- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 01 September 2016 16:25
- Hits: 1059
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : DW Report (EPG24C1701A, CPF24C1611A)
Our Portfolio Sep 2016 : ARROW, BCH, BJC, BLA, KTC
2016SET Target 1650
แม้ SET ยังทรงตัวได้ดี แต่มีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงต่อ จึงน่ารอซื้อลบ
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ยังปรับตัวลงต่อเนื่องในช่วงเช้า หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังอ่อนแอลง และความกังวลเกี่ยวกับโอกาสที่เฟดจะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ก.ย. ยังคงกดดัน แต่ด้วยสภาพคล่องที่มีมากในตลาด ทำให้ดัชนีเริ่มฟื้นตัวขึ้นได้บ้างตั้งแต่ช่วงสาย และกลับมาปิดเป็นบวกเล็กน้อยได้ในช่วงท้ายตลาด
แนวโน้มตลาดวันนี้ : หลังจากในช่วงหลายวันที่ผ่านมา SET ยังแกว่งตัวผันผวนบวก-ลบ สลับอยู่ในกรอบจำกัด โดยยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุนเพิ่มขณะที่เมื่อคืนนี้ราคาน้ำ มันดิบในตลาดโลกยังคงปรับตัวลงอีกกว่า 3%เนื่องจาก EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งสูงขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ล่าสุด รวมทั้ง ADP ยังเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดด้วย ยิ่งทำให้ความกังวลเกี่ยวกับโอกาสที่เฟดจะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้มีมากขึ้น ทำให้ FSS คาดว่า SET มีโอกาสที่จะแกว่งตัวลงอีกมากกว่า โดยนักลงทุนบางส่วนอาจชะลอการลงทุนเพื่อรอดูตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ของสหรัฐในค่ำวันนี้ รวมทั้งรอติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในค่ำวันศุกร์ด้วย
กลยุทธ์ : แม้ SET ยังทรงตัวได้แต่ขาดปัจจัยหนุน ทำให้เรายังแนะนำเลือกหุ้นค่อยๆ ทยอยซื้อสะสมเฉพาะช่วง SET ลบไว้ก่อนดีกว่า
แนวรับ 1545-1540 , 1538-1535 จุด
แนวต้าน 1550-1553 , 1556-1558 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BCH, TPOLY, GLOBAL(buy back)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$109ล้าน นำโดยอินโดนีเซีย US$55ล้าน ฟิลิปปินส์ US$54ล้าน และไต้หวัน US$43ล้านขณะที่ไหลเข้าไทยประเทศเดียว US$48ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางชะลอการไหลเข้าเพื่อรอคอยการประชุม Fed ในกลางเดือนนี้ โดยก่อนหน้านี้มีความกังวลว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
• (0) การจ้างงานสหรัฐศุกร์นี้ถูกจับตาเป็นพิเศษ เพราะมีผลต่อการตัดสินใจของ Fedตลาดคาด +1.85 แสนตำแหน่ง ถ้าดีกว่าคาด เป็นลบต่อหุ้น ทองคำ และโภคภัณฑ์
• (0) น้ำมันร่วง 3% แต่ไม่มีผลกับกลุ่มพลังงานไทย เห็นได้จากราคาน้ำมันเดือน ส.ค.ที่ +7% แต่ราคา PTTEP, PTTGC กลับนิ่ง มีเพียง TOP, SPRC ที่ปรับขึ้นตามค่าการกลั่นที่ขยับขึ้นจากจุดต่ำสุดมาอยู่ที่ US$5/บาร์เรล (แต่ยังห่างไกลจากจุดพีคที่ US$11/บาร์เรลใน 1Q16) แต่ราคาหุ้นใกล้เต็มมูลค่าแล้วทั้งคู่
• (0) แนวโน้มตลาดหุ้นเดือน ก.ย. ไฮไลท์ของการลงทุนในทุก Asset class ไม่ลำพังเฉพาะตลาดหุ้นไทยในเดือนนี้อยู่ที่การประชุม Fed 20-21 ก.ย. (ยังมีประชุม ECB 8 ก.ย.BOE 15 ก.ย. BOJ 21 ก.ย.) ทำให้ Fund Flow ถือโอกาสพักหลังจากไหลเข้าตลาดเอเชียอย่างมากนับตั้งแต่หลัง Brexit แม้โอกาสขึ้นดอกเบี้ยจะน้อย แต่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐหลายตัวแข็งแกร่งขึ้นอย่างชัดเจน ต่างชาติจึงเลือกที่จะรอความชัดเจน SET จึงน่าจะแกว่งแคบเพราะหุ้นขนาดใหญ่พักฐาน แต่เป็นเวลาของหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่พื้นฐานดีและมี story เฉพาะตัว ในดือนนี้เราจึงเลือก ARROW, BCH, BJC, BLA และ KTCภาพเทคนิค มองพักฐาน แนวรับเดือนนี้ 1,500 จุด +/-
• (+) แม้ PE ของ SET จะสูง แต่ยังเป็นที่หมายของ Flow ในอนาคต ตลาดหุ้นไทยปัจจุบันไม่ได้อยู่ในจุดที่ถูก SET มี Forward PE 16.4 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมาที่14 เท่า และสูงกว่าค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 15.6 เท่า อยู่เล็กน้อย แต่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลที่ต่ำ (2.0-2.3%) อัตราเงินปันผลที่ 3-3.2% และเศรษฐกิจในประเทศที่กำลังฟื้นทำให้ความน่าสนใจของหุ้นไทยยังมีอยู่ เรายังคง SET Target สิ้นปีนี้ที่ 1,650 จุด
• (+) BJC กำไรสุทธิจะเริ่มฟื้นตั้งแต่ 3Q16 เพราะค่าใช้จ่ายดีลซื้อ BIGC ลดลง และกำไรของ BIGC กลบภาระดอกเบี้ยจ่ายหมด แม้กำไรสุทธิปีนี้โตแรงแต่ EPS -50% Y-Y เพราะเพิ่มทุน แต่คาด EPS ปีหน้า +105% Y-Y ราคาหุ้น laggard กลุ่มฯมากในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา PE ปีหน้า 25 เท่าต่ำสุดใน Modern trade แนะนำซื้อ พื้นฐานปีหน้า 54 บาท
• (+) BLA การพักฐานของราคาหุ้นเป็นโอกาสดีในการทยอยสะสมเพิ่ม แนวโน้มกำไรใน2H16 ดีกว่าครึ่งปีแรก และมีความเป็นไปได้ที่ BLA จะกลับรายการสำรองส่วนเกินที่เหลืออีกราว 800 ล้านบาทใน 3Q16 เรายังคงราคาพื้นฐานปีนี้ 51 บาท
• (+) MTLS ราคาหุ้นปรับลงถึง 8% ในช่วงเกือบ 2 เดือนที่ผ่านมาก่อนรีบาวนด์แรงวานนี้โดยพื้นฐานยังคงแข็งแกร่งไม่เปลี่ยน ปัจจุบันมี PE 37 เท่าปีนี้และลดลงอย่างเร็วเหลือ27 เท่าปีหน้า จากกำไรที่เราคาด +56% Y-Y ปีนี้และ +31% Y-Y ในปีหน้า โตสูงกว่าSAWAD และหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์มาก การซื้อ Big lot ของนักลงทุนสถาบัน (3% ของทุนชำระแล้ว) 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาที่ราคาเฉลี่ย 18 บาทเท่ากับ PE 35 เท่า สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัท เราแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 28 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
31 ส.ค. - 2 ก.ย. - ไทย: Thailand Focus 2016 - A New Growth Strategy
1 ก.ย. - ไทย: RJH (ราคา IPO 16 บาท) เริ่มเทรด, ดัชนีความเชื่อมั่น
ผู้บริโภค (ส.ค.), อัตราเงินเฟ้อ (ส.ค.)
- จีน: Manufacturing & Non-manufacturing PMI (ส.ค.)
2 ก.ย. - เกาหลีใต้: 2Q16 GDP
- สหรัฐ: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงาน (ส.ค.)
5 ก.ย. - ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเนื่องในวัน Labor Day
- จีน: Caixin China PMI Composite (ส.ค.)
- ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (ส.ค.)
6 ก.ย. - ยูโรโซน: 2Q16 GDP
7 ก.ย. - ออสเตรเลีย: 2Q16 GDP
8 ก.ย. - ญี่ปุ่น: 2Q16 GDP
- ยูโรโซน: ECB ประชุม
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบต่อเนื่องโดยได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ร่วงลง ขณะที่นักลงทุนจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงานในวันพรุ่งนี้
(-) ทางฝั่งตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดในแดนลบเช่นกันโดยนักลงทุนตอบรับตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯจาก ADP และตัวเลขเศรษฐกิจในยูโรโซนที่ทรงตัว
(-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดในแดนลบโดยถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ร่วงแรงเมื่อคืน
(0) ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวออกข้าง ล่าสุดยังเคลื่อนไหวแถว 34.50-34.65 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ต.ค. ร่วงแรง 1.65 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 44.70 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังสต๊อกน้ำมันดิบรอบสัปดาห์ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินกว่าที่คลาดคาด
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ธ.ค. ร่วงลง 5.10 ดอลลาร์/ออนซ์มาอยู่ที่ 1,311.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ต่ำสุดในรอบ 2 เดือน หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรจาก ADP ที่แข็งแกร่ง ทำให้นักลงทุนกังวลว่า FED จะขึ้นดอกเบี้ยในระยะเวลาอันใกล้นี้
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research