- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 01 September 2016 18:02
- Hits: 2754
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'เลือกซื้อ/ถือเมื่อ SET ยืนเหนือ 1540'
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET Index เมื่อวานนี้ปิดปรับขึ้นเล็กน้อย (+2.31 จุดปิดที่ 1548.44) นำโดยการปรับขึ้นของหุ้น SCC ซึ่งไปชดเชยกับผลกระทบจากการขึ้นเครื่องหมาย XD ของหุ้น PTT ส่วนภาพรวมยังค่อนไปทาง Wait & See ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐที่จะออกมาในวันศุกร์ที่ 2 ก.ย.นี้ นักลงทุนต่างชาติยังเดินหน้าซื้อสุทธิ 1.6 พันล้านบาท นักลงทุนสถาบันในประเทศและรายย่อยขายสุทธิ ส่วนพอร์ตบล.ซื้อขายใกล้เคียงกัน
ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐเดือนส.ค.59 ที่ออกมาแข็งแกร่ง 177,000 ตำแหน่งและดีกว่าคาด ทำให้คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ที่จะออกมาวันศุกร์ที่ 2 ก.ย.นี้มีโอกาสดีด้วยเช่นกัน (ผลสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่าจะออกมาที่ 185,000 ตำแหน่ง) ส่งผลให้มีโอกาสความเป็นไปได้มากขึ้นว่าเฟดจะขยับขึ้นดอกเบี้ย Fed Fund Rate ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ (ปัจจุบันอยู่ที่ 0.50%) ซึ่งตลาดได้ตอบรับกระแสคาดการณ์ดังกล่าวไปบ้างแล้ว แต่คาดว่ายังไม่ทั้งหมด ดังนั้นในช่วงที่เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยจริงตลาดก็มีสิทธิแกว่งลงได้อีก แต่เรามองว่าดอกเบี้ยของประเทศอื่นทั่วโลกที่ยังต่ำมากและติดลบ รวมถึงการทำ QE เพิ่มเติม ทำให้ตลาดหุ้นจะยังเป็นเป้าหมายของการลงทุน เพียงแต่ต้องมีจังหวะในการเข้า & ออกที่ดี รวมทั้งควรเลือกลงทุนในบริษัทที่มีแนวโน้มธุรกิจแข็งแกร่ง ผุ้บริหารมีวิสัยทัศน์ & บริหารงานอย่างมืออาชีพ และจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ (บ่งชี้ถึงเสถียรภาพของกำไร) รวมทั้งมี Valuation ที่ไม่แพง ราคาหุ้นยังเหลือ Upside สำหรับการลงทุนพอสมควร สำหรับหุ้น Top Picks ของเดือนก.ย.2559 เราเลือกเป็น AP, ERW, JASIF, TCAP ส่วน Dark Horse คือ KKP สำหรับหุ้นเชิงกลยุทธ์แนะนำวันนี้เป็น ERW
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นบวกเล็กๆ แต่ยังควรระวังการแกว่ง/อ่อนตัว ซื้อใหม่จึงเน้นตามด้วยค่าบวก ค่าลบดูไม่ดีและควร Stop loss ถ้าต่ำกว่า 1540 จุด แนวต้านระยะสั้นอยุ่ที่ 1555-1560, 1570 จุด ส่วนแนวรับกรณี SET หลุด 1540 จุดคือ 1520, 1500 จุด สำหรับหุ้นที่มีสัญญาณทางเทคนิคดีและมีโอกาสปรับขึ้นในระยะสั้น ประกอบด้วย KKP, TCMC, PTG, SPRC, PLANB, TACC, PPS, ASEFA
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค & Retail research team - [email protected]
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ : การจ้างงานภาคเอกชนเดือนส.ค.แข็งแกร่ง
ADP เปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนส.ค.ว่าเพิ่มขึ้น 177,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 175,000 ตำแหน่ง กระตุ้นให้คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐที่จะรายงานวันศุกร์นี้จะสูงตามไปด้วย ทั้งนี้ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 185,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.8% ในเดือนส.ค. นักวิเคราะห์บางรายประเมินว่าถ้าตัวเลขจ้างงานวันศุกร์นี้ออกมาสูงเกิน 200,000 ตำแหน่ง ก็มีโอกาสสูงที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม FOMC วันที่ 20-21 ก.ย.นี้เลย แต่ถ้าออกมาต่ำกว่า 100,000 ตำแหน่งก็อาจเลื่อนไปพิจารณาในการประชุมรอบต่อไปในเดือนต.ค.59
จีน : PMI ภาคการผลิตเดือนส.ค.ขยับขึ้นเหนือ 50 ได้เล็กน้อย
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เดือนส.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 50.4 จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 49.9
- ตลาดหุ้นสหรัฐ : ปิดลดลง...ราคาพลังงานร่วงกดดัน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,400.88 จุด ลดลง 53.42 จุด หรือ -0.29% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,213.22 จุด ลดลง 9.77 จุด หรือ -0.19% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,170.95 จุด ลดลง 5.17 จุด หรือ -0.24% นำลงโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบดิ่งลงเพราะสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาด รวมถึงกังวลว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็ว
- ราคาน้ำมันดิบ : ดิ่งลง เพราะสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาด
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 1.65 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 44.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ลดลง 1.33 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 47.04 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งสะท้อนตัวเลขรายงานของ EIA ที่ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 525.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นเพียง 900,000 บาร์เรล ส่วนสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) เผยว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 942,000 บาร์เรล สู่ระดับ 525.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
- ราคาทองคำ : ลดลง 0.4%
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 5.1 ดอลลาร์ หรือ 0.39% ปิดที่ระดับ 1,311.4 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นไปตามตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่ง ส่งผลให้โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วมีมากขึ้น
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
ไทย : ส่งออกเดือนก.ค. แก้ไขเป็น -6.4% จากเดิมที่แถลง -4.4%
กระทรวงพาณิชย์แจ้งแก้ไขตัวเลขการส่งออกเดือน ก.ค.59 ติดลบเพิ่มขึ้นเป็น -6.4% จากเดิมที่แถลงไว้เมื่อวันที่ 26 ส.ค.59 ที่ผ่านมาว่า -4.4% และการส่งออกช่วง 7 เดือนแรกของปี 59 ติดลบเพิ่มขึ้นเป็น -2.3% จากเดิมที่แถลงว่า -2.0% โดยชี้แจงว่าการแถลงก่อนหน้านี้เป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้น เนื่องจากข้อมูลบางส่วนรอการตวจสอบจากกรมศุลกากร ซึ่งขณะนี้ได้รับการยืนยันตัวเลขจากกรมศุลกากรแล้ว
ธปท.กล่าวว่าค่าเงินบาทแข็งค่าในระดับกลางและอยู่ในทิศทางเดียวกับภูมิภาค
ธปท.กล่าวว่าขณะนี้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น 4.5%YTD ซึ่งเป็นการแข็งค่าระดับกลางเมื่อเทียบกับค่าเงินประเทศอื่นในภูมิภาค โดยหลายประเทศมีการแข็งค่ามากกว่าเงินบาทมาก เช่น มาเลเซีย ที่ค่าเงินริงกิตแข็งค่าขึ้น 9% เป็นต้น แต่ธปท.ก็ได้ดูแลอย่างใกล้ชิดและเห็นว่าภาคธุรกิจยังสามารถรับมือได้ ทั้งนี้ความผันผวนของค่าเงินและอัตราแลกเปลี่ยนจะเกิดขึ้นต่อในอนาคตซึ่งทุกฝ่ายก็หาทางรับมืออยู่ สำหรับการส่งออกที่ชะลอตัวลงในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้มองว่าเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาเป็นปัจจัยหลัก
+ ERW (ราคาปิด 5.05 บาท, ราคาพื้นฐาน 5.70 บาท) :
งวด 2Q59 พลิกเป็นกำไรได้ครั้งแรกในรอบ 3 ปี ซึ่งเป็นไปตามคาด ทั้งนี้แม้ว่าเป็นช่วงฤดูกาลที่อ่อนของการท่องเที่ยว (Low Season) ก็ตาม แต่บริษัทก็พยายามสร้างรายได้และปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานจนทำให้มีความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นได้ สำหรับแรงเสริมการเติบโตในช่วง 2H59 เป็นต้นไป คือ โรงแรม Hop Inn ที่เปิดใหม่ 4 แห่ง คือ ที่ไทย 3 แห่งและฟิลิปปินส์อีก 1 แห่ง และเราคาดว่าจากนี้ไปจะไม่เห็นขาดทุนในช่วง Low Season อีกเมื่อพิจารณาจากกำไรที่มีเสถียรภาพและแข็งแกร่งขึ้น นอกจากนั้นยังมี Catalyst ระยะสั้นคือ การเติบโตของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่แข็งแกร่งในปี 59 และกำลังจะเข้าสู่ช่วง High Season ของการท่องเที่ยวในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ทางฝ่ายวิจัยฯ DBSV คาดการณ์กำไรสุทธิปี 59-60 เติบโตสูง 66% และ 38% ตามลำดับ แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 5.70 บาท ซึ่งมี Upside จากราคาปิดที่ 5.05 บาทอยู่ 13%
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]