- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 26 August 2016 17:09
- Hits: 3316
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
'เลือกซื้อ/ถือเมื่อ SET เหนือ 1540'
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET Index เมื่อวานนี้ปิดอ่อนลงเล็กน้อย -3.45 จุด ปิดที่ 1544.10 โดยนักลงทุนมีการ Take profit หลังราคาหุ้นและดัชนีปรับขึ้นเพราะระมัดระวังก่อนสิ้นสุดการประชุมประจำปีของเฟดในวันที่ 26 ส.ค.นี้ ซึ่งโอกาสที่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 20-21 ก.ย.ตามข้อมูลของ Bloomberg ขยับขึ้นเป็น 28% จากต่ำกว่า 20% ในสัปดาห์ก่อน นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อ 1 พันล้านบาท ส่วนอีก 3 กลุ่มที่เหลือกระจายกันขายสุทธิแต่กลุ่มละไม่มาก
ตลาดยังคงจับตามุมมองและสัญญาณเรื่องระยะเวลาการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ อย่างไรก็ดี เฟดอาจจะรักษาท่าทีระมัดระวังต่อมุมมองเศรษฐกิจและการส่งสัญญาณเรื่องระยะเวลาในการปรับขึ้นดอกเบี้ยก่อน เพราะสหรัฐจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 8 พ.ย.59 ซึ่งหากนายทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง นโยบายหลายอย่างโดยเฉพาะการค้าระหว่างประเทศอาจจะเปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งนี้แม้ว่าบนสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน (ภาคแรงงานฟื้นตัวดีและอัตราการว่างงานต่ำกว่า 5%, ราคาที่พักอาศัยปรับขึ้นต่อเนื่อง, เงินเฟ้อที่พิจารณาดัชนีใช้จ่ายส่วนบุคคลหรือ PCE ขยับเป็น 1.6% ใกล้เป้าหมายระยะยาวของเฟดที่ 2.0% ฯลฯ) เฟดควรที่จะค่อยๆขยับขึ้นดอกเบี้ยแล้วก็ตาม สำหรับเรื่อง Fund flow ตลาดหุ้นยังมีปัจจัยหนุนจาก Yield ที่ต่ำมากถึงติดลบในตลาดเงิน สำหรับในประเทศ ยังไม่ได้มีปัจจัยใหม่ที่มีนัยสำคัญ โดยยังคงเป็นการเลือกซื้อตามข่าวและปัจจัยพื้นฐานรายบริษัทเป็นหลัก ปัจจัยเสี่ยง คือ โครงการลงทุนภาครัฐอาจล่าช้ากว่าแผนที่ตั้งไว้
กลยุทธ์การลงทุน : ความไม่แน่นอนทำให้ต้องติดตามปัจจัยและตลาดอย่างใกล้ชิด การเข้าซื้อที่ราคาหุ้นโซนสูงไม่ควรหวัง Gap กำไรมาก เลือกซื้อ/ถือหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดีและยังเหลือ Upside พอสมควร และถ้ามีหุ้นอยู่ก็ควรพิจารณาแบ่งขายทำกำไรเมื่อราคาหุ้นปรับขึ้นสูงกว่าเป้าหมายที่ประเมินอย่าง Aggressive ไปแล้ว สำหรับหุ้นเชิงกลยุทธ์แนะนำวันนี้เป็น CPF
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นบวกเล็กๆ แต่ยังคงระวังการแกว่ง/อ่อน การซื้อใหม่จึงเน้นตามด้วยค่าบวก ค่าลบดูไม่ดีและควร Stop loss ถ้าต่ำกว่า 1540 จุด แนวต้านระยะสั้นอยุ่ที่ 1550-1560 จุด ส่วนแนวรับ 1520, 1500 จุด
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค & Retail research team - [email protected]
Need to know TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
- ญี่ปุ่น : อัตราเงินเฟ้อยังติดลบ
อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนก.ค. -0.4% ส่วนอัตราเงินเฟ้อที่ไม่รวมอาหาร -0.5% และอัตราเงินเฟ้อที่ไม่รวมอาหาร & พลังงาน +0.3% ซึ่งยังห่างจากอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายที่ 2% อย่างมาก ขณะเดียวกันการแข็งค่าของเงินเยนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มได้ช้าลง
+/ สหรัฐ : ภาคแรงงานฟื้นต่อ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนดีขึ้น จับตาถ้อยแถลงประธานเฟดและ GDP งวด 2Q59
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสวนทางคาดการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 261,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ส.ค.
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป +4.4% ในเดือนก.ค.59 หลัง -4.2% ในเดือนมิ.ย.59
ปัจจัยจัยตา คือ 1) ถ้อยแถลงของนางเยลเลนในการประชุมประจำปีวันนี้, 2) รายงาน GDP งวด 2Q59 และ 3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐขั้นสุดท้ายเดือนส.ค.59
/- ตลาดหุ้นสหรัฐ : ปิดอ่อนลงเล็กน้อย ... ชะลอการซื้อขายก่อนสิ้นสุดผลประชุมประจำปีเฟดศุกร์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,448.41 จุด ลดลง 33.07 จุด หรือ -0.18% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,212.20 จุด ลดลง 5.49 จุด หรือ -0.11% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,172.47 จุด ลดลง 2.97 จุด หรือ -0.14% นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่นางเยลเลนจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันนี้ โดยการประชุมครั้งนี้จัดขึ้นในหัวข้อ "การออกแบบกรอบนโยบายการเงินอย่างยืดหยุ่นสำหรับอนาคต" ซึ่งที่ผ่านมา เฟดมักจะแถลงนโยบายสำคัญในการประชุมนี้ค่อนข้างมาก ทั้งนี้หุ้นกลุ่ม Health care ยังลดลงต่อเพราะกังวลว่านางคลินตันจะเรียกร้องให้ลดราคายาหลายรายการถ้าได้เป็นประธานาธิบดี
/+ ราคาน้ำมันดิบ : รีบาวด์เล็กน้อย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 47.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 62 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 49.67 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามาหลังราคาร่วงแรงในวันก่อน
- ราคาทองคำนิวยอร์ก : ลดลงต่อ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 5.1 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ระดับ 1,324.6 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นการอ่อนตัว 2 วันต่อเนื่องเพราะกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าที่ตลาดประเมินไว้ ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้น
ปัจจัยในประเทศ & หุ้นเด่น
+ CPF (ราคาปิด 33.25 บาท, ราคาพื้นฐาน 40 บาท) : แนวโน้มไปดีในช่วง 2H59
บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 2Q59 ดีกว่าที่เราและตลาดคาดการณ์ไว้ โดยมีกำไรสุทธิถึง 4 พันล้านบาท เพิ่ม 34.7% y-o-y และ 6.7% q-o-q เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นทำได้ดีขึ้น และสูงสุดในรอบ 5 ปี เป็นผลราคาเนื้อสัตว์ในประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเนื้อหมู ธุรกิจกุ้งฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งและ Outperform อุตสาหกรรม ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ไม่ได้สูงมาก ธุรกิจในต่างประเทศบางแห่งเริ่มฟื้นตัว รวมทั้งบริษัทมีการควบคุมต้นทุนได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากไม่นับรายการพิเศษโดยเฉพาะรายการบันทึกเพิ่มภาษี 1.3 พันล้านบาทจากเกณฑ์ของสรรพากร และรายการพิเศษอื่นๆ กำไรหลัก (Normailsed profit) อยู่ที่ 4.6 พันล้านบาท ฟื้นตัวก้าวกระโดดเทียบกับ y-o-y ที่ขาดทุนสุทธิ 53 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าจาก 1Q59 แนวโน้มในช่วง 2H59 ยังไปได้ดี โดยราคาเนื้อไก่ในประเทศปรับขึ้นเป็นกว่า 40 บาท/กก. (จากประมาณ 36 บาท/กก.ในช่วง 2Q59) และราคาเนื้อหมูทรงตัวในระดับสูง ขณะที่ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ยังต่ำ ธุรกิจกุ้งฟื้นตัวดี ทั้งนี้แม้ว่าราคาเนื้อสัตว์ในประเทศอาจชะลอตัวลงไปในช่วงเทศกาลกินเจ แต่คาดว่าจะเป็นเพียงชั่วคราว (ราว 2 สัปดาห์) แล้วจะฟื้นตัวกลับขึ้นได้เนื่องจากอุปทานเนื้อสัตว์ในประเทศไม่สูง หลังรายงานงบการเงิน 2Q59 ทาง DBSV ได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 59 และปี 60 เพิ่มขึ้น 20%/15% ตามลำดับ และคงคำแนะนำซื้อ โดยให้ราคาพื้นฐาน 40 บาท อิงกับ P/E เป้าหมายปี 60 ที่ 26 เท่า
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]