- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 06 September 2016 17:10
- Hits: 2967
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
เล่นรอบ-ซื้อคืน เริ่มจากกลุ่ม Global play ก่อน
Panic sell ช่วงเช้าเมื่อวาน กดให้ดัชนีัลงแรงผิดคาด หลุดแนวรับ 1,510 จุด คาดว่า ภายใน 5-7 วัน ถ้าไม่มีกระแสข่าวลบใหม่ๆ ดัชนีฯจะค่อยๆฟื้นตัวเหมือนกับ Panic sell เมื่อปลายปี 2014 คาดกลุ่มที่ Outperform ตลาดช่วง Panic sell ปี 2014 จะกลับมา Outperform อีกครั้ง ได้แก่ (1) สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น PTT BANPU TOP PTTGC (2) Utilities เช่น BEM BTS, กลุ่มโรงไฟฟ้า, โรงพยาบาล (พบผลตอบแทนช่วงหลังจาก ผ่านเหตุการณ์ Panic sell 15 ธค.ปี 2014 ไปแล้ว ราคาหุ้นฟื้นตัวและทำนิวไฮท์)
ส่วนกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนแย่กว่าดัชนีฯ ช่วง Panic sell ปี 2014 ได้แก่ กลุ่มบริโภคในประเทศ เช่น CPN CPALL BIGC CPF ธนาคารพาณิชย์ อสังหาริมทรัพย์ (ส่วนหนึ่งมาจาก Earning momentum ที่ไม่ดีอยู่แล้ว)
กลยุทธ์ระยะสั้น แนะ เริ่มทยอยซื้อคืน ภายใน 5-7 วันนี้ ถ้าไม่มีข่าวลบใหม่ และ ภายใต้เงื่อนไข ต้องไม่หลุดแนวรับ 1,480 -1,460 จุด แนะเริ่มซื้อคืน หุ้นในกลุ่ม Commodity และ Utilities (PTT TOP PTTGC BANPU BEM) ซึ่งคาดว่าจะกลับมา Outperform ตลาดเหมือนเหตุการณ์ Panic sell ปี 2014
ระยะสัปดาห์ การปรับฐานลงแรงเมื่อวานนี้ เปิดโอกาสให้เริ่มทยอยซื้อเล่นรอบได้ แนะเริ่มจากหุ้นกลุ่ม Global play แนวรับขยับลงเป็น 1,480 จุด (จากเดิม 1,510 จุด) แนวต้าน 1,505 จุด (ขยับลงจาก 1,535 จุด)
รายเดือน กย. คาดแรงซื้อต่างชาติ จะเริ่มชะลอลง จากการรอดูผลการประชุมเฟด และ BOJ 21 กย.นี้ บวกกับ Sell on fact หลังงบออก และขึ้น XD รับปันผล คาดว่าจะมีผลทำให้ดัชนีพักตัว ประเมินแนวรับใหม่ 1,480/1,460 จุด (จากเดิม 1,510 จุด) แนวต้าน 1,520 จุด (จากเดิม 1,575 จุด) กลยุทธ์แนะนำ รออ่อนตัวซื้อ สะสมหุ้นที่ กำไรผ่านจุดต่ำสุดใน 2Q16 และ กำไรจะเร่งตัวขึ้นใน 2H16
Morgan Stanley มองปลายปี PBOC, BOJ, ECB จะเพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ: คาดจีนยังไม่มีแนวโน้มลดดอกเบี้ยในเดือนนี้ แต่จะลด 0.25% ใน 4Q16 และ 2Q17, ส่วนญี่ปุ่นคาดว่าการประชุม 21 กย. ยังไม่เพิ่มมาตรการ QQE และเพิ่ม NIRP (ดอกเบี้ยติดลบ) โดยจะรอดู Key message ในการประเมินผลจากโครงการที่ออกไปก่อนหน้านี้ MS ยังคงมองว่ามีโอกาสที่ BOJ จะเพิ่ม QQE อีกครั้งใน 4Q16, ECB การประชุมเดือนนี้มีโอกาสขยายระยะเวลาซื้อ PSPP ออกไปจากเดิมสิ้นสุด มีค.17
หุ้นแนะนำวันนี้ PTT แนวรับ 330 บ. ต้าน 340/343 บ. EGCO แนวรับ 197.5 บ. ต้าน 204 บ.
รายงานพื้นฐาน BLS วันนี้
(+) BCP สรุปประเด็นจากการ Roadshow ผู้บริหารเน้นถึงแผนการเติบโตในมุมธุรกิจปั้มน้ำมัน และพลังงานทดแทน โดยตั้งเป้าหมายเปิดเพิ่มอีก 60 ปั้มในปีนี้ เป็น 1,132 ปั้ม (จาก 1,072 ปั้มเมื่อต้นปี) และเป้าหมาย 1,400 ปั้มในปี 2020 และเน้นไปที่ธุรกิจ non-oil ในปั้มน้ำมัน (ค้าปลีก) ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้สัดส่วน EBITDA เพิ่มสูงขึ้นจากเดิมที่มีสัดส่วนเพียง 10% เป็น 30% (และอีก 70% จาก oil) และการขายหุ้น IPO BCPG จะหนุนให้พลังงานทดแทนทั้งในและต่างประเทศมีกำลังการผลิตเติบโต จากเดิม 170MW มาเป็น 2015 เป็น 250MW - 400MW ใน 2016-17 และ1,000MW ใน 2020 ตามลำดับ เรามองว่า P/E ของ BCP ที่ 11 เท่า ในขณะที่ กำไรอย่างละ 1 ใน 3 มาจาก ธุรกิจปั้มน้ำมัน พลังงานทดแทน และ โรงกลั่น ซึ่งมีส่วนลดจาก ค่าเฉลี่ยกลุ่มปั้มน้ำมัน และ พลังงานทดแทน ที่เทรด 21 เท่า และ 18 เท่า ตามลำดับ คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 39 บาท
(+) กลุ่มปิโตรเคมี ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาปิโตรเคมีส่วนใหญ่ยังคงปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หนุนโดยอุปสงค์ในภูมิภาคที่แข็งแกร่งขึ้นและอุปทานที่ตึงตัว และ lag time ในการปรับราคา (เนื่องจากต้นทนวัตถุดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นนำไปแล้วก่อนหน้านี้) ปิโตรเคมีที่อยู่ภายใต้การวิเคราะห์ของเรา Propylene รายงานส่วนต่างราคาขยายตัวแข็งแกร่งที่สุด WoW โดยมีส่วนต่างราคา Ethylene ที่ปรับตัวได้ดีตามมา ในทางตรงกันข้าม PVC รายงานส่วนต่างราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด ตามมาด้วยส่วนต่างราคา Benzene เราคาดอุปสงค์ของปิโตรเคมีจะค่อยๆปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสนี้เนื่องจากกำลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นซึ่งราคาและส่วนต่างราคาส่วนใหญ่ของปิโตรเคมีมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น อีกทั้งได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่มีแนวโน้มตึงตัวเนื่องจากการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานโอเลฟินส์และกำลังการผลิต PX ใหม่ที่เลื่อนออกไปซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยสนับสนุนหลักสำหรับไตรมาส 3/59 แม้ราคาน้ำมันดิบจะมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากมีแรงกดดันจากอุปทานที่ล้นตลาด เรามองว่าราคาหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมีได้สะท้อนปัจจัยนี้แล้ว ทั้งนี้มูลค่าปัจจุบันบ่งชี้ถึง PBV ในช่วงที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ซึ่งใกล้เคียงกับมูลค่าหุ้นที่ซื้อขายในช่วงที่ราคาน้ำมันอ่อนตัวในอดีต
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+) TWZ ซุ่มเงียบดีลพลังงานทดแทน ด้านโครงการอสังหาริมทรัพย์ เดอะ เพเซอร์ พัทยา โกยยอดจองเกิน 50% (ที่มา ทันหุ้น)
(+) TACC AJD แจ็ค หม่า ผู้บริหาร Ali baba group พบนายกประยุทธ์ เผยพร้อมหนุนระบบขนส่ง SME ไทย ชี้สินค้าเด่น ของไทย ได้แก่ ทุเรียน ผลไม้ ข้าว ฯลฯ (ที่มา Bangkokbiznews) / TACC ส่งน้ำทุเรียน และมะม่วง ขายออนไลน์ผ่าน Ali baba, AJD เป็นตัวแทนผู้ให้บริการ Ali baba ในไทย
(*) MCOT ให้ อสมท.ส่งแผนเยียวยา ก่อนเลิกให้บริการช่องสัญญาณ (มักซ์) แก่ผู้เช่าช่องทีวี 3 ราย ที่เป็นลูกหนี้ (ที่มา คมชัดลึก) คาดข่าวนี้เป็นบวกต่อจิตวิทยาหุ้นกลุ่มทีวีอื่น เช่น WORK MONO BEC ฯลฯ จากคู่แข่งที่มีแนวโน้มลดลงอีก ส่วน MCOT คาดไม่กระทบมากเพราะมีตั้งสำรองหนี้ส่วนนี้ไปแล้วบางส่วน
(+) ARROW คาดสรุปพันธมิตรเข้าถือหุ้นบริษัทฯย่อยต้นปี 60 บุกธุรกิจ วางสายไฟใต้ดิน (ที่มา อินโฟเควส)
(+) ITD NWR CNT รอเซ็นรับงาน ก่อสร้างมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-โคราช และ เส้น บางใหญ่-กาญจนบุรี ภายใน 30 กย.นี้ (ที่มา บ้านเมือง/ ข่าวหุ้น)
(*) DSGT แจ้งตลาด North Haven Private Equity Asia Angel Co., Ltd. ทำคำเสนอซื้อหุ้นในราคา 5 บาท ช่วง 6 กย-10 ตค. ผู้ทำคำเสนอซื้อ จะเข้าถือหุ้นอย่างน้อย 23.46% ถึง 33.46% ด้วยเหตุนี้ อาจเสนอเพิกถอนออกจากตลาด ภายใน 12 เดือน นับจากสิ้นสุดระยะเวลาทำการเสนอซื้อได้ (ที่มา ตลท.)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เตือนนักลงทุนอย่าเชื่อข่าวลือ ไม่กระทบกำไร บจ. ขณะเดียวกันผู้จัดการกองทุนก็มีการซื้อหุ้นกลับเนื่องจากราคาปรับลงมามากและยังมั่นใจต่อทิศทางตลาดหุ้นในระยะกลางว่ายังคงเป็นขาขึ้น (ที่มา Bangkokbiznew)
(0) อังคาร US ISM ภาคบริการ สค. คาด 55.4 จาก 55.5, EU GDP 2Q16 3rd คาด 0.3% (คงที่), ไต้หวัน CPI สค. คาด 1% จาก 1.2% y-y, ธนาคารกลางออสเตรเลีย คาดคงดอกเบี้ย 1.5% (ที่มา Bloomberg)
(+) พุธ US Fed Beige Book รายงานภาวะเศรษฐกิจ เตรียมไว้สำหรับการประชุม 21 กย. รอบนี้จะมีรายงานเชิงศึกษา ผลกระทบจากการเลือกตั้งต่อผู้ประกอบการ นักเศรษฐศาสตร์ยังคงคาด เฟด ไม่ขึ้นดอกเบี้ยในเดือน กย., เยอรนี Industrial production กค. คาด +0.2% จาก 0.8% m-m, ญี่ปุ่น Economic coincident index, มาเลเซีย ส่งออก กค. คาด +3% จาก 3.4% y-y, ไต้หวัน ส่งออก สค. คาด -0.7% จาก +1.2% y-y, ธนาคารกลางมาเลเซีย คาดคงดอกเบี้ย 3% ออสเตรเลีย GDP 2Q16 คาด +0.4% จาก 1.1% q-q (ที่มา Bloomberg)
(+) พฤหัส ECB คาดคงดอกเบี้ย -0.4% และ ขยายเวลาซื้อสินทรัพย์ โครงการ PSPP (Public Sector Purchase Program) ออกไปจากเดิม ที่ สิ้นสุด มีค.2017, จีนรายงานส่งออกเดือน สค. คาด -4% จาก -4.4% y-y (ที่มา Bloomberg)
(0) ศุกร์ ธนาคารกลางเกาหลีใต้ คาดคงดอกเบี้ย 1.25% ฟิลิปปินส์ ส่งออกเดือน กค. คาด -11.2% จาก -11.4% y-y, จีน CPI สค. คาด +1.7% จาก 1.8% (ที่มา Bloomberg)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค