- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 06 September 2016 16:48
- Hits: 1635
บล.ทรีนีตี้ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Market Summary
Closed +/- %Chg
SET 1,492.52 - 28.96 - 1.90
SET50 949.11 - 15.33 - 1.59
SET100 2,128.01 - 40.32 - 1.86
Mai 566.57 - 24.52 - 4.15
Dow Jones 18,491.96 +72.66 +0.39
Nasdaq 5,249.90 +22.69 +0.43
Nikkei 17,037.63 + 111.95 + 0.66
Hang Seng 23,649.55 + 382.85 + 1.65
SET Mkt. Cap (Btmn) 14,425.25
SET Turnover (Btmn) 83,879.90
PER(x) 21.92
Stock S R Comment
AAV 6.90 7.30 เริ่มเข้า High Season ท่องเที่ยวจีนคึกคัก
CPN 56.75 59.00 ลุยลงทุน1.4หมื่นล. ผลงานครึ่งหลังโต14%
SCI 9.50 10.20 คาดไตรมาส 3 พลิกกำไร รอเซนงานหมื่นล้าน
TFG 4.66 5.15 รายได้ทุบสถิติใหม่ มั่นใจล้างขาดทุนเกลี้ยง
Stick with valuation
SET Index ปรับตัวลงรุนแรงสวนทางตลาดหุ้นทั่วโลกหลังไม่สามารถยืนอยู่ในระดับ Valuation ที่สูงได้ อย่างไรก็ดีดัชนีสามารถประคับประคองอยู่เหนือแนวรับของเราเดือนนี้ที่ 1480 จุด
ต้องยอมรับว่าการปรับตัวลงของดัชนีในรอบนี้เกิดจากการขายสุทธิของนักลงทุนสถาบันภายในประเทศเป็นหลัก (7,200 ล้านบาทภายใน 2 วันทำการ) ซึ่งจากฐานข้อมูลของเราพบว่าในปีนี้นักลงทุนสถาบันขายสุทธิไปแล้วกว่า 41,000 ล้านบาท และหากจะย้อนกลับไปยังช่วงเวลาที่นักลงทุนสถาบันเริ่มต้นซื้อสุทธิหุ้นไทยขึ้นมาก็ต้องย้อนกลับไปถึงเดือนมีนาคมปีที่แล้วเลยทีเดียว ซึ่งจากการศึกษาของเราพบว่าต้นทุนของนักลงทุนกลุ่มนี้อยู่ในระดับที่ต่ำมากเพียงดัชนีประมาณ 1300 จุดเท่านั้น เพราะฉะนั้นความเสี่ยงจากแรงเทขายของนักลงทุนกลุ่มนี้ยังคงมีอยู่
ที่สำคัญเราพบว่าต้นทุนของนักลงทุนต่างชาติที่เข้าซื้อหุ้นไทยนับตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาอยู่ที่ดัชนีประมาณ 1500 จุด ด้วยเหตุหาก SET Index ไม่สามารถปรับตัวขึ้นมายืนเหนือ 1500 จุดได้ อาจทำให้นักลงทุนต่างชาติบางส่วนต้องขายหุ้นตัดขาดทุนด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจเป็นแรงกดดันต่อดัชนีเข้าไปอีก
อย่างไรก็ดี ข้อดีของการปรับฐานลงมาก็คือเป็นการลดความร้อนแรงของดัชนีที่ก่อนหน้านี้อยู่สูงเกินระดับที่เหมาะสมตามโมเดล Earning yield gap ของเรา ซึ่งทำให้ดัชนีกลับมามี Upside อีกครั้ง ล่าสุดที่ระดับ Bond yield สหรัฐฯอายุ 10 ปีที่ 1.6% และ EPS คาดการณ์ปีหน้าของ SET Index ที่ 106.5 บาท จะได้ระดับดัชนีที่เหมาะสมที่ 1530 จุด มี Upside ประมาณ 2% จากระดับปัจจุบัน
สำหรับ นักลงทุนที่ลดพอร์ทและชะลอการลงทุนนับตั้งแต่ที่เราแนะนำเมื่อดัชนี 1550 จุด มองว่าที่ระดับดัชนีปัจจุบันนับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการเข้าลงทุนรอบใหม่อีกครั้ง แต่แนะนำเป็นลักษณะทยอยเข้าลงทุนไปยังหุ้นที่มีธุรกิจภายนอกประเทศเป็นลำดับแรก เพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยภายในประเทศ มองหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ KCE, HANA, BR, TFG, TTCL ส่วนหุ้นที่อาจเป็นเป้าหมายของการซื้อคืนหากดัชนีปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วได้แก่ KTB, SCC, TRUE, PTT, IVL, ADVANC เนื่องจากเป็นกลุ่มหุ้นที่ถูกขาย Short มากที่สุดนับตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา
Oil: ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอีกครั้งหลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียออกมาสนับสนุนให้รัสเซียและกลุ่มประเทศ OPEC บรรลุข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง มองเป็นสัญญาณเบื้องต้นที่ดี และอาจนำไปสู่ข้อตกลงเชิงลึกมากขึ้นระหว่างกลุ่ม OPEC และกลุ่ม Non-OPEC ในการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 26-28 กันยายนนี้ มองเป็นปัจจัยประคับประคองกลุ่มพลังงานในช่วงนี้อยู่ได้บ้าง โดยที่ Top pick ของเราประจำกลุ่มยังคงได้แก่ TOP ซึ่งเรายังคงแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเป้าหมาย 74.5 บาท
กลยุทธ์การลงทุน: SET Index ปรับตัวลงสู่แนวรับของเราเดือนนี้ที่ 1480-1500 จุดซึ่งเรามองว่าเป็นจุดที่เริ่มน่าสนใจในมิติของ Valuation ดังนั้นสำหรับนักลงทุนยาวที่ชะลอการลงทุนตามที่เราแนะนำมาก่อนหน้านี้ให้ใช้จังหวะดังกล่าวในการทยอยเข้าสะสมหุ้นได้ โดยอาจเริ่มจากหุ้นที่อิงกับปัจจัยภายนอกเป็นหลัก อาทิเช่น อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร เป็นต้น สำหรับนักลงทุนระยะสั้น อาจรอจังหวะให้บรรยากาศการลงทุนเริ่มนิ่งเสียก่อน
แนวรับ 1,475 แนวต้าน 1,514
หุ้นมีข่าว
PETRO: Update สถานการณ์ปิโตรเคมีระยะสั้น (+/-)
Today's Event
BA XD 0.25 บาท
BAY XD 0.40 บาท
BBL XD 2.00 บาท
BCP XD 0.80 บาท
GOLDPF XD 0.19 บาท
KBANK XD 0.50 บาท
KKP XD 2.00 บาท
KPNPF XD 0.115 บาท
MJLF XD 0.25 บาท
RATCH XD 1.10 บาท
TMILL XD 0.08 บาท
ดุลเดช บิค, CFA, FRM, CAIA (ID: 29932) E-mail: [email protected]
ณัฐชาต เมฆมาสิน, CFA, FRM (ID: 31379) E-mail: [email protected]