- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 05 September 2016 16:44
- Hits: 1487
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มขึ้น แนวรับสำคัญ 1490
SET Index: 1500.97 ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงไปทดสอบแนวรับสำคัญของกรอบแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวที่ 1490-1500 จุด พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1520 จุดลงไป อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาแนวรับสำคัญของกรอบแนวโน้มขาขึ้นที่ 1480-1490 จุด การฟื้นตัวเริ่มมีนัยยะสำคัญเกิดขึ้น และมีแนวต้านที่ 1520-1525 จุด ถ้าสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นไปปิดได้ภายในวันนี้ จะเป็นสัญญาณกลับตัวทางเทคนิค
แนวต้าน : 1520 และ 1525
แนวรับ : 1500 และ 1490
THAI = 27.50 / 29.00, CPALL = 61.00 / 62.00, KBANK = 189 / 194, SCC = 538 / 544, BANPU = 15.50 / 16.00
PTT (PTT TB; THB 331.00) - ซื้อ
แนวต้าน : 340 และ 350
แนวรับ : 331 และ 330
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงค่อนข้างต่อเนื่อง แต่ปริมาณการซื้อขายไม่สูงมาก หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านของกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้การปรับตัวลดลงในระยะสั้นมีโอกาสฟื้นตัวเหนือแนวรับสำคัญของกรอบแนวโน้มขาขึ้น
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวลดลงทดสอบระดับ 40
แนะนำซื้อ PTT โดยมีแนวรับที่ 331 และ 330 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 340 และ 350 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 328 ลงไป
CH. Karnchang (CK TB; THB 29.75) - ซื้อ
แนวต้าน : 31.50 และ 32.50
แนวรับ : 29.75 และ 29.50
ราคาหุ้นปรับตัวลดลงต่อเนื่องมาทดสอบแนวรับสำคัญที่ 29.50 ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญเดิมในอดีต แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้การปรับตัวลดลงในระยะสั้นมีโอกาสฟื้นตัวเหนือแนวรับสำคัญตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น
Weekly: MACD ปรับตัวลดลงทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับลดลงทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 50
แนะนำซื้อ CK โดยมีแนวรับที่ 29.75 และ 29.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 31.50 และ 32.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 29.00 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ดีดกลับ
หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐออกมาแย่กว่าคาดที่ 151,000 ตำแหน่งจากที่คาด 180,000 ตำแหน่ง อัตราการว่างงานทรงตัวอยู่ที่เดิมที่ 4.9% และอัตราการจ้างงานเฉลี่ยรายชั่วโมงเพิ่มแค่ 0.1% ส่งผลให้เกิดการคาดการณ์ว่าแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้ รีบหรี่ลง โดยตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ประเด็นหลังจากนี้คงต้องติดตามผลการประชุม ECB ในวันที่ 8 ก.ย. ว่าทาง ECB จะมีมาตรการอะไรออกมา โดยตลาดคาดว่าทาง ECB จะขยายเวลาการทำ QE ออกไปอีก 6 เดือน ขณะที่จะคงดอกเบี้ยไว้ที่เดิม
หลังตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐออกมาแย่กว่าคาดจนปิดโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. ทิศทางตลาดหุ้นเอเชียในสัปดาห์นี้จะดีดตัวกลับหลังแกว่งตัวในกรอบแคบๆ มาหลายวัน โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น สำหรับตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลงไปในวันศุกร์ วันนี้จะดีดตัวกลับได้ นำโดยหุ้นใน SET 50 ที่ลงไปลึกในหุ้นในกลุ่มพลังงาน ค้าปลีก ธนาคาร อาหาร กลยุทธ์การลงทุนเมื่อดัชนี SET ลงมาในกรอบที่ 1520-1510 จุด เราแนะนำ ซื้อหุ้น พลังงานใหญ่ ธนาคารพาณิชย์ ค้าปลีก สื่อสาร โดยอาทิตย์นี้กรอบการรีบาวน์ของดัชนี SET จะขึ้นมาที่ 1550-1560 จุดหลังลงมาแตะที่ค่า -2SD (รูปด้านซ้าย)
จากรูปด้านขวา เราพบว่า โดยปกติตลาดหุ้นไทยจะเทรดในกรอบ P/E ที่ประมาณ 9-14 เท่า ส่วนค่า Dividend yield ที่ 3-5% ส่วนของภูมิภาคค่า P/E อยู่ในกรอบ 10-15 เท่าขณะที่ค่า Dividend yield ที่ 2.5-3.5% หากเราดูจากความถี่ของค่า P/E เราจะพบว่าทั้ง 2 ตลาดจะเทรดกันที่ค่าใกล้เคียงกันคือที่กรอบ 9-15 เท่า แต่หากมาดูความถี่ของค่า Dividend yield จะพบว่าตลาดหุ้นไทยมักจะเทรดที่สูงกว่า ตรงนี้กำลังบอกว่าแม้ตอนนี้ตลาดหุ้นไทยจะเทรดกันที่ค่า P/E สูงกว่าภูมิภาค แต่กลับให้ Dividend yield สูงกว่า คำถามที่ตามมาจะดูสัดส่วนไหนในสถานการณ์ปัจจุบัน
สถานการณ์ที่อัตราการทำกำไรของตลาดหุ้นทั่วโลก (EPS growth) ยังต่ำมากๆ จากภาวะเศรษฐกิจยังฟื้นแบบเปราะบางและบริษัทไม่ขยายการลงทุน จนทำให้ตลาดหุ้นแต่ละตลาดทั่วโลกต้องขึ้นไปเล่นที่ค่า P/E สูงๆ ไปอีกอย่างน้อยปีหน้า เราจึงมองว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะยังคงเล่นกันที่ค่า P/E สูงๆไปถึงปีหน้า จนกว่า กำไรของตลาดจะฟื้นตัวจนทำให้ค่า P/E ลดลง นอกจากนั้นการที่อัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรรัฐบาลติดลบและดอกเบี้ยยังทรงตัวในระดับต่ำ จึงหนีไม่พ้นที่จะยังมีเม็ดเงินไหลออกจากตลาดพัฒนาแล้ว ดังนั้นการลงทุนในภาวะดังกล่าว เราอาจต้องกลับมาดูว่าตลาดไหนให้ Dividend yield สูงกว่าพันธบัตรและเงินฝาก
แนวโน้มดัชนี SET ในสัปดาห์นี้คาดจะเริ่มดีดตัวกลับหลังโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐในเดือนนี้ริบหรี่ลง ขณะที่คาดจะมีแรงหนุนจากการประชุม ECB โดยหุ้นในกลุ่ม พลังงาน ธนาคารใหญ่ ค้าปลีก โยงท่องเที่ยวและอาหาร น่าจะเป็นตัวหนุนตลาด วันนี้คาดดัชนี SET จะเปิดกระโดดและเทรดในแดนบวกหลังตลาดคลายความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1532-1536 จุด ส่วนแนวรับที่ 1516-1512 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อ PTT SCB KBANK CPN BDMS CK และ DTAC
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,500.97 จุด ลดลง 20.51 จุด (-1.35%) มูลค่าการซื้อขาย 50,486.32 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้เปิดลงแรง จากแรงขายของหุ้นขนาดใหญ่ แต่ SET สามารถฟื้นตัวแถวบริเวณ 1480 จุด ด้านตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ปรับขึ้น จากการคาดการณ์ว่าเฟดยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย แม้ว่าตลาดหุ้นในเอเชียส่วนใหญ่เช้านี้จะฟื้นตัวได้ หลังจากคาดการณ์ว่าเฟดจะมีการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมปลายเดือนนี้ออกไปหลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด อย่างไรก็ตามหากพิจารณาในตลาด TIP (Thailand, Indonesia & Philippines) ในช่วงเดือนทีผ่านมา ปรากฎว่ายังคงมีการปรับฐานลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมจากตลาดมีการปรับขึ้นมามากประมาณ 20% นับจากต้นปี ทำให้ในแง่มูลค่าตลาดดูไม่ค่อยถูกเท่าไรนัก สำหรับตลาดหุ้นไทยเราเริ่มเห็นแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศชะลอตัวลงมาต่อเนื่องในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่ค่าเงินบาทก็เริ่มกลับมาอ่อนค่าลงก็ทำให้มีโอกาสเพิ่มขึ้นที่นักลงทุนต่างประเทศจะขายทำกำไรตลาดหุ้นไทยหรือมีแรงซื้อที่ชะลอตัวลงไปอีก ทำให้โอกาสในการปรับฐานลงไปที่ระดับ 1500 +/- ยังมีสูง ดังนั้นเราแนะนำ ให้นักลงทุนทยอยขายทำกำไรหรือลดพอร์ทลงเพื่อลดความเสี่ยง หากตลาดมีการรีบาวน์ได้ในบ่ายนี้
Technical Pick (PM) ...
PTT (PTT TB; THB 331.00) - ซื้อ
CH. Karnchang (CK TB; THB 29.75) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]