- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 06 September 2016 16:25
- Hits: 1220
บล.เคจีไอ : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ (รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
คาดเริ่มยืนได้ แนะทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานเด่น
KGI คาด SET วันอังคารจะแกว่งตัว/เริ่มสร้างฐานได้ หลังเผชิญแพนิกเซลล์ 2 วันรวม 47 จุด (วานนี้ดัชนีฯ ลงแรงต่อ ผิดจากที่เราคาด) ล่าสุดดัชนีฯ ลงมาเทรด fwd PE2559 ที่ 15.7 เท่า ต่ำกว่า fwd PE2559 ของตลาดหุ้นอินโดฯ และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ที่ 19.9 เท่า และ 17.6 เท่าตามลำดับ ประเด็นที่ว่าหุ้นไทยแพงกว่าหุ้นอาเซียนน่าจะหมดไป ขณะที่ดัชนีฯ วานนี้ลงต่ำกว่า PE band ที่ 17 เท่าแล้ว ซึ่งเป็นระดับที่มีการรีบาวด์ตามมาทุกครั้งนับจากปลายปีที่แล้ว และนักลงทุนสถาบันซึ่งเป็นผู้ขายหลักในรอบนี้ขายสุทธิแล้ว 3.83 หมื่นล้านบาทในไตรมาสสาม และ 4.13 หมื่นล้านบาทนับจากต้นปี เราจึงมองว่าการปรับพอร์ตใกล้สิ้นสุด อย่างไรก็ดีค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนต่อ 0.2% ชี้ว่าจิตวิทยาตลาดยังเปราะบางอยู่ แนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานเด่นที่ราคาร่วงตามสภาพตลาด ด้านปัจจัยภายนอก ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำการ ขณะที่ราคาน้ำมันรีบาวด์หลังซาอุฯ และรัสเซียแถลงจะร่วมกันสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน (สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
หุ้นแข็งกว่าตลาดฯ SCC* / หุ้นลงแรงพื้นฐานไม่เปลี่ยน CK*
SCC* (เป้าพื้นฐาน 635 บาท) 1) เป็นหุ้นที่แข็งกว่าตลาดคาดเป็นผลจากแรงซื้อ หลังดัชนี FTSE Asia Pacific Ex Japan เพิ่ม SCC* เข้าคำนวณดัชนี (มีผล 16 ก.ย.นี้) 2) การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง (การลงทุนภาครัฐฯ) + Spread ปิโตรเคมีที่ยังดีช่วยหนุนผลการดำเนินงานปีนี้ และปีหน้า (คาดกำไรปี 2559 +17.3% YoY เป็น 5.3 หมื่นล้านบาท EPS 44.37 บาท/หุ้น คิดเป็น PE เพียง 12 เท่า) 3) ประเมินแนวรับ 530 บาท (Stop loss 522 บาท) และแนวต้าน 555 บาท
CK* (เป้าพื้นฐาน 39.5 บาท) 1) ราคาหุ้นปรับลงแรง ขณะที่พื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลง จาก Backlog ในมือกว่า 7.9 หมื่นล้านบาท ขณะที่รถไฟฟ้า 3 สาย (ส้ม ชมพู เหลือง) กำหนดยื่นซองในช่วง ต.ค. - พ.ย. นี้ คาดจะเป็นปัจจัยหนุน Backlog ในมือของ CK 2) ราคาหุ้นปรับลงแรงใกล้ทดสอบแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 28 บาท ขณะที่ RSI เริ่มชี้สัญญาณ Oversold คาดมีโอกาสรีบาวด์ แนะนำทยอยซื้อแนวรับ 29 บาท และ 28 บาท (Stop loss 27.5 บาท)
หุ้นในกระแส
หุ้น Defensive (โรงไฟฟ้า / ค้าปลีก) ที่ลงแรง แนะนำ "เก็งกำไร" หุ้นกลุ่ม Defensive ที่ปรับลงตามภาวะตลาดฯวานนี้ (ขณะที่หุ้นในกลุ่มฯบางตัวบวกสวนตลาดฯได้) อาจเน้นหุ้นที่กองทุนไทยถือยังไม่มากเป็นหลัก i) กลุ่มโรงไฟฟ้า EA, IFEC, TPCH ii) กลุ่มค้าปลีก TACC, TWZ
กลุ่มพลังงานทดแทน (โรงไฟฟ้าชีวมวล TPCH, PSTC / โรงไฟฟ้าขยะ BWG, GENCO / โซลาร์ส่วนราชการ) ภายหลังการประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้ 36MW (VSPP) เป็นการปลดล๊อกการประมูล FiT พลังงานทดแทนไทย โดยคาด กกพ จะเริ่มต้นการประมูลล๊อตใหญ่ทั่วประเทศ โดยคาดจะออกร่างรับซื้อไฟฟ้าฯ ภายใน ก.ย.นี้ โดย 1) "ประมูล FiT" โรงไฟฟ้าชีวมวล 400MW (TPCH, PSTC) … คาดการแข่งขันด้านราคาไม่รุนแรงเช่นในภาคใต้ 2) "ยื่นขอ" โรงไฟฟ้าขยะ อุตสาหกรรมฯ 50MW (BWG, GENCO) และขยะชุมชน 130MW (TPCH) 3) "จับสลาก" โซลาร์ส่วนราชการ 519MW (SUPER, GUNKUL*, IFEC*) และคาดจะเริ่มต้นการเปิดประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานลมในปี 2560 (IFEC*, GUNKUL*)
หุ้นมีข่าว
(+) ROBINS* คงเป้าการเติบโตรายได้ปีนี้ที่ 7.0% (โพสต์ทูเดย์) ภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังขยายตัวดีต่อเนื่องและช่วงไฮซีซั่นสิ้นปี จะช่วยหนุนให้ธุรกิจห้างสรรพสินค้าเติบโตได้แข็งแกร่งและเราคาดมีโอกาสที่รายได้ของบริษัทปีนี้จะเติบโตที่ 10.0% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ นอกจากนี้ การคัดสรรสินค้าที่มีอัตรากำไรดีและรายได้จากค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นสม่ำเสมอ จะเป็นอีกปัจจัยที่หนุนให้กำไรปี 2559 เพิ่มขึ้น 22.9% YoY เป็น 2.6 พันล้านบาท เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 72.50 บาท
(+) S* คุมบังเหียน"ไดอิ กรุ๊ป" (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) บอร์ด "สิงห์ เอสเตท" ให้ลงทุนใน ไดอิ กรุ๊ป ด้วยการซื้อหุ้น 678,999,969 หุ้น พาร์ 1 บาท ในราคาหุ้นละ 5 บาท รวมมูลค่า 3,395 ล้านบาท หรือไม่น้อยกว่า 55.63% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของ DAII วางแผนแบ่งขอบข่ายธุรกิจชัดเจน ลดการแข่งขันกันทางธุรกิจ
(0) ต่างชาติตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้น DSGT ให้ราคาสูงกว่ากระดาน 5 บาท (ข่าวหุ้น) DSGT หุ้นร้อนวิ่งรับ "North Haven Private" ประกาศตั้งโต๊ะทำคำเสนอซื้อหุ้นละ 5 บาท สูงกว่าราคากระดาน ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.-10 ต.ค.นี้
(+ กลุ่มทีวีดิจิตอล อาทิ MONO, WORK*) 'อสมท'ขอเลิกสัญญาโครงข่ายทีวี เข็ด 3ช่องดิจิทัลค้างจ่ายกว่า500ล้านกสท.สั่งปรับ'ซีทีเอช'ไม่ส่งแผนเยียวยา มติชน อสมท ทำหนังสือถาม กสท. ขอเลิกสัญญาให้บริการโครงข่ายทีวีดิจิทัล 3 ช่อง 'ไทยรัฐทีวี-สปริงนิวส์-วอยซ์ ทีวี' เหตุค้างจ่ายกว่า 500 ล้านตามข้อตกลงสัญญาณไม่เสถียรไม่จ่าย ตีกลับคำขอ 'ซีทีเอช' เลื่อนส่งแผนเยียวยา สั่งปรับวันละ 2 หมื่นจนกว่าจะส่งมอบ ขู่ยังดื้อแพ่งถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต
(+) MEGA ยันรายได้โต5%แย้มงบครึ่งปีหลังเด้งทุ่ม540ล้านลงทุนพม่า (ข่าวหุ้น) MEGA คงเป้ารายได้ปีนี้โตกว่า 5-10% ส่งซิกผลงานครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก ทุ่มงบลงทุน 540 ล้านบาท สร้างศูนย์กระจายสินค้าในเมียนมา คาดแล้วเสร็จไตรมาส 3/61 พร้อมร่วมทุน MALEE เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเริ่มขายไตรมาส 3/60 นอกจากนี้เล็งเปิดศูนย์บริการสุขภาพปี 60
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
IFEC* (เป้าพื้นฐาน 13.4 บาท) คาดประกาศแผนลงทุน รร ดาราเทวีกับ Strategic partner ภายใน ก.ย.นี้ (รับรู้กำไรพิเศษจากการขายที่ดิน เพื่อพัฒนาโครงการต่อเนื่อง + มูลค่า รร เพิ่มจากการพัฒนาโครงการฯ) และคาดปิดดีลซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในต่างประเทศที่ COD แล้วภายในเดือน ก.ย.นี้ ... Downside จำกัด ประเมิน Replacement cost เฉพาะที่ COD แล้วในมือ ไม่ต่ำกว่า 6.1 บาท ราคาหุ้นวานนี้เกิด Panic sell จนต่ำกว่าราคา Replacement cost แล้ว ถือเป็นโอกาสสะสม
PLANB* (เป้า Consensus 6.95 บาท) ประเมินแนวรับ 5.7 บาท ... ยังคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H59 (U-rate สื่อโฆษณาพ้นจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/59) วันนี้แข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยพบกับทีมชาติญี่ปุ่น คาดเป็น Sentiment บวกต่อกระแสฟุตบอลไทย (PLANB บริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคมฯฟุตบอลไทย)
TWZ (เป้าพื้นฐาน 0.49 บาท) ประเมินแนวรับ 0.34 บาท ตามลำดับ แนวต้านแรก 0.39 บาท และถัดไปที่ 0.42 บาท ... Valuation ไม่แพง ด้วย PBV 0.91 เท่า คาด 2H59 เริ่มรับรู้รายได้จากการเป็นพันธมิตร ADVANC* + รับรู้รายได้โครงการอสังหาฯ
TPCH (เป้า Consensus 24.6 บาท) ประเมินราคาหุ้น Downside ต่ำ (ราคาตอนนี้ต่ำกว่าราคาบิ๊กล๊อตให้นักลงทุนสถาบันที่ 18.5 บาท) ... มี Catalyst รออยู่อีกเช่น เปลี่ยนสัญญา LOI เป็น PPA 20MW เดือนนี้ + ประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวลล๊อตใหญ่ 400MW ปลายปีนี้
TACC (เป้า Consensus 10.7 บาท) แนะนำ "สะสม" แนวรับ 9.0 บาท … Catalyst ต่างๆเริ่มเกิดขึ้นในเดือน ก.ย. อาทิ ขายสินค้า Hello Kitty ในร้าน 7-Eleven / ขายโดนัทในร้าน 7-Eleven / ขายน้ำทุเรียน +มะม่วงไปจีน (เป็น Upside)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
กลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ Catalyst ที่อาจทำให้ราคาน้ำมันดีดตัวได้ คือ i) ความเป็นไปได้ที่ Fed จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. ลดลง ii) การจับมือของซาอุฯ และรัสเซีย เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาน้ำมัน ขณะที่ตลาดโรงกลั่นเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นจากโรงกลั่นในเอเชียบางแห่งปิดซ่อมบำรุงตามกำหนดการในเดือน ก.ย. แนะนำ "เก็งกำไร" PTTEP*
นักวิเคราะห์: อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]