- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 09 September 2016 16:29
- Hits: 2679
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment
ต่างชาติยังซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยและเริ่มปิดสถานะ short
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบผิดหวังอีซีบีที่ไม่มีมาตรการกระตุ้นใหม่ๆออกมาโดยต้องการรอดูผลกระทบ Brexit ต่อไป ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -0.25%, -0.46%, -0.22%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบผิดหวังอีซีบีที่ไม่มีมาตรการกระตุ้นใหม่ๆออกมา โดยต้องการรอดูผลกระทบ Brexit ต่อไป ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -0.72%, 0.18%, -0.34%, 0.48%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 2.12 ดอลลาร์ปิดที่ 47.62 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 2.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.99 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลงมากกว่าคาดมาก
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวลงทำจุดต่ำใหม่ในสัปดาห์ สวงทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่แกว่งในกรอบแคบ ๆ โดยมีทั้งบวกและลบ หลังนักลงทุนเริ่มคลายกังวลต่อกระแสการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้นี้ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาหลาย ๆ ตัวต่ำกว่าคาด นอกจากนี้ตลาดยังรอดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่จะมีการประชุมในวันนี้ (8) ว่าจะมีมาตรการใด ๆ เพิ่มเติมหรือไม่ ในขณะที่ยอดส่งออกเดือนส.ค. ของจีนปรับเพิ่มขึ้น 5.9% YoY. ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้น 10.8% ทำให้จีนมียอดเกินดุลการค้าเดือนส.ค. ลดลง 5.1% สู่ระดับ 3.46 แสนล้านหยวน YoY. ซึ่งการนำเข้าจีนปรับตัวขึ้นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี
สะท้อนความต้องการภายในประเทศจีนที่เริ่มฟื้นตัว ส่วนหุ้นไทยปรับตัวลงสวนทางกับภูมิภาค โดยปรับตัวลงไปทำจุดต่ำใหม่ในระหว่างสัปดาห์ที่ระดับ 1,451 จุด เทียบกับจุดสูงเดือนก่อนหน้านี้ที่ระดับ 1,558 จุด เท่ากับปรับตัวลงมาราว 100 จุด ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสัญญาณทางเทคนิคในวันพุธที่ผ่านมามีการปิดที่จุดต่ำของวัน กอปรกับตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ ๆ และอยู่ในช่วงปลาย ๆ ของการขึ้นเครื่องหมาย XD แล้ว ทำให้เป็นเหตุให้มีแรงขายทำกำไรปรับตัวลงมาแรงกว่าตลาดอื่น ๆ ในภูมิภาค โดยเฉพาะถ้าเปรียบเทียบกับตลาดอินโดนีเซียแล้วตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงกว่าในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมา แต่ทางด้านนักลงทุนต่างประเทศยังซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง และแรงขายยังอยู่ที่ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ทางด้านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค. ที่สำรวจโดยม. หอการค้าไทยอยู่ที่ 73.2 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 62.2 ซึ่งปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 หลังผู้บริโภครับรู้การรับร่างรัฐธรรมนูญและคาดหวังการเมืองจะเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจโดยรวม ทางด้านผลประชุมอีซีบีได้คงมาตรการทางการเงินในระดับเดิมทั้งอัตราดอกเบี้ย และมาตรการซื้อสินทรัพย์ (QE) ที่จะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2560
โดยต้องการรอดูผลกระทบของ Brexit ให้มากกว่านี้ก่อน แต่ทางด้านประธานอีซีบีกล่าวว่า อาจมีการขยายระยะเวลาสิ้นสุดโครงการ QE ออกไปจากเดิม และอีซีบียังปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนปีหน้าลงจากคาดการณ์เดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 1.7% ลงมาอยู่ที่ 1.6% ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่า น่าจะมีโอกาสฟื้นตัวหลังนักลงทุนต่างประเทศยังคงเป็นผู้ซื้อสุทธิและมีการทยอยปิดสถานะ short SET50 Index Futures ที่เปิดค้างไว้ เราคาดว่าการที่หุ้นไทยปรับตัวลงแรงและเร็วจะเป็นโอกาสที่เขาจะปิดสถานะเพิ่มในฝั่ง short ส่วนการขายสุทธิของนักลงทุนสถาบันคาดว่าจะออกมาอีกไม่มากแล้ว เนื่องจากปัจจุบันตลาดหุ้นไทยเริ่มมี PE 15 เท่า เริ่มไม่แพง
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ไม่ต่ำกว่าแถว ๆ 1,490-1,480 จุด แนะนำ ซื้อเก็งก่ำไรหวังผลดีดกลับได้
Saravut Tachochavalit, Analyst
TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754
EMAIL : [email protected]