- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 01 September 2016 17:21
- Hits: 1454
บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) : Market Comment
ทรงตัวรอข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้
ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบหลังข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนออกมาดีกว่าคาดและราคาน้ำมันที่ร่วงลง ทำให้ DOW JONES, NASDAQ, S&P500 ปิด -0.29%, -0.19%, -0.24%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ หลังราคาน้ำมันดิบร่วงลง และตัวเลขเงินเฟ้อยูโรโซนเดือนส.ค. ที่ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 0.2% ทำให้ DAX, FTSE, CAC40, FTMIB ปิด -0.61%, -0.58%, -0.43%, 0.31%
สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 1.33 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.04 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสต๊อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในช่วงครึ่งหลังของการซื้อขาย ซึ่งสวนทางกับทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลงเล็กน้อย ตามการปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตามหากพิจารณาการปรับขึ้นของหุ้นธนาคารในสหรัฐฯ พบว่าตั้งแต่ต้นเดือนส.ค. จนถึงปัจจุบัน หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา หุ้นโกลด์แมน แซคส์ และหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ได้ปรับตัวขึ้นมาแล้ว 12%, 11%, 7% และ 5% ตามลำดับ สะท้อนโอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในเดือนก.ย. นี้ได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นตลาดหุ้นส่วนใหญ่จะกลับมาผันผวนทันที ถ้าตัวเลขการจ้างงานออกมาดีกว่าคาดในวันศุกร์นี้ และในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มมีแรงขายจากนักลงทุนต่างประเทศในตลาดหุ้นในกลุ่ม TIPs ยกเว้นไทยที่ยังมีแรงซื้อสุทธิเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจัดงาน Thailand Focus ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อวานนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมงานสูงทะลุสถิติใหม่ตั้งแต่เริ่มการจัดงานมา จากการเปิดเผยของผู้จัดการตลาดฯ มีนักลงทุนสถาบันเข้าฟังราว 200 คน แบ่งเป็นนักลงทุนสถาบันต่างประเทศจำนวน 50-60 บริษัท รวมจำนวนผู้เข้าร่วมงาน 112 คน ซึ่งมีมูลค่า AUM ราว 3.7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
และนักลงทุนสถาบันในประเทศจำนวน 98 ราย มีผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนให้ข้อมูลจำนวน 140 บริษัท โดยเป็นการให้ข้อมูลแบบ One-on-One และรายกลุ่มรวมทั้งสิ้น 1,255 ครั้ง ทั้งนี้เหตุผลสำคัญที่ตลาดหุ้นไทยได้รับความสนใจอย่างล้นหลามในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนสูงถึง 21% (รูปเงินบาท) สูงสุดติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก ในขณะที่ผลตอบแทนในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะสูงถึง 26% ได้ปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่สูงกว่าตลาดคาดเล็กน้อย รวมทั้งมีปัจจัยการลงทุนของภาครัฐที่ชัดเจนขึ้นทั้งในปีนี้และปีหน้า และการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน โดยในไตรมาส 2/2559 เติบโตราว 11-12% สูงสุดในรอบ 5 ปี ทางด้านผู้ร่วมจัดงาน (ธนาคารแห่งอเมริกา เมอร์ริล ลินช์ เปิดเผยว่า นักลงทุนต่างประเทศเริ่มมีความมั่นใจต่อปัจจัยพื้นฐานของประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจโดยรวมจะดูดีกว่าในภูมิภาค โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคและบริการ และผลตอบแทนตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าดัชนี MSCI Asia ex Japan ซึ่งปรับขึ้น 9% และปัจจุบันนักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1.22 แสนล้านบาท ส่วนการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ปรับตัวลง หลัง ADP เปิดเผย การจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯ เดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 177,000 สูงกว่าที่ตลาดคาดเล็กน้อย เพิ่มความน่าจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากขึ้นในการประชุมเดือนก.ย. นี้ แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเราคาดว่า น่าจะทรงตัวรอข้อมูลการจ้างงานสหรัฐฯ
กลยุทธ์การลงทุน
Trading : ปรับตัวขึ้นไปแถว ๆ 1,560-1,570 จุด แนะนำขายทำกำไร
Saravut Tachochavalit, Analyst
TEL : +66 (2) 862-9754 Ext. 9754
EMAIL : [email protected]