- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 05 September 2016 16:35
- Hits: 1130
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
หลังซื้อเพิ่มแล้วแนะนำให้เน้นถือรอรอบบวกใหญ่...ซื้อใหม่รอช่วงอ่อน!
ตลาดหุ้นวานนี้ : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา(2 ก.ย.) SET ปรับตัวลงแรงกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคพอควร จากแรงขายทำกำไรลดความเสี่ยง เพื่อรอติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในช่วงค่ำ ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดได้ ประกอบกับตลาดหุ้นบ้านเราขยับขึ้นมามากพอควรในช่วงที่ผ่านมา โดยยังไม่ได้มีจังหวะปรับพักเพื่อลดความร้อนแรงเลย จึงทำให้ดัชนีปรับตัวลงกว่า 20 จุด ก่อนจะปิดเป็นลบไปในบริเวณใกล้เคียง
แนวโน้มตลาดวันนี้ : บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศสดใสขึ้นบ้าง หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค. ของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าตลาดคาดไว้พอควร ช่วยลดความวิตกเกี่ยวกับโอกาสที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมปลายเดือน ก.ย.นี้ลงได้บ้าง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกก็สามารถดีดตัวพุ่งขึ้นเกือบ 3% หลังจากประธานาธิบดีของรัสเซียกล่าวว่ารัสเซียต้องการบรรลุข้อตกลงในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันกับกลุ่มประเทศโอเปก ทำให้นักลงทุนมีความหวังมากขึ้นกับการประชุมนอกรอบของกลุ่มโอเปกที่จะมีขึ้นในวันที่ 26-28 ก.ย.นี้ FSS จึงคาดว่า SET ก็มีลุ้นดีดกลับขึ้นแกว่งบวกได้ด้วยเช่นกัน แต่ยังต้องระวังการแกว่งผันผวนอยู่ด้วย
กลยุทธ์ : SET มีจังหวะพักตัวลงให้เป็นโอกาสซื้อเพิ่มแล้ว ซึ่งแนะนำซื้อแล้วเน้นถือเพื่อรอรอบบวกใหญ่ต่อไป ส่วนซื้อต่อยังรอช่วงผันผวนและอ่อนตัวได้
แนวรับ 1520-1516 , 1514-1510 จุด
แนวต้าน 1525-1530 , 1535-1540 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : FSMART, TTCL(buy back) , AAV(short)
Fund Flow วันศุกร์กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$211ล้าน ส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$205ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดงินไหลเข้า US$2.8ล้าน ขณะที่ไหลออกจากฟิลิปปินส์ US$18ล้าน และอินโดนีเซีย US$0.5ล้าน แนวโน้มเงินทุนมีทิศทางกลับมาไหลเข้าหลังการจ้างงานสหรัฐอ่อนแอกว่าตลาดคาด จึงมีโอกาสน้อยลงที่ Fed จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ ขณะที่กลุ่มพลังงานน่าจะฟื้นตัวขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ +3% เมื่อคืนนี้จากข่าวรัสเซียและโอเปคใกล้จะบรรลุข้อตกลงในการคุมปริมาณการผลิต
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) ตัวเลขสหรัฐต่ำคาด ลดโอกาสขึ้นดอกเบี้ย แต่ยังวางใจไม่ได้ การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค. +1.51 แสนตำแหน่ง แม้จะต่ำกว่าตลาดคาดที่ +1.85 แสนตำแหน่ง แต่ไม่ได้แย่ ราคาน้ำมัน +3% หุ้นโลกรีบาวนด์จากสัปดาห์ก่อน แต่ยังวางใจไม่ได้จนกว่าจะเห็นความชัดเจนของการประชุม FED 20-21 ก.ย. นี้ ก่อนจะถึงการประชุม FED ในสัปดาห์นี้มีการประชุม ECB 8 ก.ย. (ถ้ายืดอายุ QE ออกไป จะเป็นผลดีกับตลาดหุ้น) และตัวเลข GDP 2Q16 ของยูโรโซนและญี่ปุ่น รวมถึง Beige Book ของสหรัฐ ถัดไปเป็นการประชุม กนง. 14 ก.ย., BOE 15 ก.ย. และ BOJ 21 ก.ย.
(0) ราคาน้ำมัน +3% จากตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่ต่ำคาด และข่าวที่รัสเซียเห็นด้วยกับการตรึงการผลิตในการประชุม 26-28 ก.ย. เรามองว่าไม่น่าสามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันมีผลน้อยกับราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน
(+) FSMART คาดกำไร 3Q16-4Q16 ยังทำ New high ต่อเนื่องตามการเพิ่มตู้เติมเงิน บริษัทมีศักยภาพเติบโตได้อีกไกล แม้ปัจจุบันรายได้หลักกว่า 95% มาจากเติมเงินมือถือ แต่ในอนาคตสามารถพัฒนาบริการใหม่ๆ เช่นบริการชั่งน้ำหนัก การโอนเงินผ่านตู้ซึ่งปัจจุบันร่วมกับ KTB และอยู่ระหว่างเจรจากับอีก 1 แบงก์ เราคาดกำไรปีนี้ +48% และปีหน้า +29% คงแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 19.50 บาท
(+) ROBINS แนวโน้มกำไร 3Q16 จะแผ่วเพราะ Low season บวกกับเหตุระเบิด 7 จุดในภาคใต้กลาง ส.ค. ซึ่งมองว่ากระทบ SSSG ในช่วงสั้น กำไรจะกลับมาดีทำจุดสูงสุดของปีใน 4Q16 เพราะ High season และสาขาที่รีโนเวทกลับมาเปิดใหม่เต็มรูปแบบ และสินค้า House Brand และ Exclusive Brand จะหนุนอัตรากำไรขั้นต้นต่อเนื่อง ยังคาดกำไรปีนี้ +26% และปีหน้า +15% ราคาหุ้นพักฐานจนมี PE ปีหน้าเพียง 22.2 เท่า ต่ำสุดในกลุ่มค้าปลีก แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปีหน้า 76 บาท
(+) KTC ราคาหุ้นยังขยับขึ้นต่อเนื่องและยังมี upside กว่า 20% จากราคาเป้าหมายปีหน้าที่ 168 บาท จุดเด่นของ KTC คือคุณภาพหนี้ที่ NPL ต่ำกว่าอุตสาหกรรมมาก ขณะที่กำรที่เราคาดการเติบโตได้ 15-20% ในช่วงปี 2017-20 ยังมี upside จากสำรองฯที่ไม่จำเป็นต้องตั้งเพิ่มแล้วเพราะ Coverage ratio ที่สูงถึง 439% และค่าการตลาดที่มีโอกาสต่ำกว่าคาด ยังคงแนะนำซื้อ
(-) SYMC แม้กำไรจะเริ่มฟื้นใน 2Q16 (+131% Q-Q) เป็น 26 ล้านบาทหลังได้ลูกค้า IPLC รายใหญ่รายใหม่เข้ามาแทนลูกค้าที่เสียไป แต่ยังห่างไกลจากที่เคยทำได้ไตรมาสละ 50 ล้านบาท และไม่มากพอจะชดเชยค่าเสื่อมของโครงข่ายที่สูง เราคาดกำไรทั้งปี -14% ส่วนโครงการเคเบิ้ลใต้น้ำที่เชื่อมระหว่างไทย กัมพูชา และมาเลเซีย คาดรับรู้รายได้ตั้งแต่ 1Q17 อาจทำให้การฟื้นตัวต้องสะดุดเพราะแบกรับค่าเสื่อมและดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้น เราลดคำแนะนำเป็นถือ จากเดิมซื้อ ปรับไปใช้ราคาพื้นฐานปีหน้าที่ 9.60 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
4-5 ก.ย.
- ประชุม G20
5 ก.ย.
- ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเนื่องในวัน Labor Day
- จีน: Caixin China PMI Composite (ส.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ส.ค.)
6 ก.ย.
- ยูโรโซน: 2Q16 GDP
7 ก.ย.
- ออสเตรเลีย: 2Q16 GDP
8 ก.ย.
- ญี่ปุ่น: 2Q16 GDP
- ยูโรโซน: ECB ประชุม
- สหรัฐ: Fed Beige Book
9 ก.ย.
- จีน: อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
- เกาหลีใต้: ธนาคารกลาง (BoK) ประชุม
10 ก.ย.
- จีน: ยอดสินเชื่อ (ส.ค.)
13 ก.ย.
- จีน: Industrial Production และยอดค้าปลีก (ส.ค.)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดบวกได้หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค. ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาด ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED
(+) เช่นเดียวกับทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ที่ปิดในแดนบวกได้เช่นกันจากตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯที่น่าผิดหวัง แต่น่าจะทำให้ FED ชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไปก่อน
(+) ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในแดนบวกได้เช่นกันจากบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของ FED
(0) ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวออกข้าง ล่าสุดยังเคลื่อนไหวแถว 34.50-34.65 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. เพิ่มขึ้น 1.28 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 44.44 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังตัวเลขการจ้างงานที่น่าผิดหวังทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า อย่างไรก็ตามปัจจัยสำคัญยังเป็นเรื่องของการประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันปลายเดือนนี้
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 9.60 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,323.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาต่ำกว่าที่คาด ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเรื่องที่ FED อาจขึ้นดอกเบี้ยในเดือนนี้
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265
Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch