการ FOMC เกี่ยวทิศทางดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ในวันที่ 20-21 ก.ย. นี้
14/9/59 :
การประชุมของ กนง.
15/9/59 :
การประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ(BOE)
ยอดผู้ของรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐ
16/9/59 :
ตัวเลขเงินเฟ้อของเดือน ส.ค. ของสหรัฐ
(7) กลุ่มท่องเที่ยว เช่น โรงแรม (CENTEL, MINT, ERW) ที่คาดได้รับประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี’59 ที่คาด อยู่ที่ 33 ล้านคน เพิ่มจากประมาณการเดิมที่ 32.5 ล้านคน และคาดรายได้จากการท่องเที่ยว 1.69 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6%
(8) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจการบินและสนามบิน เช่น AAV, AOT
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี 0.0018 อยู่ที่ 1.67% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) ดัชนีความเสี่ยง (VIX) +4.99 อยู่ที่ 17.50
หุ้นแนะนำ : SYNEX
นักวิเคราะห์ : ประวิทย์ เจียวก๊ก โทร.02-684-8797