- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 01 September 2016 17:12
- Hits: 1081
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1575-1580
SET Index: 1547.32 เคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อเนื่องที่บริเวณแนวต้าน 1550 จุด หลังจากฟื้นตัวกลับขึ้นไป แต่ยังคงมีแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงานออกมาต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณาการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มธนาคาร และ SCC จึงทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ 1555 จุดขึ้นไป จะทำให้แนวโน้มของ SET Index มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1570 และ 1580 จุดตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น และมีแนวรับสำคัญที่ 1540 จุด
แนวต้าน : 1550 และ 1555
แนวรับ : 1547 และ 1544
SCC = 546 / 550, RJH = 19.00 / 20.20, KBANK = 198 / 200, BBL = 167 / 170, BEM = 7.80 / 7.90
Ananda Development (ANAN TB; THB 4.90) - ซื้อ
แนวต้าน : 5.15 และ 5.40
แนวรับ : 4.90 และ 4.84
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากฟื้นตัวเหนือแนวรับของเส้นแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลงต่อเนื่อง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ ANAN โดยมีแนวรับที่ 4.90 และ 4.84 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.15 และ 5.40 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.64 ลงไป
Com7 (COM7 TB; THB 11.50) - ซื้อ
แนวต้าน : 12.00 และ 12.40
แนวรับ : 11.50 และ 11.20
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ COM7 โดยมีแนวรับที่ 11.50 และ 11.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 12.00 และ 12.40 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 10.80 ลงไป
SET50 Index Futures
S50U16 เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณแนวรับสำคัญที่ 978-980 ซึ่งเป็นแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้น ซึ่งเราแนะนำให้ Open Long ที่บริเวณแนวรับ 980 เอาไว้ แต่ถ้าปรับตัวลดลงมาปิดต่ำกว่าระดับ 977 ลงไป จะเป็นจุด STOp LOSS สถานะ Long และมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 970 และ 965
แนวต้าน : 982 และ 984
แนวรับ : 977** และ 974
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน S50U16 เอาไว้ที่แนวรับ 980 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 990 และ 1000
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า S50U16 ปรับตัวลดลงมาปิดต่ำกว่า 977 ลงไป
IRPCU16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.00 หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างที่บริเวณแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไร และมีแนวต้านสำคัญที่ 5.10 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะเป็นจังหวะในการ Open Long
แนวต้าน : 5.00 และ 5.10
แนวรับ : 4.90 และ 4.80
คำแนะนำ: เราแนะนำให้เน้นการ Open Short ที่แนวต้านที่ 5.00-5.05 เพื่อรอการปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 5.10 ขึ้นไป จะเป็นจังหวะในการ Open Long
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า IRPCU16 ปรับตัวลดลงมาปิดต่ำกว่า 4.90 ลงไป
THAIU16
ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านที่ 32.00 หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิคต่อเนื่องทะลุผ่านแนวต้านที่ 30.00 ขึ้นไป ในขณะที่โครงสร้างแนวโน้มขาขึ้นมีแนวต้านสำคัญที่ 39.00-40.00 และมีแนวรับสำคัญที่ 27.50 ถ้าหลุดจเป็นสัญญาณสิ้นสุดแนวโน้มขาขึ้น
แนวต้าน : 34.00 และ 35.00
แนวรับ : 31.50 และ 31.00
คำแนะนำ: เราแนะนำให้ Open Long ใน THAIU16 ที่แนวรับ 31.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 34.00 และ 35.00
STOP LOSS สถานะ Long ถ้า THAIU16 ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 30.00 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ยังอยู่ในความผันผวน
ทิศทางดัชนี SET คาดยังขึ้นๆลงๆตามข่าวในแต่ละวัน ในลักษณะแกว่งกรอบแคบ จนกว่าจะเห็นความชัดเจนของตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ โดยหุ้นที่คาดว่ายังพอเข้าไปเล่นได้ในช่วงนี้ น่าจะเป็นหุ้นที่ยังขึ้นได้ไม่มาก หรือหุ้นที่พื้นฐานเกิดการฟื้นตัว (Turnaround) นอกนั้นจะเป็นหุ้นเล็กเก็งกำไร เป็นส่วนใหญ่ ส่วนสภาพตลาดโดยรวมก่อนการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในวันศุกร์ แทบไม่เคลื่อนไหว ล่าสุดจากการสำรวจถึงแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐในเดือน ก.ย. กลับพบว่ามีโอกาสสูงมากที่จะปรับขึ้น
หากมาดูเวลาที่ FED ขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก ส่วนใหญ่ตลาดสหรัฐจะเกิดการปรับฐานก็ต่อเมื่อขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว ส่วนในช่วงก่อนการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรก ตลาดหุ้นสหรัฐมักจะปรับตัวขึ้นเสมอ ยกเว้น 2 ครั้ง คือในปี 2015 ที่จะปรับตัวลงก่อนการขึ้นดอกเบี้ยประมาณ 15 วันประมาณ -3.2% แต่สุดท้ายก็ดีดกลับก่อนขึ้นดอกเบี้ย ส่วนในปี 2004 ลงไปก่อนประมาณ -4.6% และสุดท้ายดีดกลับ ก่อนขึ้นดอกเบี้ยประมาณ 2 สัปดาห์ ดังนั้นหากในครั้งนี้หากปรับฐานก่อน การลงของตลาดหุ้นจะยังไม่แรงมาก ซึ่งเรามองลงประมาณ 2-3% คือดัชนี SET ที่ประมาณ 1500-1510 จุด
หากตัวเลขในวันศุกร์ออกมาดีกว่าคาดเกิน 200,000 ตำแหน่ง ตลาดหุ้นทั่วโลกในวันจันทร์ 5 ก.ย. จะผันผวนทันที แต่จะมากหรือน้อย ยังต้องดูแรงขายของต่างชาติว่าจะเป็นอย่างไรรวมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐก่อนการประชุม FOMC ในวันที่ 20-21 ก.ย. ในส่วนของตลาดหุ้นไทยซึ่งเป็นตลาดที่ต่างชาติซื้อสุทธิถึง 113,000 ล้านบาท อาจจะเผชิญกับแรงขายทำกำไรที่แรงกว่าตลาดหุ้นอื่นได้ เนื่องจากในตลาดหุ้นไทยเองกำลังอยู่ในภาวะเปราะบาง จากการที่ หุ้นกลุ่มหลักแทบไม่มีช่องให้ขึ้นทั้งพื้นฐานและราคาเป้าหมาย นอกจากนั้นยังขึ้นไปเล่นที่ค่า P/E สูงสุดในรอบ 15 ปี ดังนั้นหากตัวเลขการจ้างงานออกมาแล้วบ่งชี้ว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ย ดัชนี SET น่าจะปรับตัวลงมาในกรอบ 1520-1510 จุดก่อน แต่หากรับไม่อยู่มีสิทธิลงไปที่ 1490-1480 จุด ตรงข้ามหากออกมาไม่มากพอที่จะขึ้นดอกเบี้ย ดัชนี SET จะดีดกลับไปที่ 1560-1570 จุด
ในภาวะที่ยังไม่แน่ไม่นอน เรื่องทิศทางการขึ้นดอกเบี้ย กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำให้เริ่มทยอยขายหุ้นในกลุ่มที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิมาตลอด อย่าง ธนาคาร พลังงาน ค้าปลีก รับเหมา แล้วให้ Switch เข้ามาในกลุ่มที่ยังขึ้นได้น้อย (อสังหาริมทรัพย์สร้างบ้านบางตัว) กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มที่ให้ Dividend yield สูงๆ (สื่อสาร) และหุ้น Turnaround (BANPU/IVL)
จุดเด่น 3 ประการของ BANPU คือ 1. งบดุลดีขึ้นขณะที่ดอกเบี้ยจ่ายลดลง โดยมองว่า Debt/Equity จะลดลงจาก 1.4 เท่าใน Q2/16 เหลือเพียง 0.3 เท่าในปี 2018 ด้วยเงินสดที่ได้จากการเพิ่มทุนและได้รับการชำระหนี้คืนจากบริษัท Banpu Power 2.กำไรจากธุระกิจถ่านหิน และ 3.กำไรจากโรงไฟฟ้าหงสา ประเด็นที่จะหนุนราคาหุ้นหลังจากนี้คือ งบ Q3-Q4/16 ที่นักวิเคราะห์ของเรามองว่าจะเริ่มออกมาดี จากกำไรของธุรกิจถ่านหินและโรงไฟฟ้า หลังราคาถ่านหินปรับตัวสูงขึ้นกว่า 1H/16
ทิศทางดัชนี SET วันนี้คาดยังคงอยู่ในภาวะผันผวนและแกว่งตัวต่อไป หลังยังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ เข้ามาในตลาด การดีดตัวขึ้นยังไปไหนไม่ได้ไกล ขณะที่ดัชนีในภูมิภาคส่วนใหญ่ยังปรับตัวลง วันนี้มองแนวต้านที่ 1554 -1558 และแนวรับที่ 1540-1535 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร IRPC และ SPRC
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ 1,547.32 จุด ลดลง 1.12 จุด (-0.07%) มูลค่าการซื้อขาย 28,554.75 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ แม้ตลาดจะมีแรงขายจากกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี หลังราคาน้ำมันปรับลงแรงวานนี้ ขณะที่มีแรงซื้อโดดเด่นในหุ้นที่ FTSE เพิ่มน้ำหนักลงทุน อย่าง SCC, KBANK, BEM ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ นักลงทุนยังจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ (ศุกร์นี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดบ่าย แกว่งแคบ ระยะสั้นตลาดยังเป็นการเล่นรอบเก็งกำไร โดยเราคาดว่าตลาดน่าจะวนกลับมาเก็งกำไรกลุ่มธนาคาร และรับเหมาอีกครั้ง หลังจากที่กลุ่มนี้มีการพักตัวมาพอสมควรแล้ว โดยเราแนะนำ SCB และ CK เพราะราคาพักตัวมาพอมีโอกาสดีดตัวกลับได้
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
Ananda Development (ANAN TB; THB 4.90) - ซื้อ
Com7 (COM7 TB; THB 11.50) - ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : ALT, GENCO, PPM-W1, NEWS*, WICE* (* ดูรายละเอียดของเงื่อนไขในบทวิเคราะห์ และกรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]